มือสองน่าสน : BMW 318 iA E36 M40

มือสองน่าสน : BMW 318 iA E36 M40

มือสองน่าสน : BMW 318 iA E36 M40
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

BMW เป็นรถในฝันของคนหลาย ๆ คน ยิ่งเป็นตระกูลซีรี่ส์ 3 ด้วยแล้ว นับเป็นรถยอดฮิตตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ต่างก็อยากได้ BMW ซีรี่ส์ 3 มาครอบครองสักคัน เพราะ BMW มักจะออกแบบรถขนาดเล็กได้สวย และดูคลาสสิกตลอดกาล ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยไปกี่ปีก็ตาม ก็ยังคงดูน่าใช้น่าขับ สามารถพาไปเท่ได้ทุกที่ แถมด้วยราคาค่าตัวในปัจจุบันก็ยังน่าคบหา ถ้าจับมาได้ในสภาพที่สวยๆ

สำหรับ BMW E36 นี้มีออกมาหลายเวอร์ชั่น อาทิ 318i, 320i, 325i แต่ที่ได้รับความนิยมเห็นจะเป็น BMW 318 iA E36 โฉมแรกก่อน MINOR CHANGE ระหว่างปลายปี 1992-1994 ความสวยคลาสสิกลงตัว สามารถจับหามาได้ตั้งแต่ราคาไม่เกิน 3 แสนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปีและความงามของตัวรถ สมรรถนะแม้ไม่จัดจ้านเหมือนกับ 320i และ 325i เพราะใช้เครื่อง M40 ความจุแค่ 1.8 ลิตรเท่านั้น แต่ก็เรียกได้ว่า สั่งได้ดั่งใจ สมถรรนะสมตัว  BMW 318 iA บอE36 นี้ ในตลาดมือสองนิยมเรียกว่า โฉมนกแก้ว เพราะด้านหน้าที่ดูโหนกงุ้มเหมือนปากของนกแก้ว จึงถูกขนานนามว่า  "นกแก้ว" รูปลักษณ์ภายนอกโดยรวมของ BMW 318 iA จัดได้ว่าเป็นรถที่สวย และดูไม่เบื่อคันหนึ่ง แม้อายุอานามจะผ่านมากว่า 10 ปีแล้วก็ตาม แต่คงดูน่ามองและไม่ตกยุค น่าใช้อยู่  

ด้านหน้า  BMW 318 iA E36 ใช้เส้นสายแห่งความโค้งมน ลากพาดผ่านตัวรถที่ค่อย ๆ เพิ่มความเป็นสันเหลี่ยมขึ้นเรื่อย ๆ และจบการดีไซน์ในด้านท้ายรถแบบท้ายสั้น สันเหลี่ยมคมดูจับตา ไฟหน้าแบบ 4 ดวง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถค่ายใบพัดฟ้าขาว เช่นเดียวกับกระจังหน้ารูป "ไตคู่" ที่เป็นมนต์เสน่ห์ชวนมอง ไฟท้ายสไตล์คลาสสิกแม้ดูไม่หวือหวา แต่ก็ลงตัวเข้ากับตัวรถได้ดี  BMW 318 iA E36 จัดอยู่ในเซกเมนต์  COMPACT SEDAN ขนาดของรถไม่ใหญ่โตนัก ภายในห้องโดยสารมีเนื้อที่โดยรวมไม่กว้างขวางนัก จึงเหมาะสำหรับผู้โดยสารรวมคนขับหน้า 2 หลัง 2 ด้านหลังนั่ง 3 คน จะคับแคบไปนิด ส่วนเรื่องทัศนวิสัยในการขับขี่ก็อยู่ในเกณฑ์ดี มีมุมอับน้อยจึงค่อนข้างปลอดภัยเวลาขับขี่

แผงหน้าปัด BMW 318 iA E36  ก็ยังคงแนวหรูหราตามสไตล์รถเยอรมนี มาตรวัดขนาดใหญ่อ่านง่ายและมองได้ชัดเจนยามค่ำคืน เบาะนั่งคู่หน้าออกแบบในขนาดค่อนข้างกระชับตัวผู้นั่ง ถ้าผู้นั่งมีขนาดร่างกายใหญ่กว่าปรกติ นั่งแล้วจะรู้สึกว่าเบาะเล็กไปนิด ด้วยในช่วงนั้นรถยนต์รุ่นนี้ค่อนข้างขายดีอยู่ไม่น้อย จะเห็นว่าบางคันภายในสภาพยังดีอยู่มาก แต่บางคันจะโทรมเร็วกว่าปรกติ ถ้าสนใจจะซื้อรถรุ่นนี้ต้องพยายามเลือก ๆ ดูหลาย ๆ คัน หาสภาพที่ภายในไม่โทรมมาก     

BMW 318 iA E36 ในโฉมปี 92-94 ยังไม่ได้รับการปรับเปลี่ยน ภายนอกในแบบ MINOR CHANGE และเช่นเดียวกัน เครื่องยนต์ก็ยังคงวางรุ่น M40 อยู่  ซึ่งเครื่องบล็อกนี้ก็เคยวางอยู่ใน 318 iA บอดี้ก่อนหน้านี้ หรือ รหัส E30 นั่นเอง เครื่อง M40 เป็นเครื่องบล็อก 4 สูบเรียง SOHC 8 วาล์วธรรมดา มีปริมาตรความจุรวม 1796 ซี.ซี. จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์  DME หรือ DIGITAL MOTOR ELECTRONIC ที่ให้ความแม่นยำในการฉีดเชื้อเพลิงสูงกว่าระบบอื่น ๆ ในยุคนั้น การเผาไหม้จึงสมบูรณ์ทุกความเร็วรอบ สามารถรีดกำลังออกมาได้ 116 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 168 นิวตัน-เมตร ที่ 3,900 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังเป็นแบบเกียร์ AUTO 4 สปีด ของ ZF เกียร์ลูกนี้ได้รับการพัฒนาให้ฉลาดขึ้น ด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นในการขับขี่ให้  3 แบบ คือ E หรือ ECONOMY การขับขี่แบบประหยัด ใช้สำหรับการขับขี่ปรกติ S หรือ SPORT การขับขี่ในแบบลากรอบเครื่อง เปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกหน่อย แต่ขับสนุกขึ้น และสุดท้ายกับ MODE การขับขี่แบบ M หรือ MANUAL ซึ่งผู้ขับสามารถเลื่อนเปลี่ยนเกียร์ได้เอง เหมือนการขับด้วยเกียร์ธรรมดา

เรื่องสมรรถนะโดยรวมของ BMW 318 iA E36 จัดได้ว่าสมตัว สามารถสั่งได้เมื่อต้องการ แต่คงไม่ปราดเปรียวกระฉับกระเฉงเท่ารุ่นแพงกว่าอย่าง 320i หรือ 325i ส่วนอัตราการบริโภคของ 318 iA ก็อยู่ที่ราว ๆ 7.3-8.4 กม./ลิตร สำหรับการใช้งานในเมือง และประมาณ 12-13 กม./ลิตร สำหรับการเดินทางไกล ด้วยความเร็วระหว่าง 80-110 กม./ชม.  BMW เป็นที่ยอมรับเรื่องช่วงล่างว่าไม่เป็นสองรองใครในรถระดับเดียวกัน BMW 318 iA ถูก SET ช่วงล่างให้กระชับในสไตล์ SPORT SEDAN เกาะแต่ไม่นุ่มนวลนัก แต่ไม่ถึงกับกระด้าง โดยด้านหน้าใช้แบบอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัท และเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังก็ใช้แบบอิสระเช่นกัน แต่เป็นแบบมัลติลิงค์ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง

ส่วนระบบเบรก BMW 318 iA E36  ก็ใช้แบบ 4 ดิสก์ หน้าเป็นดิสก์แบบมีช่องระบายความร้อน หลังเป็นดิสก์ธรรมดา พร้อมติดตั้งระบบ ABS แบบ 4 CHANNEL 4 SENSOR มาให้ด้วย ประสิทธิภาพเบรกของ 318 iA จัดว่าดีเยี่ยม สามารถสยบม้า 116 ตัว ที่ความเร็วกว่า 160 กม./ชม. ได้อย่างสบาย ๆ    หลายคนมอง BMW เป็นรถที่มีราคาอะไหล่แพง ซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น  แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่ใช้  ถ้ามีรายได้เพียงพอ เข้าซ่อมครั้งหนึ่งจ่ายหลักหมื่นครึ่งหมื่นก็ว่าไม่แพง? แต่ถ้ามีรายได้พอประมาณ ซ่อมครั้งหนึ่งจ่าย 3,000-5,000 บาท ก็เอาเรื่องเหมือนกัน ดังนั้นถ้าคิดจะคบหากับรถตระกูลนี้ก็ต้องเข้าใจว่า ค่าเลี้ยงดูค่อนข้างแพง แต่ได้สมถรรนะที่ดีถ้าอยากขับเพราะใจชอบ แต่ชอบอย่างเดียวไม่น่าพอ ทางที่ดีต้องเงินถึงด้วย จึงจะคบกันยืดกับ SPORT  SEDAN ขนาดย่อมคันนี้ BMW 318 iA โฉมนกแก้ว E36


ข้อแนะนำในการเลือก BMW E36

ที่มาโดย  : Red Hawk DIY BMW E36

 

หลายคนต้องการหารถ BMW E36 มือสองสักคัน แต่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับรถรุ่นนี้เลย  เราจึงได้รวบรวมเทคนิคการดูรถ BMW E36 มือสองในจุดต่างๆ  และปัญหาที่มักเจอ อย่างน้อยจะได้พอรู้เบื้องต้นว่าควรจะดูตรงไหนอย่างไรเป็นพิเศษ

ดูรถก็ต้องเปิดดูห้องเครื่อง ตำแหน่งเปิดฝากระโปรงหน้าอยู่ใต้คอนโซนหน้าฝั่งคนขับ (บริเวณเท้าขวาของเรา) พอดึงคันโยกเสร็จ ก็ต้องไปปลดล็อค ใต้ฝากระโปรงอีกทีก่อนยกฝาขึ้น

ใน E36 ทุกรุ่น ถ้าเดิมๆจะมี Compartment light ทุกคัน เมื่อเปิดกระโปรงขึ้นมาแล้วไปเปิดไฟหรี่ไฟมันจะติดตามรูป ช่วยได้มากเวลาเปิดดูที่มืดๆ และเมื่อเปิดฝากระโปรงหน้าขึ้น มันจะมีโช๊คค้ำไว้ ไม่ต้องเที่ยวหาก้านขึ้นมาค้ำเหมือนรถส่วนใหญ่ แต่บางคันโช๊คเสื่อมมันก็ค้ำไม่ค่อยอยู่ หรืออาจไม่อยู่เลย ถ้าเจอว่ามันค้ำไม่อยู่ก็ไม่ต้องตกใจเก็บไว้ต่อรองราคา เอารถมาแล้วเรามาเปลี่ยนเองของใหม่คู่ละ 900- เอง ใช้เวลาเปลี่ยนไม่กี่นาที

 

เมื่อเปิดฝากระโปรงมา ดูอะไร.... ดูกล่องฟิวส์ก่อนเลย  ฝาแตกไหม ไม่ใช่แตกก็ไม่ซื้อเลยนะครับ ต้องดูส่วนอื่นประกอบด้วย เพียงแต่บวกไว้ในใจ ถ้าซื้อไป ก็ต้องไปซื้อฝามาเปลี่ยนใหม่ประมาณ 500 บ. และใช้เป็นจุดในการต่อรองราคา เปิดฝาออกดูข้างในต้องไม่มีร่องรอยของการละลายของฐานฟิวส์ ถ้ามีแนะนำว่าอย่าเอาเลย ดูฟิวส์ว่าเป็นแบบ original(แบบหลังเปิดจะเห็นตะกั่วเป็นเส้นอยู่) มากแค่ใหน เปลี่ยนไปใช้แบบใสมากแค่ไหน อันนี้ไว้ประกอบเฉยๆว่าระบบเดิมมีปัญหามาก เจ้าของเก่าก็จะเปลี่ยนฟิวส์มากนั่นเอง  และไม่จำเป็นต้องมีฟิวส์ เสียบอยู่ครบทุกตัวนะครับ เพราะบางตัวก็ไม่ได้ใช้ ทีนี้ก็หันไปดู ที่ฝากล่องฟิวส์ จะมีฟิวส์สำรองเสียบอยู่ และก็ตัวคีบฟิวส์ด้วย ถ้ายังอยู่ก็ดีไป ดูซีลยางตรงฝาด้วยเพราะเป็นส่วนที่กันน้ำเข้ากล่องฟิวส์

จุดต่อมาดูคานหน้าครับ เป้าหมายคือชนมาเปล่า ทำสีมาเปล่า อันนี้ก็ขึ้นกับเงื่อนไขราคาด้วยนะครับ เช่นถ้าคนขายบอก ไม่มีชนแน่นอนแล้วราคาก็สูง ถ้าเราดูจุดนี้แล้วมันมีการทำสี หรือเปลี่ยนชิ้นใหม่ ก็แสดงว่าคนขายโกหก ถ้าจะเอา(เมื่อดูทุกอย่างแล้วสรุปว่า จะเอา)ก็ต้องต่อราคาให้สมน้ำสมเนื้อ การดูขั้นแรกก็ดูสติ๊กเกอร์สีเขียวคับ ถ้าบอกว่าเดิมๆไม่เคยชนไม่เคยเปลี่ยนต้องมี และสภาพทำสีกับไม่ทำมันจะมีผลกับสติ๊กเกอร์ที่แปะอยู่ แต่ถ้าทุกอย่างเนียนก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง (อย่าลืมเรื่อง สติ๊กเกอร์ที่ผมพบว่ามีหลุดออกมาขาย แต่ไม่ใช่หาได้ง่ายๆ) ดูตรงหัวน๊อต (รูรูปดาวแฉก) ว่ามีการไขออกหรือทำสีใหม่เปล่า เดิมๆจากโรงงาน กับทำสีใหม่จะไม่เนียนเหมือนเดิม

ดูที่เบ้าโช๊คหน้าว่ายังกลมดีอยู่เปล่า ถ้ามีการชนมาเคาะยังไงก็ยากที่จะกลมเหมือนเดิม และจะมีผลกับศูนย์ และการทรงตัวของรถครับ

ส่วนด้านหลังก็เปิดกระโปรงหลังขึ้น เปิดแผงปิดยางอะไหล่แล้วดูตรงซุ้มที่ใส่ยางอะไหล่ว่ามีการเคาะทำสีใหม่หรือเปล่า ถึงไหนโดยดูสีเดิมด้านในๆ เทียบกัน ถ้ามีการเคาะ ก็ยากที่จะทำให้เหมือนเดิมทั้งรูปร่างและสี

ดูคราบน้ำมันตามแร็ค ตามฝาเครื่อง (แต่ปกติเต้นท์จะขัดจนเนียนอยู่แล้ว หลังจากทดลองขับ ลองเปิดดูอีกที) ว่ามีการรั่วไหลหยดติ๋งๆหรือเปล่า  กรองน้ำมันเครื่องของ M50 ด้านล่างต่ำลงไปจะเป็นกระปุกน้ำมันพาวเวอร์ เป็นสีดำถ้าพบว่ามีคราบน้ำมันเลอะอยู่ตรงฝา(แต่ไม่ถึงกับหยดติ๋งๆ)ก็ไม่ต้องตกใจ ถือเป็นข้อผิดปกติที่พอรับได้ของรถรุ่นนี้

กระปุกน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ส่วนใหญ่มันจะมีน้ำมันเยิ้ม ไม่ใช่ว่าดี แต่มันไม่มีผลเสียอะไรมาก เป็นแบบนี้เกือบทุกคันครับ พอรับได้ เพราะที่ฝากระปุกมันจะมีรูสำหรับระบายไอระเหยของน้ำมันข้างในได้ ยังไงเราก็ต้องคอยเช็คระดับน้ำมันด้วย(หลังจากซื้อมาแล้ว)

 

เมื่อเข้ามาในรถก็ลอง start เครื่องดู ทีเดียวติดไหม  รอบเดินเบาเรียบไหม มีไฟอะไรโชว์ที่หน้าปัดบ้าง ดูไมล์ digital ว่าวิ่งไปเท่าไรแล้ว (ไม่ต้องชีเรียส เค้าตั้งกันได้) แล้วก็ลองเปิดแอร์ดู เปิดพัดลมทุก step ว่ามีลมออกครบ ลองกระจกไฟฟ้าขึ้นลงให้สุดทุกบาน  ลองบิดสวิทช์ไฟหน้าด้วย (สวิทช์ไฟหน้า กับ กระจกไฟฟ้า เป็นจุดอ่อนของรถรุ่นนี้) เก็บข้อมูลไว้ต่อรองราคา

เวลาเปิดสวิทซ์ on ไฟระบบต่างๆต้องโชว์หมด แล้วดับ!!  ไม่มีดวงใดติดค้าง ระบบ ABS, AIRBAG,ไฟเตือนผ้าเบรค  เคยเจอ ระบบ ABS มีปัญหา บางที่ถอดหลอดออกไปเลย  คนมาดูก็ไม่รู้ ว่ามีปัญหา ตรงนี้สำคัญมากครับ ต้องดูให้ดีนะครับ  อาจเป็นจุดเล็กๆที่มองข้ามกันไป

กล่องเครื่องมือตรงกระโปรงหลังมีครบหรือดปล่า ไม่ใช่ตอนดูมี แต่ตอนมาออกรถ หายหมด  ดูข้างใต้ยางอะไหล่ กับตรงที่วางแบต ผุหรือไม่ มีขี้เกลือขึ้นหรือเปล่า  ดูตะเข็บด้วยว่ามีชนด้านหลังหรือเปล่า ลึกแค่ไหน

ดูน็อตล้อถ้ามีน็อตกันขโมยด้วย (จะมี 1 ตัวในแต่ละล้อ) จะต้องมีตัวถอดอยู่ในกล่องเครื่องมือด้านหลัง แต่ถ้าไม่มีน็อตกันโขมยก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ประการใด

ดูเสาประตูด้านในห้องโดยสาร ทั้งเสา A(คู่หน้า) เสา B (คู่กลาง ว่าแตกหรือเปล่าหรือเลอะเทอะ เอาไปหุ้มใหม่ได้ ) โดยเฉพาะ เสา C (คู่หลังที่มีไฟติดอยู่ด้วย มันมักจะเผยอออกมา ถ้าเป็นก็ไม่ต้องตกกะใจพอซ่อมได้ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งรายการไว้ใช้ต่อรองราคา)

ถ้าดูทุกอย่างแล้วเป็นที่น่าพอใจ คาดว่า จะเอาแน่ เกิน 60% ก็ต้องทดลองขับ.... ถ้าเป็น เกียร์ auto ต้องหาโอกาส kickdown ครับ บางคัน  kickdown ปุ๊ป ไฟเกียร์โชว์ปั๊บ อย่างนี้ ควรหลีกเลี่ยง.....แต่ถ้าเป็นแถว กทม.อาจจะหาทางโล่งๆให้  kickdown หน่อย.....และเมื่อลองเข้าเกียร์ถอย มีการหน่วงเวลาเปล่าถ้าต้องรอ 2-3วิ กว่าจะถอยได้ แสดงว่าเกียร์เริ่มจะไปแล้วหรือน้ำมันเกียร์มีปัญหา เกียร์ธรรมดา ก็ พยายามลากรอบดู เปลี่ยนเกียร์ซักช่วงสี่พันรอบขึ้น ต้องลองประสิทธิภาพดูกันหน่อย....

อีกระบบที่น่าจะทดลองคือ ABS เอาแค่พอรู้สึกว่าแป้นเบรคมันเต้น ตุ๊บๆ ก็พอ.... พอเสร็จเลี้ยวเข้าเต้นท์ ก็เปิดดูบริเวณหม้อน้ำดูอีกที....ถ้าโชคดีอาจได้เห็นฟอง ปุ๊ดๆแถวหม้อน้ำหรือรังผึ้ง เพราะเครื่องร้อนได้ที่

ตรวจเช็คระบบ central lock ทั้ง 6 จุด (รถ 4 ประตู) คือประตูทั้งสี่บาน และที่ฝาถังเติมน้ำมัน กับกระโปรงท้าย คือ กด central lock ที่ประตูคนขับ ครั้งเดียว มันต้องล็อคทั้ง 6 จุด  กระโปรงท้ายจะไม่มีที่เปิดจากด้านในรถนะครับ ต้องไปกดเปิดเอาที่ปุ่มกุญแจ ที่ฝากระโปรงหลัง

จุดน่าสนใจอีกจุดหนึ่งให้ดู ตรงแผง cowling (ที่ภาษาช่างเรียก แผงคอจิ้งหรีด) ทางด้านขวา มันควรจะมี สกรูพสาสติกปิดอยู่อย่างเรียบร้อย (เคยเห็นบางคันที่โพสขาย ปีก็ใหม่แต่ตรงจุดนี้ "โบ๋" เลย) โดยเฉพาะ E36 รุ่นแรกๆ (92-93) มักจะมีปัญหาน้ำเข้า ECU หรือ DME ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้  เพราะว่าตำแหน่ง ECU จะอยู่ใต้นั้นพอดี

ก่อนจะตกลงทำการซื้อขายให้ถาม หรือขอดูกุญแจที่เค้ามีอยู่ทั้งหมดก่อน ถ้าเป็น ปีใหม่ๆประมาณ 94-95ขึ้นไปจะมีกุญแจรีโมทพร้อม chip immobilizer ด้วย ครบๆ ก็ 2 ดอก (ส่วนใหญ่จะได้ไม่ครบ

สรุปคือเช็กก่อนว่ามีกุญแจให้กี่ดอก (ผมคิดในแง่ลบ กลัวเค้าให้ไม่หมด ถ้าให้ดีซื้อรถมือสองมา เอาไปติดกันขโมยดีกว่า แค่ไม่กี่พันบาท ซื้อความสบายใจ คือถ้าเราล็อคด้วยกันขโมย ถึงคนอื่นเอากุญแจรีโมทมากดเปิดล็อค กันขโมยมันก็จะดัง และstart ไม่ได้) แต่ถ้าเป็น 325 ไม่ต้องไปติดกันโขมยก็ได้ เพราะ include อยู่ใน obc เรียบร้อยแล้ว สามารถใส่รหัสตัวเลข 4 หลัก เอาไว้ได้

จุดที่ต้องดูอีกจุดคือพัดลมหน้าเครื่อง ให้ลองเอามือหมุนดูมันต้องหมุนได้แบบฝืดๆหน่อย แล้วก็ดูใบมันว่าอยู่ครบทุกใบไม่หักหรือบิ่น

มาดูเครื่องยนต์รุ่นต่างๆใน E36 กัน เริ่มจากรุ่นเก่าหน่อยประมาณปี 91-93 เป็นเครื่อง M40 ข้อเสียของ M40 ที่สำคัญคือ สายพาน timing เป็นสายพาน(ยาง) ต้องเปลี่ยนทุก 30,000 กิโล  318i เครื่อง M43 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีมากที่สุดในไทย  timing belt เป็นโซ่แล้ว

ถ้าเป็นเครื่อง 6 สูบ จะมีเช่น 320 2,000 c.c. รหัส M50 ไม่มี vanos เป็นรุ่นเก่าประมาณปี 91-92 สังเกตด้านหน้าเครื่องจะเรียบๆ  320 M50 single vanos (วาล์วไอดีแปรผันได้) สังเกตุจะมีหัวยื่นออกมา  เครื่องรุ่นล่าสุด อยู่ใน E36 323 เป็นเครื่องรหัส M52 2400 cc สังเกตุง่ายๆ คือฝาเติมน้ำมันเครื่องจะอยู่ด้านหน้า (M50 อยู่ด้านใน)

BMW E36 ส่วนใหญ่ในบ้านเราจะเป็นเกียร์ auto สังเกตุปุ่มด้านขวาของคันเกียร์ มันจะปรับได้ 3 โหมด S หมายถึง Sport โดยดันปุ่มขึ้นด้านบนจะมีไฟ LED ดวงเล็กๆ ติดที่ตัว S หมายถึงรถอยู่ในโหมด Sport แล้วรถจะเปลี่ยนเกียร์ช้าลง (ลากรอบมากขึ้น) ทำให้ลากรอบได้กำลังเพิ่มขึ้นขับสนุกแต่เปลืองน้ำมัน ตอนทดลองขับก็ต้องลองโหมดนี้ด้วย ถ้ากลับมาโหมดปกติ ก็กดปุ่มลงไปตรงๆมันจะกลับมาโหมด E หมายถึง Economic เวลาstart เครื่องจะเข้าโหมดนี้โดยอัตโนมัติ ส่วนถ้าดันลงด้านล่าง จะหมายถึง M, Manual เกียร์จะไม่เปลี่ยนอัตโนมัติ บางคันจะเป็นรูปเกล็ดหิมะ

 

สวิทช์กระจกก็ให้ลองกดขึ้นลงให้สุดทุกปุ่ม ปุ่มตรงกลางด้านขวาที่มีรอบบุ๋มกลมๆตรงกลางจะเป็นปุ่มตัดไฟไปที่สวิทช์กระจกประตูคู่หลังที่ติดอยู่ที่ประตู ถ้าเรากดปุ่มนี้ลง สวิทช์ที่ประตูหลังจะใช้ไม่ได้ ให้ลองดูด้วยครับ

เกียร์ธรรมดาใน E36 มีไม่มากนักเมื่อเทียบกับเกียร์ออโต้ แต่ก็ยังพอมี เกียร์ธรรมดาจะประหยัดน้ำมันกว่าเกียร์ออโต้ (เครื่องเท่ากัน เหยียบพอๆกัน) เหมาะสำหรับคนเท้าหนักชอบลากเกียร์ และไม่ขี้เมื่อย(เท้าซ้าย) ปกติคลัชต์ของ E36 จะค่อนข้างแข็ง แต่ก็มีคลัชต์ของบางยี่ห้อทำให้มันนิ่มได้ เกียร์ของ BMW E36 จะไม่เหมือนเกียร์รถยี่ปุ่นทั่วไปโดยเกียร์ถอย จะอยู่ข้างเกียร์หนึ่ง เวลาจะเข้าก็ต้องดันไปซ้ายสุดก่อนแล้วดันขึ้นหน้า เวลาไปล้างรถ หรือให้คนอื่นขับต้องคอยกำชับให้ดีครับ

อันนี้เวลาซื้อรถมือสองทุกคันไม่ว่ายี่ห้อไหนก็ควรต้องดูครับ.. นั่นคือเรื่องของทะเบียนรถทั้งหน้าและหลัง ต้องมีปั๊มตัวนูน "ขส" ครับ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนจับ แถมต้องไปขอที่ขนส่งเองเสียทั้งเงินทั้งเวลา..             

 

สนับสนุนเนื้อหา โดยเว็บ Auto-Thailand

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ มือสองน่าสน : BMW 318 iA E36 M40

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook