ขายรถมือสองยังไงไม่ต้องผ่านนายหน้า

ขายรถมือสองยังไงไม่ต้องผ่านนายหน้า

ขายรถมือสองยังไงไม่ต้องผ่านนายหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     "จะขายรถด้วยตัวเอง ต้องทำอย่างไร?" เชื่อว่าก้าวแรกของใครหลายคนมักเริ่มต้นที่คำถามนี้ และมีจำนวนไม่น้อยก็จบความคิดที่จะขายรถด้วยตัวเองลงที่ตรงนี้ เพราะไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นยังไง? ใช้เงินเท่าไหร่? ยาก-ง่ายแค่ไหน?


     การจะขายรถเก่าของตัวเองที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว หรือที่เรียกว่ารถมือสองนั้นมีอยู่หลากหลายวิธี บางคนอาจคิดว่าการขายรถด้วยตัวเองเป็นทางเลือกที่ฉลาด เพราะไม่จำเป็นต้องจ่ายค่านายหน้า หรือโดนคนกลางกดราคาจนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่บางครั้งหลายคนก็เลือกที่จะขายให้เต็นท์รถแทนที่จะขายให้กับผู้ซื้อโดยตรง เพราะไม่รู้วิธีการขั้นตอน ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ไม่รู้จะปล่อยรถได้ที่ไหน แล้วรถราคาเป็นแสนเป็นล้านก็ใช่ว่าจะขายกันได้ง่ายๆ แบบมาม่า ไวไว แถมเศรษฐกิจช่วงนี้ก็ไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ ยุคนี้สมัยนี้การประกาศขายแบบเดิมๆ นั้นคงไม่ได้ผล เราลองมาหากลยุทธ์ใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ขายรถได้ง่ายรวดเร็วมากขึ้นด้วยวิธีต่อไปนี้

 

     เริ่มจากความประทับใจแรก

     ก่อนคิดจะประกาศขายรถ คุณควรดูแลรถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด ทำความสะอาดทั้งคันไม่ว่าจะเป็นภายนอก ภายใน หรือแม้แต่ห้องเครื่อง ขัดเงาเคลือบสี เช็คสภาพยางให้ดูดี ถ้าลายดอกยางสึกจนโล้นลายหายไปเลยก็ควรเปลี่ยนใหม่ ตรวจสอบส่วนที่ขาดหายหรือแตกหักแล้วซื้อหามาเปลี่ยน เป็นขั้นตอนสำคัญอันดับแรกที่จะต้องดำเนินการก่อนขายรถเสมอ เพื่อโชว์รถในสภาพที่ดีที่สุด ให้มีความน่าสนใจและดึงดูดใจมากที่สุด พร้อมสำหรับการนำเสนอออกขายนั่นเอง

     ขึ้นชื่อว่าเป็นรถมือสอง ไม่ว่าใครก็ล้วนถูกใจรถที่ผ่านการดูแลมาเป็นอย่างดี ดังนั้น หากคุณสามารถทำให้รถของคุณเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปได้ ก็เท่ากับเป็นการขยายโอกาสในการขายให้เพิ่มมากขึ้น คนส่วนใหญ่มักจะไม่ยอมเสียเวลาและเงินทองในการซ่อมทำสีและทำความสะอาดรถ ทำให้การขายรถคันนั้นต้องล้มเหลวตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้น ขอให้ระลึกไว้ว่าจุดบกพร่องเล็กน้อยในความรู้สึกของเจ้าของรถมักจะกลายเป็นจุดบกพร่องที่มีในความสำคัญในสายตาของผู้ซื้อเสมอ

 

     รวบรวมรายละเอียดข้อมูลรถให้ครบถ้วน

     เมื่อจัดการขัดสีฉวีวรรณรถคันที่จะขายให้กลายเป็นสินค้าที่ต้องตาต้องใจของผู้พบเห็นได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการหาประวัติรถและรวบรวมข้อมูลเหล่านั้นให้ครบ เพราะในการลงโฆษณาจะต้องระบุรายละเอียดรถให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น รุ่น โฉมปี สีรถ ระยะทางที่ใช้รถไปกี่กิโลเมตร ยังติดผ่อนกับไฟแนนซ์อยู่ แล้วยังติดผ่อนอยู่อีกกี่งวด ต้องจ่ายงวดละเท่าไหร่ หรือเคยโดนชนมาแล้ว ซ่อมมากี่จุด รถมีปัญหาตรงไหน เคยปรับเปลี่ยนอะไรภายในมาบ้าง หรือลักษณะที่น่าสนใจ เช่น เป็นรถใช้น้อย สภาพดีไม่มีชนหนัก เพื่อที่ผู้ซื้อจะได้รู้ว่าต้องไปทำอะไรต่อหลังจากซื้อไปแล้ว บอกให้หมด อย่าปกปิดเพราะกลัวราคาขายจะตก เพราะยังไงก็ดีกว่าโดนสาปแช่งภายหลัง

     และอย่าลืมถ่ายภาพให้เห็นสภาพรวมของรถทั้งภายนอกและภายใน โดยเน้นไปที่จุดที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษที่อาจส่งผลต่อราคาขาย เช่น เครื่องยนต์ ช่วงล่าง เบาะ จอ หรือเครื่องเสียงที่ปรับแต่งมาใหม่ เป็นต้น

 

     ประเมินราคาตลาดและตั้งราคาให้เหมาะสม 

     การกำหนดราคาขายให้เหมาะสม ถ้ากำหนดราคาไว้ต่ำเกินไป แม้จะช่วยให้ขายรถได้เร็ว แต่คุณก็จะเสียรายได้ในส่วนที่ควรจะได้รับไป ขณะเดียวกัน หากตั้งราคาไว้สูงเกินไป ผลที่ตามมาก็จะทำให้รถขายไม่ออกเสียที ดังนั้น ราคาที่เหมาะสมที่สุดก็คือราคาขายที่สอดคล้องกับราคาตลาดที่แท้จริง หรือที่เรียกกันว่าราคากลาง  ซึ่งคุณอาจจ้างผู้ประเมินราคามืออาชีพ หรือเอารถเข้าไปเต็นท์รถตีราคาเป็นราคา เต็นท์รับซื้อเข้า หรือดูราคาตามหนังสือพิมพ์ หนังสือประเภทขายรถโดยเฉพาะ หรือจากเว็บไซต์ซื้อ-ขายรถมือสองต่างๆ เพื่อนำมาใช้ตั้งราคาขายที่เหมาะสมต่อไป

     การดูราคากลางของรถที่ลงประกาศนั้นดูไม่ยาก ลองเปรียบเทียบจากรถรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน แล้วตั้งราคาเป็นเลขกลมๆ คร่าวๆ เอาไว้ โดยราคาควรจะอยู่ระหว่างราคากลางกับราคา เต็นท์รับซื้อเข้า ถ้ารถของคุณอยู่ในสภาพดี เป็นรถที่นิยมในตลาด และคุณเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ก็อาจตั้งราคาให้สูงกว่าราคากลางสักนิดหน่อย หรือจะตั้งราคาเผื่อไว้สำหรับการต่อรองกับผู้ซื้อก็ได้

 

     ช่วยหาแหล่งสนับสนุนการเงินให้ผู้ซื้อ 

     เงื่อนไขทางการเงินที่เป็นตัวกำหนดความเป็นไปได้ในการซื้อขายรถมีอยู่ 2 ข้อ ข้อแรกคือจำนวนเงินดาวน์ว่ามากน้อยแค่ไหน ส่วนอีกข้อคือจำนวนเงินที่ผ่อนชำระรายเดือน หากเงื่อนไขทั้งสองข้อสอดคล้องและเหมาะสมกับสถานะทางการเงินของผู้ซื้อ โอกาสที่จะขายรถได้ก็จะเปิดกว้างขึ้น ซึ่งคุณอาจจำเป็นจะต้องเข้าไปช่วยเหลือผู้ซื้อในเรื่องเหล่านี้ หรือช่วยแนะนำว่าควรกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงินใด เงินดาวน์และเงินผ่อนชำระรายเดือนควรจ่ายเท่าไร อัตราดอกเบี้ยเท่าไร เป็นต้น

 

     ช่องทางการประกาศขายรถมือสองและกลยุทธ์แบบใหม่

     การประกาศขายรถมือสองด้วยตัวเองมีอยู่หลายทางด้วยกัน วิธีเดิมๆ ที่นิยมทำกันมากที่สุดคือเขียนป้ายประกาศขายพร้อมเบอร์โทรศัพท์ตัวใหญ่ๆ แปะไว้ที่กระจกรถให้อ่านจากภายนอกได้อย่างชัดเจน แล้วนำไปขับใช้งานตามปกติ หรือเอารถไปจอดตามสถานที่ที่มีผู้คนสัญจรพลุกพล่านแล้วทำป้ายประกาศขายวางไว้บนหลังคา หรือบางทีก็ติดป้ายตามตรอกซอกซอย ซึ่งข้อความควรเน้นสั้นๆ ได้ใจความ และลงเบอร์โทร หรือช่องทางการติดต่อที่สะดวก และเวลาที่สามารถติดต่อได้ให้เด่นชัด

     นอกจากนี้ ระยะหลังๆ ที่เห็นใช้กันมากคือการลงประกาศขายกันตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือหนังสือประเภทขายรถโดยเฉพาะ ถ้าแบบธรรมดาหน่อยก็ลงประกาศฟรี ถ้าอยากเพิ่มความโดดเด่นก็ต้องเสียค่าพื้นที่ประกาศที่อาจจะกว้างเป็นพิเศษ หรือมีการลงรูปประกอบให้ด้วย แต่สำหรับยุคสมัยนี้ที่โลกมีการสื่อสารที่ทันสมัยเชื่อมต่อถึงกันแค่ปลายนิ้ว อินเตอร์เน็ตกำลังจะกลายเป็นสื่อกระแสหลัก ผู้คนมักซื้อ-ขายของผ่านโลกออนไลน์กันมากมาย ตั้งแต่ของชิ้นเล็กไปจนถึงชิ้นใหญ่อย่างรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบเว็บไซต์หรือสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ค เพราะเป็นช่องทางติดต่อสื่อสารโดยตรงกับกลุ่มลูกค้าได้ตลอดเวลา สะดวกในการลงประกาศ และเกือบทั้งหมดลงได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

 

     หรือถ้าจะให้ล้ำกว่านั้น เว็บไซต์กรุงศรีมาร์เก็ตดอทคอม www.krungsrimarket.com ก็มีฟังก์ชั่นพิเศษที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้ขายรถอย่างครบครัน อาทิ ฟังก์ชั่นการสื่อสารผ่านทางอีเมล ให้ผู้ขายและผู้ซื้อรถสามารถติดต่อกันโดยตรงอย่างสะดวกและรวดเร็ว ฟังก์ชั่นประกาศขายแล้วแชร์ลงบนเฟซบุ๊ค ลงประกาศปุ๊บก็ขึ้นแสดงผลให้ทันที รวดเร็ว มีคนดูมาก และฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุด ให้คุณประกาศขายรถผ่าน QR Code ที่สามารถสแกนดูประวัติรถโดยไม่ต้องเสียเวลามานั่งบอกข้อมูลรายละเอียดกับผู้ซื้อ ให้ผู้สนใจซื้อรถสแกนโค้ดเพื่อเข้าถึงข้อมูลรถได้ทันที ทุกที่ ทุกเวลา และยังสามารถเข้าไปดูที่ป๋าเดอะซีรีย์ 

 

     แล้วการขายรถมือสองด้วยตัวเองก็กลายเป็นเรื่องง่าย ด้วยเทคนิคการขายแบบใหม่ทันยุคทันสมัยในแบบดิจิตอล ที่ กรุงศรี มาร์เก็ต รับรองว่าสะดวกกว่าเดิมเป็นไหนๆ แถมขายได้ไวทันใจแน่นอน


 

 

     [Advertorial]

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook