5 เทคนิคสำคัญในการเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์

5 เทคนิคสำคัญในการเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์

5 เทคนิคสำคัญในการเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ปฏิเสธไม่ได้ว่า 'กล้องติดรถยนต์' กลายเป็นอุปกรณ์ประจำรถของใครหลายคนไปแล้ว เนื่องจากมีหน้าที่เสมือน 'กล่องดำ' ที่ช่วยบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบข้าง เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับยืนยันฝ่ายถูกฝ่ายผิดสำหรับบริษัทประกัน หรือแม้กระทั่งใช้อ้างอิงในกระบวนการยุติธรรมที่อาจเกิดขึ้นได้

     แต่ใช่ว่ากล้องติดรถยนต์ทุกรุ่นที่มีขายในตลาด จะมีประสิทธิภาพการทำงานเหมือนกันเสมอไป เพราะกล้องที่มีราคาสูงกว่า ก็จะมีคุณสมบัติและฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครอบคลุมมากกว่ากล้องราคาถูก ซึ่งเหล่านี้มีผลมากหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาจริงๆ วันนี้ Sanook! Auto จึงมาแนะนำ 5 คุณสมบัติที่จำเป็นในการเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ครับ

 

1.ภาพยิ่งชัดยิ่งดี

     สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของกล้องติดรถยนต์ คือ ไฟล์ภาพวีดีโอที่ได้จะต้องคมชัด สามารถมองเห็นเลขทะเบียนรถคันอื่นได้อย่างชัดเจน ซึ่งมีผลในกรณีอุบัติเหตุชนแล้วหนี จะช่วยให้สามารถติดตามคู่กรณีได้สะดวกขึ้น แทนที่จะต้องอาศัยการจำป้ายทะเบียนคู่กรณีเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจเกิดความผิดพลาดได้

     ทั้งนี้ แม้ว่าผู้ผลิตหลายรายจะโฆษณาว่ากล้องของตนสามารถบันทึกภาพแบบ HD หรือ Full-HD ได้ แต่บางครั้งคุณภาพเซ็นเซอร์อาจไม่ได้มาตรฐาน จึงทำให้ภาพออกมาที่ได้ไม่คมชัดเท่าที่ควร ดังนั้น จีงควรเช็คไฟล์วีดีโอที่ได้จากกล้องแต่ละรุ่นก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ควรหลงคำอ้างของผู้ผลิตเพียงอย่างเดียว

 

2.เลนส์มุมกว้าง

     กล้องติดรถยนต์ที่ดีควรใช้เลนส์มุมกว้าง อย่างน้อยต้องให้มองเห็นเสาตัวรถด้านหน้าทั้ง 2 ข้างในเวลาเดียวกัน (เห็นเพียงบางส่วนก็พอ) เผื่อกรณีที่ประสบอุบัติเหตุจากทางด้านข้าง จะช่วยยืนยันว่าใครผิดใครถูกได้ ถึงแม้ว่าเลนส์มุมกว้างจะทำให้ภาพที่ได้ผิดเพี้ยนจากความจริงไป แต่ปกติเราใช้กล้องติดรถยนต์เพื่อยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น จึงไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องนี้

 

3.ถ่ายกลางคืนได้ดี

     การขับรถในเวลากลางคืนเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุกว่าช่วงกลางวัน ดังนั้น กล้องติดรถยนต์จะต้องบันทึกวีดีโอในที่ที่มีแสงน้อยได้ดี สามารถอ่านเลขทะเบียนรถคันอื่นได้ชัดเจนไม่แพ้ในเวลากลางวัน

 

4.มีระบบล็อคไฟล์อัตโนมัติ

     กล้องติดรถยนต์ควรมีระบบล็อคไฟล์อัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะอาศัยการทำงานของ Accelerometer (หรือที่ผู้ผลิตกล้องติดรถยนต์มักเรียกว่า G Sensor) เพื่อตรวจจับแรงกระแทกที่เกิดขึ้น และจะป้องกันไฟล์วีดีโอไม่ให้ถูกลบหลังเกิดเหตุ เผื่อมีความจำเป็นต้องเปิดดูในภายหลัง

 

5.ใส่เมมได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี

     โดยปกติกล้องติดรถยนต์จะบันทึกในระบบ Loop ซึ่งจะทยอยลบไฟล์วีดีโอที่เก่าที่สุดออกไปเรื่อยๆ เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับไฟล์ใหม่ ดังนั้น ยิ่งเมมโมรี่มากขึ้น ก็จะยิ่งช่วยรักษาไฟล์วีดีโอในเครื่องได้ยาวนานยิ่งขึ้น สามารถเรียกดูไฟล์ย้อนหลังได้มากขึ้น

 

     สิ่งเหล่านี้เป็นคุณสมบัติพื้นฐานของกล้องติดรถยนต์ที่ดี ส่วนอ็อพชั่นนอกเหนือจากนี้ เช่น การเชื่อมต่อจีพีเอส, รองรับภาษาไทย ฯลฯ ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานของแต่ละบุคคลแล้วล่ะครับ

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook