Isuzu D-Max 1.9 Ddi BluePower เครื่องยนต์ใหม่จิ๋วแต่แจ๋ว ฝ่าสามพันโค้งเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน

Isuzu D-Max 1.9 Ddi BluePower เครื่องยนต์ใหม่จิ๋วแต่แจ๋ว ฝ่าสามพันโค้งเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน

Isuzu D-Max 1.9 Ddi BluePower เครื่องยนต์ใหม่จิ๋วแต่แจ๋ว ฝ่าสามพันโค้งเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อีซูซูได้พาทีมงาน Sanook! Auto ร่วมพิชิตสามพันกว่าโค้งใน อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ใหม่ บนเส้นทางเชียงใหม่-บ้านรักไทย-ปาย ไปกลับเป็นระยะทางกว่า 600 กิโลเมตร พิสูจน์สมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซล 1,900 ซีซี ใหม่ล่าสุดที่แรงเหนือความคาดหมาย


     หากใครเคยสัมผัสเส้นทางเชียงใหม่-บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน คงพอจะทราบดีว่านี่ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ขึ้นชื่อว่าโหดเส้นหนึ่งในประเทศไทย ด้วยถนนที่เต็มไปด้วยทางชัน และโค้งหักศอกคดเคี้ยวกว่า 2,000 โค้ง ซึ่งหลายคนอาจคิดในทำนองที่ว่า เอ.. เครื่องยนต์ใหม่ใน อีซูซุ ดีแม็กซ์ ที่เป็นบล็อกขนาด 1.9 ลิตร จะวิ่งไหวหรือเปล่าน้า.. แต่จากการทดสอบในครั้งนี้พูดได้เต็มปากเลยครับว่า สอบผ่านสบายๆ...

     เราเริ่มออกเดินทางจากโชว์รูมอีซูซุ มุ่งหน้าสู่ร้านอาหาร 'ข้าวแฝ่' เพื่อลิ้มรสอาหารเหนือพื้นเมืองแท้ๆ บนทางหลวงหมายเลข 107 โดยมีพาหนะคู่ใจเป็น อีซูซุ ดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่นเกียร์ธรรมดาทั้งหมด 10 คัน ซึ่งเส้นทางที่เป็นทางตรงแบบนี้ สามารถขับได้อย่างสนุกสนาน กดคันเร่งปุ๊ป กำลังก็ไหลมาเทมาปั๊ป ไม่ต่างอะไรกับเครื่องยนต์บล็อกใหญ่เลย

 

     หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจอาหารกลางวัน เราก็มุ่งหน้าสู่ อ.บ้านรักไทย กันต่อ ซึ่งคราวนี้แหละถือเป็นบททดสอบที่แท้จริงของ อีซูซุ ดีแม็กซ์ เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร กันแล้ว เพราะเส้นทางเต็มไปด้วยทางลาดชัน ทางโค้ง และยังมีโค้งหักศอกนับไม่ถ้วนกว่า 2,000 โค้ง ให้เราได้ทดสอบทั้งสมรรถนะเครื่องยนต์และช่วงล่าง ซึ่งคณะสื่อมวลชนที่ร่วมทริปไปกับเราต่างไม่รู้สึกถืงความแตกต่างระหว่างเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร กับเครื่องยนต์บล็อกใหญ่เลย ช่วงที่เป็นทางลาดชันก็เพียงแต่เชนจ์เกียร์ลงมาเพื่อเรียกแรงบิด แล้วเหยียบคันเร่งเพื่อส่งกำลังต่อ เท่านี้ก็ผ่านได้อย่างสบายๆ

 

     เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่นนี้ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 - 2,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดใหม่ ซึ่งแรงกว่าเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรเดิม แถมยังประหยัดน้ำมันขึ้นอีกต่างหาก



     ในที่สุด รถทุกคันก็มาถึงจุดหมายปลายทางในคืนแรก นั่นคือ 'ลีไวน์บ้านรักไทย' ซึ่งเป็นรีสอร์ทบ้านดินมุงหลังคาด้วยในตองสไตล์จีน อยู่ท่ามกลางต้นชาที่รายล้อมไว้อย่างงดงาม สาเหตุที่รีสอร์ทแห่งนี้ถูกตกแต่งในสไตล์จีน เป็นเพราะชุมชนชาวจีนยูนนาน ลูกหลานทหารกองพล 93 ที่เดินทางมาจากตอนใต้ของจีนเมื่อหลาย 10 ปีก่อน ปัจจุบันอาศัยร่วมกับชาวไทใหญ่และชาวไทยภูเขา โดยอาหารขึ้นชื่อที่นี่ก็จะมี เช่น ขาหมู-หมั่นโถว หมูพันปี ไก่ตุ๋นยาจีน ยำใบชาสด ชาอู่หลง ชาเจียวกู่หลัน เป็นต้น

 

     เช้าวันรุ่งขึ้น อีซูซุก็พาเราเดินทางต่อไปยัง อ.ปาย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในคืนที่ 2 ของทริปนี้ แต่ก่อนจะถึงปาย ทีมงานอีซูซุได้พาพวกเราแวะ 'ภูโคลน คันทรีคลับ' ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ UNSEEN IN THAILAND เพื่อไปพอกโคลนธรรมชาติกันเสียหน่อย ซึ่งโคลนที่นี่ได้มาจากแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ และบ่อน้ำแร่ ซึ่งได้รับการวิจัยแล้วว่าเต็มไปด้วยแร่ธาตุและมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ แถมยังช่วยดูดซับสารพิษในร่างกายอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดหากใครเดินทางมาเที่ยวที่นี่ เพราะถือว่าได้พักผ่อนจากการขับรถไปในตัวด้วย

 

     มุ่งหน้าต่อสู่ อ.ปาย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนต่างหมายปอง ซึ่งแม้ว่าอำเภอเล็กๆแห่งนี้ ปัจจุบันจะมีหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย ในที่สุดรถอีซูซุ ดีแม็กซ์ ทุกคัน ก็พาคณะสื่อมวลชนมาถึงที่พัก 'ภูริปาย รีสอร์ท' ได้อย่างปลอดภัย ใครเป็นคนขับก็เล่นโค้งสนุกสนานกันไป ส่วนใครเป็นคนนั่งก็งีบเอาแรง จะโค้งหักศอกสักแค่ไหนก็ของีบไว้ก่อน เพราะคืนนี้เราจะไปเดินเที่ยวตลาดปายกัน

 

     หลังจากที่เราตื่นเช้ารับบรรยากาศทุ่งหญ้าเขียวขจี เราก็มุ่งหน้ากลับสู่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ก่อนกลับขอแวะ 'วัดพระธาตุดอยคำ' เพื่อกราบนมัสการขอพรหลวงพ่อทันใจ ซึ่งการขอพรที่นี่มีกิมมิคเล็กๆ ตรงที่เราสามารถระบุกำหนดเวลาสิ่งที่ขอจากหลวงพ่อได้เลย จะได้รู้กันไปเลยว่า สิ่งที่ขอพรมานั้นสำเร็จหรือไม่ แหม่.. เหมาะกับหนุ่มสาวใจร้อนสมัยนี้เสียจริงๆ

 

     เสร็จสิ้นภารกิจขับรถฝ่าเขาโค้งมาตลอด 3 วัน ซึ่งคิดเป็นจำนวนโค้งก็ 3 พันกว่าโค้ง เราจึงแวะพักผ่อนกันที่ 'บ้านข้างวัด' ซึ่งภายในโครงการจะมีร้านค้าต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ, ร้านอาหาร, ร้านขายของแฮนด์เมด ตัวสถานที่ตกแต่งให้ดูเหมือนบ้านในสมัยก่อน ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ถือเป็นอีกสถานที่นึงที่ต้องแวะมาเช็คอิน เอ้ย! มาแวะชิม แวะช็อปต่างหากเล่า!

 

     จบทริปนี้ ก็ถือเป็นบทพิสูจน์ได้ว่า สมรระนะของ 'อีซูซุ ดีแม็กซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์' ถือเป็นเครื่องยนต์เล็กที่ให้สมรรถนะเทียบเท่าเครื่องยนต์ใหญ่ แต่มีอัตราสิ้นเปลืองในระดับเครื่องเล็ก ถือเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์คนรักความแรงและประหยัดจริงๆครับ

 

 

อัลบั้มภาพ 25 ภาพ

อัลบั้มภาพ 25 ภาพ ของ Isuzu D-Max 1.9 Ddi BluePower เครื่องยนต์ใหม่จิ๋วแต่แจ๋ว ฝ่าสามพันโค้งเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook