ขับ Lexus NX300h เที่ยวพัทยา ประหยัด สวยงาม ลงตัว

     หลังจากเปิดตัว SUV ขนาดคอมแพคท์ระดับหรู The New Lexus NX300h อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยเป็นรถหรูพลังไฮบริดลำดับที่ 4 ของเลกซัส ต่อจาก Lexus GX, LX และ RX วันนี้ GPI NEWS ได้มีโอกาศทดสอบขับแบบใช้งานจริง ขับแบบชิลล์ ไปเที่ยว ทานข้าวร้านสุดเก๋ ที่เมืองพัทยากัน ไปดูกันว่าเจ้า NX300h จะขับดีและประหยัดขนาดไหน ร้านอาหารสวยและอร่อยขนาดไหนไปดูกันครับ

     Lexus NX300h พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Premium Urban Sport Gear ที่เน้นการใช้งานในเมือง ภายนอกคงเอกลักษณ์ของเลกซัสยุคใหม่ด้วยกระจังหน้าทรง Spindle Grille เสริมด้วยลวดลายแบบ 3 มิติ ชุดไฟ LED รอบคัน ไฟหน้า LED 3-eye projector-type ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว และให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีบริเวณด้านหลังและด้านข้าง ปิดท้ายด้วยไฟวิ่งกลางวัน Daytime running lights ทรงบูมเมอแรง อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเด่นของรถจากเลกซัส

     เส้นสายรอบคันที่เฉียบคมทำให้ตัวรถดูสปอร์ต สวยงาม ลงตัว ภายในเน้นความหรูหรา และความสะดวกสบายในทุกการใช้งานเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า นั่งสบายไม่เมื่อยล้าแม้ต้องขับระยะทางไกลๆ ห้องโดยสารภายในดูหรูหราลงตัว ประตูท้ายรถควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า อาจจะเปิดช้าไม่ทันใจเท่าไหร่ แต่สะดวกสบายดี พร้อมฟังก์ชั่นการตั้งค่าองศาการเปิดประตูได้ 5 ระดับสวิตช์ควบคุมไฟส่องสว่างบริเวณคอนโซลเหนือศีรษะแบบสัมผัสที่ชาร์จแบบไร้สายบริเวณกล่องคอนโซนกลาง รองรับระบบชาร์จไฟแบบ Qi system, ระบบ Multimedia coordination function ผสานการทำงานของระบบมัลติมีเดีย

     หน้าจอแสดงผล EMV – Electro Multi-Vision ขนาด 7 นิ้ว บริเวณกึ่งกลางแผงควบคุม จอมัลติมีเดียแบบ TFT – Thin Film Transistor ขนาด 4.2 นิ้วบริเวณมาตรวัด และระบบ Remote touch interface ใหม่ เทคโนโลยี Touchpad ช่วยให้สั่งการระบบนำทางหรือระบบเครื่องเสียงได้สะดวก ง่ายดาย

 

     เริ่มออกเดินทาง ขับออกจากถนนวิทยุ รถติดแบบบ้าคลั่ง แต่ก็สบายเพราะเจ้า NX300h เป็นรถไฮบริด ที่มีโหมดในการขับได้ 4 รูปแบบ คือ Normal, Eco, Sport และ Sport+ ผมใช้โหมด ECO จึงช่วยประหยัดน้ำมันสบายกระเป๋าจริงๆ และถึงแม้จะคันใหญ่แต่ก็มีความคล่องตัวอยู่พอสมควร หลุดรถติดออกมาได้

     ขึ้นทางด่วนรถเริ่มน้อยกดเปลี่ยนเป็นโหมด Sport เพื่อลองสมรรถนะกันหน่อย เครื่องยนต์ระบบขับเคลื่อนไฮบริด Lexus Hybrid Drive ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle รหัส 2AR-FXE แบบ 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร VVT-i กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ที่ช่วง 4,400 – 4,900 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัส 105 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่า 143 แรงม้า กำลังรวมทั้งระบบ 197 แรงม้า ทำงานผสานกับระบบส่งกำลังเป็นแบบอัตโนมัติ Super CVT-i 6 จังหวะรุ่นใหม่ คำนวณแรงบิดให้เหมาะสมกับรูปแบบการขับขี่

 

       กดคันเร่งลงไปรู้สึกได้ถึงความแต่งต่างระหว่างโหมด ECO และ Sport กดคันเร่งลงไปรถก็พุ่งออกไปได้อย่างรวดเร็วทันใจ อัตราเร่งทำได้ดีเลยทีดียวเผลอแปปเดียวความเร็วไปแตะที่ 170 กม./ชม.ได้แบบสบายๆ การเร่งแซงทำได้แบบสบายไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย ช่วงล่างก็สามารถดูดซับแรงสะเทือน และแรงกระแทกจากท้องถนนได้ดี นุ่นนวล หนึบ แน่น การเค้าโค้งด้วยความเร็วก็สามารถทำได้อย่างมั่นใจ การเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกก็ทำได้ดี

     มาถึงพัทยาช่วงบ่ายๆวันศุกร์ เช็คอินเข้าที่พักกันก่อนทริปนี้เราพักเคป ดารา รีสอร์ท พัทยา ที่ตั้งอยู่บนหาดส่วนตัวของแหลมดารา ในเขตพัทยาเหนือ แม้ว่าจะยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ “เคป ดารา” ก็เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน เนื่องด้วยสถานที่ตั้งที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก สะดวกต่อการเดินทาง อีกทั้งพื้นที่ยังล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติเขียวขจี มีชายหาดส่วนตัวที่สงบเงียบ และทุกห้องพักยังสามารถชื่นชมทิวทัศน์รอบๆ ได้อย่างเต็มที่ด้วยระเบียงส่วนตัว ชิลล์มากครับขอบอก เอาของไปเก็บในห้อนเรียบร้อย เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกไปหาอะไรอร่อยๆทานกันดีกว่า

 

ขับเจ้า NX300h ออกมาแน่นอนครับด้วยตัวรถที่สวยงามดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว เลยทำเอาทั้งฝรั่ง ทั้งไทย เหลียวหลังมองกันเป็นแถว ออกมาแปปเดียวก็พบกับการจราจรยามเย็นของเมืองพัทยา ติดไปแพ้กรุงเทพเลยครับ แถมถนนแคบอีกต่างหาก แน่นอนความคล่องตัวของเจ้าคันนี้ใช้ได้เลยทีเดียว แถมไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำมันเวลารถติดนานๆเพราะใช้ไฟฟ้า แหมม สบายใจจริงครับ

เรามุ่งหน้าไปที่หาดจอมเทียน เพราะได้ข่าวมาว่ามีร้านเปิดใหม่ชื่อว่า Sense of the sea ตกแต่งสไตล์โมเดิ้ล อาหารสดอร่อย บรรยากาศดี วันนี้ละผมจะไปลองชิมกันหน่อย ขับเลียบชายหาดจอมเทียนมาเรื่อยๆก็จะพบเจ้าน้องหมาลูกโป่งตัวใหญ่ยืนหันหน้ามองทะเลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของร้าน เลี้ยวเข้าไปถอยจอด สบายครับไปต้องกลัวชนเสา ทับเด็ก เพราะมีกล้องมองหลัง แถมยังมีเช่น Panoramic view monitor แสดงผลภาพมุมสูงบนหน้าจอ EMV ที่กลางแผงควบคุม แถมยังมีระบบความปลอดภัย เช่นระบบ Blind spot monitor system ช่วยเตือนจุดบอดเพื่อช่วยตรวจจับรถยนต์คันอื่นๆ หรือสิ่งกีดขวางต่างๆ ในตำแหน่งที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้จากกระจกมองข้าง

ระบบ Rear Cross Traffic alert ตรวจจับรถที่วิ่งตัดมาทางด้านข้างขณะถอยรถ แต่ถ้ารำคาญก็สามารถกดปิดได้, ระบบ Wide-angle cornering lamps ไฟส่องสว่างมุมข้างที่จะช่วยให้เห็นทิศทางการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น และ SRS airbags ถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง เพื่อความปลอดภัยสุดยอดครับ เดินเข้าร้านพนักงานต้อนรับดีมากครับคอยดูแลไม่ห่าง นั่งชิลล์ๆฟังเพลงมองพระอาทิตย์ตกลับหายไปในทะเล ที่เป็นวิวแบบพาโนรามา สวยงามเกินบรรยาย ไม่คิดว่าพัทยาจะมีวิวดีๆขนาดนี้ ผ่านไปผ่านมาแถวนี้ต้องลองนะครับร้านนี้ สุดจริงๆ

 

     สรุปครับ ผมวิ่งไปกลับพัทยา กดเล่นทั้งโหมด ECO และ Sport มีการเร่งแซง และคลิกดาวน์อยู่ตลอดเวลา แถมเจอรถติด สรุปใช้น้ำมันไปประมาณครึ่งถัง กลับระยะทางไปกลับ เกือบ300 กิโลเมตร และด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่น ที่มีทั้ง ความประหยัด ขับสนุก ช่วงล่างแน่น รูปทรงที่สวยงามสะดุดตา ประกอบกับระดับราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นเริ่มต้นที่ 2,790,000 -3,990,000 บาทแลกกับเทคโนโลยีต่างๆ ความประหยัด ความสวยงามหรูหรา ขับสนุก ผมว่าคุ้มครับ แถมได้รับการรับประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับสิทธิ์เป็นสมาชิก LEXUS Club พร้อมความอุ่นใจในทุกการเดินทางด้วยบริการ เลกซัส เซอร์วิส คอร์เนอร์ ทั้ง 10 แห่ง ทั่วประเทศ

 

 

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์ เรียบเรียงข้อมูลโดย www.gpinews.com ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th