ลูกสาว "พอล วอล์คเกอร์" ฟ้อง "ปอร์เช่" ทำรถไม่ปลอดภัยพอจนพ่อเสียชีวิต

ลูกสาว "พอล วอล์คเกอร์" ฟ้อง "ปอร์เช่" ทำรถไม่ปลอดภัยพอจนพ่อเสียชีวิต

ลูกสาว "พอล วอล์คเกอร์" ฟ้อง "ปอร์เช่" ทำรถไม่ปลอดภัยพอจนพ่อเสียชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     เมโดว์ เรน วอล์คเกอร์ ลูกสาววัย 16 ปีของพอล วอล์คเกอร์ นักแสดงหนุ่มชื่อดังซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปี 2013 ฟ้อง "ปอร์เช่" บริษัทผลิตรถยนต์ชื่อดัง โดยอ้างว่าบริษัทออกแบบรถยนต์มีข้อบกพร่องหลายจุด เรียกร้องให้ผู้ผลิตชดใช้ความเสียหายจากความผิดพลาดที่มีส่วนทำให้พ่อของเธอเสียชีวิต


     แถลงการณ์ของของเจฟฟ์ มิลาม ทนายความของวอล์คเกอร์ เปิดเผยถึงรายละเอียดการฟ้องครั้งนี้โดยเอกสารระบุตอนหนึ่งว่า "ปอร์เช่ คาร์เรร่า จีที เป็นรถยนต์ที่อันตราย และไม่ควรมาอยู่บนถนนปกติ" นอกจากนี้ ยังระบุข้อความว่า "และเราไม่ควรอยู่โดยไม่มีพอล วอล์คเกอร์ และโรเจอร์ โรดาส เพื่อนของเขา" แต่ในเอกสารไม่ได้ระบุมูลค่าที่ต้องการให้ชดเชยความสูญเสีย

     เอกสารการฟ้องร้องที่ส่งดำเนินการในวันจันทร์ที่ 29 กันยายนนี้ระบุว่า รถยนต์ขาดส่วนที่สร้างความปลอดภัยที่มักพบในรถแข่งที่ออกแบบอย่างดีหรือในปอร์เช่รุ่นที่ราคาถูกกว่า ซึ่งเป็นรถที่ใช้บนท้องถนนทั่วไปและถูกออกแบบให้สามารถป้องกันอุบัติเหตุหรือลดระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุเพื่อช่วยให้พอล วอล์คเกอร์ รอดจากอุบัติเหตุ โดยบริษัทแก้ไขได้เพียงติดตั้งระบบช่วยเพิ่มความเสถียรในการควบคุมรถแบบที่ติดตั้งในรถปอร์เช่รุ่นพื้นฐานรุ่นอื่นๆ

 

     แม้เอกสารการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ระบุว่าสาเหตุของอุบัติเหตุเกิดจากการใช้ความเร็ว แต่เอกสารการฟ้องล่าสุดระบุว่ารถยนต์รุ่นที่เกิดเหตุควรติดตั้งระบบที่ช่วยให้ควบคุมรถได้เสถียรขึ้น เพื่อป้องกันการส่ายและยังขาดการเสริมบาร์ที่ประตูด้านข้าง เอกสารการฟ้องร้องยังโต้แย้งรายงานของเจ้าหน้าที่พร้อมระบุว่าพอล วอล์คเกอร์ ไม่ได้เสียชีวิตจากแรงกระแทกและยังมีชีวิตอยู่ขณะติดในรถที่เกิดอุบัติเหตุซึ่งมีเพลิงลุกไหม้

     ด้านตัวแทนของปอร์เช่ภูมิภาคอเมริกาเหนือเปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ยังไม่เห็นเอกสารการฟ้องร้องและยังไม่สามารถแสดงความคิดเห็นใดๆ อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของปอร์เช่แสดงความเสียใจต่อทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บขณะขับขี่รถปอร์เช่ แต่กลุ่มบริษัทเชื่อมั่นในรายงานของเจ้าหน้าที่ในคดีนี้ ซึ่งเปิดเผยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะการขับขี่โดยประมาทและการใช้ความเร็วสูงเกินไป


 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook