เกียร์ CVT ใช้อย่างเข้าใจ..ไม่มีวันพัง

เกียร์ CVT ใช้อย่างเข้าใจ..ไม่มีวันพัง

เกียร์ CVT ใช้อย่างเข้าใจ..ไม่มีวันพัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัจจุบัน เราปฏิเสธไม่ได้ว่าระบบเกียร์อัตโนมัติเข้ามามีบทบาทในการใช้งานกับรถยนต์ยุคใหม่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบเกียร์อัตโนมัติแบบใหม่ที่เรียกว่า CVT นั้น เดี๋ยวนี้แทบจะเห็นได้ในรถทุกรุ่นทุกยี่ห้อเลย ทั้งจากญี่ปุ่นและยุโรป แต่มีคนจำนวนมากใช้งานอย่างไม่เข้าใจและทำให้ต้องกระเป๋าแบนไปนักต่อนักแล้ว

ระบบเกียร์ CVT ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ระบบส่งกำลังที่เราใช้กันว่าไฮเทคสุดยอดในวันนี้นั้น มันเป็นแนวคิดที่เกิดมาจากสุดยอดศิลปิน วิศวกร และนักปรัชญา ที่เรารู้จักเขากันในนาม ลีโอนาโด ดาวินชี ที่ได้สเก็ตภาพออกแบบถึงระบบส่งกำลังที่ทำงานอย่างต่อเนื่องและไม่สะดุดในการทำงานหรือเปลี่ยนการให้กำลัง

ถ้าเปรียบเทียบระบบ CVT กับระบบเกียร์อัตโนมัติทั่วไปนั้น มันมีความแตกต่างที่เราควรจะต้องพูดว่าระบบ CVT หรือ Continous Variable Transmission นั้นน่าจะไม่ควรถูกเรียกว่าชุดเกียร์ เพราะการทำงานของมันนั้นแปรผันตามพละกำลังที่ส่งมาจากเครื่องยนต์โดยตรง

ภายในระบบเกียร์ CVT ที่นิยมใช้ในรถยนต์ปัจจุบันนั้น จะประกอบด้วยชุดกรวย 2 ชิ้นที่เป็นหลักในการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อ โดยที่ตัวหนึ่งจะถูกต่อเข้ากับเครื่องยนต์ เรียกว่า “พูเล่ย์ขับ” ส่วนอีกตัวเป็นพูเลย์ที่จะให้อัตราทดเรียกว่า “พูเล่ย์กำลัง” ซึ่งทั้งสองจะทำงานสอดคล้องกันผ่านสายพานที่คล้องผ่านทั้งคู่

เมื่อเราขับรถไปในถนนกำลังจากเครื่องยนต์จะถูกส่งผ่านพูเล่ย์ขับ โดยในยามที่เราใช้อัตราทดต่ำ พูเล่ยกำลังจะมีระยะชันสูงทำให้มีอัตราทดที่สูง และการทำงานจะแปรผันเรื่อย จนเมื่อถึงเกียร์สูงสุดการทำงานก็จะสลับกันระหว่าง พูเล่ย์ขับที่ชันตัวสูงขึ้นและ พูเล่ย์กำลังที่ต่ำลง

ระบบจะทำงานเช่นนี้ไปเรื่อย และนั้นหมายความว่าระบบเกียร์ CVT นั้นไม่ได้ขับผ่านชุดเฟืองกันอย่างที่เข้าใจ ซึ่งการที่มันขับผ่านด้วยระบบสายพานนี้ ทำให้มันค่อนข้างเปราะ และมีการกล่าวว่าการใช้เกียร์ CVT ในสภาวะสุดขั้วโดยเฉพาะในเขตเมืองที่ขับๆจอดๆ จะทำให้เกียร์เสื่อมสภาพไวกว่าปกติ

แม้ว่าจะระบบส่งกำลังประเภทนี้จะค่อนข้างมีปัญหาได้ไงเมื่อใช้ไปนานๆ แต่ CVT ก็มีข้อดีที่ให้อัตราเร่งที่สเถียรมากยิ่งขึ้น และให้อัตราประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น และถึงเราจะกล่าวว่า CVT จะมีข้อเสียที่เกิดจากการออกแบบที่มองไม่น่าจะทนกำลังมากนัก แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะเราสามารถป้องกันได้ง่ายๆ

1. ปลี่ยนนิสัยการขับ เกียร์ CVT นั้นมันเป็นระบบส่งกำลังที่ออกแบบมาให้สามารถส่งกำลังได้นิ่มนวลกว่าระบบเกียร์อื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคุณรู้ว่าเกียร์นี้ขับด้วยสายพาน ก็แน่นอนว่า มันต้องขับแบบทะนุถนอมสักนิด

การขับแบบกระชากสไตล์สปอร์ตนั้น คงไม่ใช่เรื่องดีเสียเท่าไรนัก เนื่องจากการกระชากเกียร์โดยเฉพาะระบบ CVT จะทำให้เกียร์มีปัญหาได้ในอนาคต ซึ่งการที่ส่งกำลังผ่านพูเลย์ด้วยชุดสายพาน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบออกเกียร์ตัวให้ล้อดังเอี๊ยด ด้วยการกระชากตัว จงหยุดเสีย เพราะนี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ชุดเกียร์เสื่อมสภาพเร็วและพังได้มากที่สุด

2.ข้าใจใน CVT เราได้อธิบายถึงการทำงาน CVT ไปพอสมควรแล้ว และคุณรู้ว่ามันมีการทำงานเช่นไร แต่ที่สำคัญนั้นคือการดูแลรักษา ซึ่งปกติจะได้รับคำแนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ประมาณ 20,000-40,000 กิโลเมตร แต่ในสภาพการขับขี่จริง หากชีวิตคุณอยู่ในเมืองมากกว่า 80 % นั้น เราขอแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันทุกๆ 17,000 กิโลเมตร เพราะ การที่เราขับๆหยุด แต่ระบบเกียร์จะยังทำงานทำให้เกิดความร้อนสะสมมากกว่าที่เราขับไปเรื่อยๆตามชนบท และเมื่อมีความร้อนมากก็หมายถึงมีการเสื่อมสภาพที่เร็วขึ้น

ทั้งนี้จงจำไว้ว่าเราต้องใส่ใจในการใช้งานรถยนต์อย่างสม่ำเสมอไม่เฉพาะระบบเกียร์ CVT ที่เราได้พูดถึงกันในวันนี้ แต่หมายถึงทุกระบบในรถที่เราต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ จึงจะใช้งานได้อย่างถูกต้อง ซึ่งCVT นั้นมีหลายคนไม่ทราบว่าเกียร์ทำงานอย่างไร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและท้ายที่สุดมีปัญหาเกิดขึ้น

 

Sanook Auto Comment

 

เป็นเรื่องที่แปลกแต่จริง เพราะมีคนจำนวนมากไม่ทราบว่า ระบบเกียร์ CVT ที่ทันสมัยนั้นทำงานผ่านชุดพูเล่ย์เพียง 2 ตัว ในเสื้อเกียร์ที่สามารถปรับลด-เพิ่มอัตราทดเกียร์ ในลักษณ์คล้ายแบบเดียวกับที่มีในรถจักรยาน

ทั้งนี้ด้วยความที่ไม่รู้ถึงระบบการทำงานทำให้หลายคนใช้งานอย่างผิดๆ โดยเฉพาะ การออกตัวแบบกระชาก ส่งผลให้ชิ้นส่วนภายในเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ และทำให้ชุดส่งกำลังเสียได้ในที่สุด ดังนั้นการใช้งานระบบ CVT ควรจะทำความเข้าใจสักนิดแล้วมันจะอยู่เราไปอีกนาน

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook