รีวิวที่จอดรถอัตโนมัติสุดล้ำแห่ง 'The EmQuartier'

รีวิวที่จอดรถอัตโนมัติสุดล้ำแห่ง 'The EmQuartier'

รีวิวที่จอดรถอัตโนมัติสุดล้ำแห่ง 'The EmQuartier'
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     เปิดตัวกันไปแล้วสำหรับ ‘The EmQuartier’  ห้างสรรพสินค้าสุดหรูใจกลางเมืองบนถนนสุขุมวิท ที่รวบรวมเอาสินค้าหรูแบรนด์ดังจากทั่วโลกมาไว้ให้ขาช็อปได้เพลิดเพลินกัน แต่ความพิเศษของห้างแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความหรูหราเท่านั้น เพราะบริเวณชั้นใต้ดินของ ‘ดิ เอ็มควอเทียร์’ ยังได้นำเอาระบบจอดรถอัตโนมัติมาให้บรรดาเสี่ยกระเป๋าตุงได้ใช้บริการกันด้วย เห็นที Sanook!Auto ต้องลองไปสัมผัสกันบ้างแล้วล่ะ


     จริงๆแล้วที่จอดรถของห้าง The EmQuartier นั้น มีทั้งจอดแบบปกติและจอดแบบอัตโนมัติ รวมไปถึงที่จอดรถพิเศษสำหรับซุปเปอร์คาร์ราคาแพงระยับด้วย แต่ทางเข้าที่จอดรถอัตโนมัติที่เราจะพาไปชมกันนั้น อยู่บริเวณชั้นใต้ดินของตึก Helix Quartier (อาคาร A) ซึ่งสามารถเข้าทางซอยสุขุมวิท 35 ได้เลย แต่หากขับขึ้นไปยังทางเข้าหลักของห้างแล้วก็ไม่เป็นไรจ๊ะ เพราะจะเจอป้ายให้วนออกไปทางด้านข้างเพื่อลงไปยังที่จอดรถอัตโนมัติที่ว่านี้อยู่ดี



     เมื่อแล้วเข้ามาตรงปากทางเข้าก็จะเจอป้าย ‘Automated Parking’ ให้เราขับลงไปได้เลย



     เมื่อลงมาแล้วต้องรับบัตรก่อนนะจ๊ะ ซึ่งก็เป็นบัตรจอดรถเหมือนกับห้างทั่วๆไปนั่นแหละ เพียงแต่เราจะต้องใช้บัตรนี้ในการเข้าจอดและรับรถสำหรับที่จอดแบบอัตโนมัตินี้ด้วย



     เมื่อขับลงมาก็จะเจอกับประตูลิฟท์ขนาดใหญ่จำนวน 2 ตัว ซึ่งก็มีคิวกำลังให้บริการอยู่อย่างที่เห็นในภาพนั่นเอง แต่น่าสังเกตว่า หากมาใช้บริการในวันหยุดสุดสัปดาห์แล้วล่ะก็ อาจจะต้องรอคิวกันนานกว่านี้แน่



     เมื่อถึงคิวของเรา ก็เพียงนำขยับรถไปจอดรอไว้หน้าลิฟท์ ซึ่งระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ก็จะคอยอำนวยความสะดวกให้เสร็จสรรพ



     แหงนหน้าขึ้นไปก็จะเห็นป้ายคำเตือนต่างๆในการใช้บริการที่จอดรถอัตโนมัติ ซึ่งข้อกำหนดของรถที่สามารถใช้บริการมีดังนี้

  • ความยาวตัวรถไม่เกิน 5.2 เมตร
  • ความสูงตัวรถไม่เกิน 2 เมตร ช่องล้อสูงไม่น้อยกว่า 12 เซนติเมตร
  • ความกว้างตัวรถไม่เกิน 2.15 เมตร
  • น้ำหนักไม่เกิน 2,220 กิโลกรัม

     นอกจากนั้น ยังมีข้อกำหนดในการใช้บริการปลีกย่อย เช่น ผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยจะต้องลงจากรถเสียก่อน, ขับเข้าไปในลิฟท์อย่างช้าๆ, ห้ามถอยหลังเข้าลิฟท์ และต้องจอดรถให้อยู่ตำแหน่งกึ่งกลางของตัวลิฟท์



     สังเกตป้าย LED ด้านบนจะระบุลักษณะตัวรถของเราด้วย ซึ่งในที่นี้คือ ‘SEDAN’ เนื่องจากผู้เขียนขับรถเก๋งเข้าไปนั่นเอง



     แต่นแต๊น! ไม่นานประตูลิฟท์ก็เปิดออก เราก็ค่อยๆ ขับรถเข้าไปอย่างช้าๆ จะมีเจ้าหน้าที่คอยโบกมือให้ขยับซ้ายขวาจนกว่าจะเข้าที่ สาวๆที่ยังขับรถไม่ค่อยคล่องสบายใจได้เลย รับรองจอดไม่เบี้ยวแน่นอน



     เมื่อจอดรถเข้าที่เรียบร้อย ก็จัดการดับเครื่องยนต์, พับกระจก, ดึงเบรกมือ และลดเสาอากาศให้เรียบร้อยเสียก่อน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนย้าย และที่สำคัญที่สุดคือ อย่าลืม ‘ล็อครถ’ กันด้วยล่ะ



     จากนั้น ให้เรานำบัตรจอดรถของเรา ไปแตะบริเวณเครื่องอ่านบัตรด้านหน้าตัวลิฟท์ ระบบก็จะให้ทำการยืนยันด้วยการกดปุ่ม ‘YES’ จากหน้าจอก็จะแสดง Parking Number ของเรา ซึ่งในที่นี้ก็คือ ‘1246’ อย่างที่คุณผู้อ่านเห็นนั่นเอง



     ไม่นานประตูลิฟท์ก็จะค่อยๆ ปิดลง พร้อมกับนำรถของเราไปจอดให้โดยอัตโนมัติ สบายจริงๆเลย...



     หลังจากช็อปปิ้งกันจนเมื่อยตุ้ม ให้กดลิฟท์ลงมายังชั้น B ของตึก Helix Quartier ก็จะเจอกับ Lounge ให้นั่งระหว่างรอรถ ซึ่งการเรียกรถนั้น ก็เพียงแต่นำบัตรจอดรถมาแตะยังเครื่องสแกนที่ตั้งอยู่ในเลานจ์ จากนั้นระบบจะให้กดยืนยันเพื่อเรียกรถของเราขึ้นมา



     ในเลานจ์ยังมีบริการเครื่องดื่มประเภท กาแฟ น้ำเย็น ระหว่างนั่งรอรถให้อีกด้วย แต่ยังไม่ทันจะได้หย่อนก้นลงบนเก้าอี้ เจ้าหน้าที่ก็วิ่งเข้ามาเรียกให้ออกไปรับรถซะแล้ว เรียกได้ว่ารวดเร็วทันใจจริงๆ



     ปิดท้ายด้วยบริการเปิดประตูของน้องเจ้าหน้าที่ ที่เติมเต็มประสบการณ์ความหรูหราไฮโซของห้าง ดิ เอ็มควอเทียร์ ได้เป็นอย่างดี

     เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับบริการที่จอดรถรูปแบบใหม่ของห้าง The EmQuartier แห่งนี้ ใครว่างๆ แวะไปช็อปปิ้งก็อย่าลืมไปลองใช้บริการกันดูนะครับ รับรองชีวิต 'ดี๊ดี' แน่นอน



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook