เทียบสเป็ค Mazda2 และ Honda City 2017 รุ่นท็อปทั้งคู่ อ็อพชั่นใครแน่นกว่า

เทียบสเป็ค Mazda2 และ Honda City 2017 รุ่นท็อปทั้งคู่ อ็อพชั่นใครแน่นกว่า

เทียบสเป็ค Mazda2 และ Honda City 2017 รุ่นท็อปทั้งคู่ อ็อพชั่นใครแน่นกว่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     เทียบสเป็ค Mazda2 และ Honda City รุ่นปี 2017 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ทั้งคู่ มาลองกางสเป็คดู-อ็อพชั่นใครแน่นกว่ากัน

     เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Mazda2 รุ่นปรับโฉมย่อยใหม่ ซึ่งแม้ว่าดีไซน์ภายนอกจะดูไม่เปลี่ยนแปลงนัก แต่มีจุดเด่นอยู่ที่ระบบ G-Vectoring Control รวมถึงการปรับปรุงรายละเอียดภายในให้ดูน่าใช้งานยิ่งขึ้น

200.jpg

05.jpg

     ขณะที่ Honda City ไมเนอร์เชนจ์ แม้ว่าหากพิจารณาตามการแบ่งเซ็กเมนต์ในบ้านเรา จะพบว่าอยู่ในคนละกลุ่มกับ Mazda2 ที่ผันตัวเป็นอีโคคาร์ไปแล้ว แต่ด้วยราคาจำหน่ายที่สูสีกัน ทำให้เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ขนาดเล็ก คราวนี้ Sanook! Auto จึงจับเอาสเป็คของ Mazda2 1.5 XD High Plus L ตัวถังซีดานและ Honda City 1.5 SV+ รุ่นท็อปทั้งคู่มาให้พิจารณากัน

 

เครื่องยนต์และมิติตัวถัง

2.jpg

     จุดต่างสำคัญของ Mazda2 กับคู่แข่งในตลาด ก็คือ เครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ที่ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ รวมถึงระบบช่วยควบคุมการกระจายแรงบิด G-Vectoring Control เช่นเดียวกับใน Mazda3

     ขณะที่เครื่องยนต์ของ City ให้ตัวเลขแรงม้าสูงกว่าเล็กน้อย แต่หากดูกันที่แรงบิดก็ถือว่าต่างกันชัดเจน จุดเด่นสำคัญอยู่ที่ขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่า ความยาวฐานล้อที่มากกว่า ส่งผลให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางกว่าด้วย

 

อุปกรณ์ภายนอก

3.jpg

     ทั้งคู่ถูกติดตั้งไฟหน้าและไฟตัดหมอกแบบ LED มาให้ รวมถึงไฟ Daytime Running Light แบบ LED ก็มีมาให้เช่นกัน ขณะที่ Mazda2 ตัวถังซีดานจะมีสปอยเลอร์หลังมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่นย่อยด้วย

 

อุปกรณ์ภายใน

4.jpg

     ภายในของ Mazda2 ใหม่ เน้นความหรูหราพรีเมียม ตกแต่งแผงคอนโซลและประตูด้วยวัสดุหนัง พร้อมเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ติดตั้งมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อก+ดิจิตอล พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ Active Driving Display เวอร์ชั่นใหม่ที่แสดงผลได้สวยงามและหลากหลายขึ้น รวมถึงระบบกล้องมองหลังที่มีเซ็นเซอร์กะระยะด้านท้ายให้ 4 จุดด้วย

     ขณะที่ Honda City เน้นโทนสีดำเป็นหลัก ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุผ้า เพิ่มลูกเล่นความทันสมัยด้วยไฟภายในห้องโดยสารแบบ LED ทั้งด้านหน้าและตรงกลาง รวมถึงมีช่องจ่ายไฟขนาด 12 โวลต์ให้ถึง 3 ตำแหน่ง พร้อมโหมดช่วยขับขี่ประหยัดน้ำมันด้วยปุ่ม ECON

 

ระบบเครื่องเสียง

5.jpg

     Mazda2 ติดตั้งหน้าจอขนาด 7 นิ้วเหนือแผงคอนโซล สามารถควบคุมได้ทั้งสัมผัส (ขณะรถหยุดนิ่ง) และปุ่ม Center Commander บริเวณใกล้กับคันเกียร์ มีปุ่มช็อตคัตเพื่อเข้าไปยังเมนูต่างๆได้สะดวกรวดเร็ว รองรับแผ่น CD/MP3 ได้ 1 แผ่นโหลดด้านหน้า พร้อมช่อง AUX และ USB อีก 2 ตำแหน่ง สามารถรองรับระบบนำทางได้โดยซื้ออุปกรณ์เสริม รวมถึงมีระบบสั่งงานด้วยเสียงมาให้ในตัว

     ส่วน Honda City ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว พร้อม Interface แบบใหม่ รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ รองรับพอร์ต AUX, USB และ HDMI อย่างละ 1 ช่อง และมีจุดเด่นที่ลำโพงรอบคันถึง 8 จุดด้วยกัน

 

ระบบความปลอดภัย

6.jpg

     ทั้ง Mazda2 และ Honda City ติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานมาให้คล้ายกัน เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพ, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบเบรก ABS และ EBD โดยที่ Honda City เหนือกว่าที่ถุงลมนิรภัยจำนวนถึง 6 ใบรอบคัน ช่วยปกป้องผู้โดยสารได้ทั้งด้านหน้าและหลัง

     ขณะที่ Mazda2 มีการเพิ่มฟีเจอร์ระบบความปลอดภัยขั้นสูง i-ACTIVSENSE ได้แก่ ระบบเตือนมุมอับสายตา และระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านด้านหลังมาให้ด้วย

     ด้านราคาจำหน่ายของ Mazda2 รุ่น XD High Plus L จะอยู่ที่ 789,000 บาท สูงกว่า Honda City รุ่น 1.5 SV+ ที่มีราคาจำหน่ายอยู่ 751,000 บาท หรือต่างกันราว 38,000 บาท ซึ่งจุดเด่นที่แตกต่างกันชัดเจนของทั้งคู่ ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณผู้อ่านแล้วล่ะครับว่าเหมาะสมกับรถรุ่นไหนมากกว่ากัน

 

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ เทียบสเป็ค Mazda2 และ Honda City 2017 รุ่นท็อปทั้งคู่ อ็อพชั่นใครแน่นกว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook