โปรโมชั่นหวังล้างใบสั่ง! จ่ายค่าปรับ100บาท ได้ทุก สน. เริ่มแล้วถึง 15 ม.ค. นี้

โปรโมชั่นหวังล้างใบสั่ง! จ่ายค่าปรับ100บาท ได้ทุก สน. เริ่มแล้วถึง 15 ม.ค. นี้

โปรโมชั่นหวังล้างใบสั่ง! จ่ายค่าปรับ100บาท ได้ทุก สน. เริ่มแล้วถึง 15 ม.ค. นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กล่าวถึงกรณีที่สถานีตำรวจนครบาลลำผักชี ริเริ่มโครงการ "ล้างใบสั่ง ปรับ 100 บาท" ว่า ตนเห็นเป็นโครงการที่ดี จึงได้สั่งการให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 (บก.น.1-9)และกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) รวมทั้งตำรวจทั้ง 88 สถานี ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ร่วมกันเดินหน้าตามโครงการดังกล่าว เพื่อให้แนวทางปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน

     นอกจากนี้การล้างใบสั่ง ยังเป็นการป้องกันไม่ให้ประชาชนไปก่อความผิดซ้ำซ้อน ในกรณีที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่และไป แจ้งความเท็จ เพราะบางคนไปแจ้งความ เนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งก็จะทำให้มีโทษสูงถึงจำคุก 2 ปี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา จะได้มีเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งการเรียกตรวจในช่วงเทศกาลจะต้องตรวจสอบกันอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม หรือปัญหาอื่นๆ ที่อาจจะตามมา

     โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกกองบังคับการเริ่มปฏิบัติไปแล้ว โดยประชาชนที่ทำผิดกฎจราจรและถูกยึดใบขับขี่ สามารถติดต่อได้ที่สถานีตำรวจพื้นที่ที่ถูกจับได้ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2558 ไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2559 เป็นระยะเวลา 21 วัน

     หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะต้องจ่ายค่าปรับในอัตราที่กระทำความผิด หรืออาจขยายเวลาโครงการดังกล่าว ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับตามความเหมาะสม

     พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สำหรับโครงการล้างใบสั่งปรับ 100 บาท
จะดำเนินการได้เฉพาะในความผิดที่กำหนดโทษปรับไว้ไม่เกิน 1,000 บาท เท่านั้น อาทิ ไม่สวมหมวกนิรภัย อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ ไม่พกใบอนุญาตขับขี่ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เป็นข้อหาที่ไม่ได้ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ส่วนรวม ส่วนในข้อหาที่สร้างความเดือดต่อผู้อื่น ส่งผลกระทบด้านการจราจรไม่ว่าจะเป็นจอดรถกีดขวาง จอดรถในที่ห้ามจอด ขับรถบนทางเท้า นำรถที่ด้อยสมรรถนะมาขับ และเมาแล้วขับ ได้สั่งการกำชับว่า ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย

     "ความผิดอะไรที่เป็นอัตราโทษปรับไม่น้อยกว่า 400 บาท หรืออะไรที่เป็นนโยบายดังที่กล่าวมา ข้อหาเหล่านี้ก็จะต้องถูกปรับ และดำเนินคดีในอัตราโทษสูงสุด" อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการนี้ยังมีนักกฎหมายเป็นห่วงและโต้แย้งว่า หากดำเนินการไปแล้วประชาชนอาจจะไม่เกรงกลัว และกระทำผิดกฎจราจรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายตำรวจได้พิจารณาตามบทลงโทษอยู่แล้ว นอกจากนี้ ในโครงการยังได้มีการทำสัญญาข้อตกลงหรือเอ็มโอยู เพื่อตกลงกันว่า จะไม่ทำผิดกรณีเดิมซ้ำอีก

     ทั้งนี้ ตำรวจนครบาลและกองบังคับการตำรวจจราจร ไม่ได้มุ่งหวังในเงินรางวัลนำจับเพียงอย่างเดียว แต่มีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการป้องกันประชาชนเท่านั้น

 

     ที่มา มติชนออนไลน์

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook