7 สัญญาณอันตราย...อะไรเสื่อม อะไรพัง ฟังทางนี้!

7 สัญญาณอันตราย...อะไรเสื่อม อะไรพัง ฟังทางนี้!

7 สัญญาณอันตราย...อะไรเสื่อม อะไรพัง ฟังทางนี้!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     การหมั่นใส่ใจความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของรถถือเป็นเรื่องที่คนมีรถควรทำให้เป็นนิสัย เพราะบ่อยครั้งที่ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นการส่งสัญญาณเตือนว่ารถใกล้จะหรือกำลังจะมีปัญหา ถ้าสังเกตและรู้ก่อน ก็จะช่วยให้ป้องกันหรือแก้ไขปัญหานั้นได้ไวขึ้น

     และนี่คือ 7 สัญญาณอันตรายที่เป็นการส่งเสียงเตือนจากรถของเรา

     1. เครื่องเย็น สตาร์ทติดยาก

     การที่เราจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลาหลายวัน หรืออาจจะถึงขั้นหลายสัปดาห์ หลายเดือน เมื่อกลับมาใช้รถอีกที ปรากฏว่าสตาร์ทรถเท่าไหร่ก็ไม่ติด

     หากเกิดอาการแบบนี้สันนิษฐานได้ว่า แบตเตอรี่อาจจะเสื่อม ลองเช็คด้วยการจัมป์แบตเตอรี่ หรืออาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบจุดระเบิดและระบบจ่ายเชื้อเพลิง



     2. ไฟน้ำมันเครื่องโชว์

     น้ำมันเครื่องมีหน้าที่ทั้งช่วยหล่อลื่น, ระบายความร้อน และป้องกันสนิม ทำให้เครื่องยนต์สะอาด หากมีสัญญาณเตือนขึ้นมาก็เดาได้เลยว่า ระดับน้ำมันเครื่องต่ำ

     แต่กรณีนี้ยังไม่น่ากลัวเท่ากับไฟสัญญาณเตือนเพราะรอบเดินเบา, สายไฟในระบบช็อต, เซนเซอร์วัดแรงดันน้ำมันเครื่องเสีย หรือหากร้ายแรงสุดก็คือ ลูกปืนในเครื่องยนต์เสียหายหรือปั้มน้ำมันเครื่องพัง

     3. เครื่องสั่นจนดับ

     เคยไหมเวลาที่ขับรถออกจากบ้านแล้วอยู่ดีๆ เครื่องยนต์ก็สั่น มีเสียงประหลาดๆ ดังแล้วก็ดับไป...ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ อย่าเพิ่งตกใจ ให้เราตั้งสติแล้วลองสตาร์ทรถอีกครั้ง แล้วลองเร่งเครื่องให้แรงขึ้น เพราะเครื่องยนต์อาจจะเดินรอบไม่ถูกก็ได้

     หากเครื่องยังมีอาการสั่นจนดับอยู่อีก Sanook! Auto แนะนำให้ช่างตรวจดูเพราะอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น กรองเบนซินตัน, มีน้ำเจือปนในน้ำมันเชื้อเพลิง, ระบบจ่ายกระแสไฟมีปัญหา, ระบบควบคุมไอเสียมีปัญหา, หัวเทียนบอดหรือระยะเขี้ยวหัวเทียน ไม่ได้ขนาด



     4. กลิ่นเหม็นไหม้

     หากได้กลิ่นเหม็นไหม้ ไม่ว่าจะขณะจอดหรือขับอยู่ ให้สังเกตว่ากลิ่นนั้นมาจากไหน โดยสาเหตุของกลิ่นไหม้มีหลายอย่าง เช่น คลัทช์ไหม้, เบรคไหม้, สายพานไหม้, สายไฟไหม้, กลิ่นยางไหม้ เป็นต้น ซึ่งถึงแม้บางคนอาจจะหาสาเหตุได้เอง

     แต่ Sanook! Auto ก็ไม่อยากให้นิ่งนอนใจ แนะนำให้รีบเอารถไปเช็คเลยดีกว่า

     5. เสียงเบรก

     ทุกครั้งที่เราเหยียบเบรก ปกติแล้วจะไม่มีเสียงเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่ถ้าเวลาเบรกแล้วมีเสียงโลหะเสียดสีกันดังขึ้น ให้สันนิษฐานว่าผ้าเบรกของคุณน่าจะเสื่อมสภาพแล้ว ซึ่งเราแนะนำให้รีบไปเปลี่ยนเพราะทุกครั้งที่เบรก การเสียดสีจะทำให้เกิดความร้อน ซึ่งทำให้เบรกสึกหนักขึ้นเรื่อยๆ และถ้าปล่อยไว้จะเป็นอันตรายได้ในที่สุด

     6. รอยน้ำมันหยด

     รอยน้ำมันที่หยดลงบนพื้นจะแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งการรั่วซึมของระบบหล่อลื่น ไม่ว่าจะเป็นซีลอ่างน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ ปะเก็นน็อตถ่ายน้ำมันเครื่องแตก หรือฝาครอบวาล์วรั่ว ซึ่งเมื่อพบความผิดปกนี้ ต้องรีบหาตำแหน่งรั่วซึมให้เจอและยกหน้าที่ให้ช่างช่วยแก้ไขโดยเร็ว

     7. ควันจากท่อไอเสีย

     ปกติแล้วรถยนต์จะไม่มีควันออกมา หากมีควันดำหรือควันขาวออกมาก็จะเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์, น้ำมันเครื่องหลุดเข้าห้องเผาไหม้, ระบบกรองไอเสียอุดตัน, ระบบจ่ายน้ำมันอุดตัน, เครื่องหลวม และอีกหลายสาเหตุ ซึ่งถึงเราจะไม่เห็นท่อไอเสียเวลาขับรถ แต่บางจังหวะที่เราติดเครื่องไว้แล้วลงจากรถมาหยิบของหรือทำอะไรก็ตามเป็นระยะเวลาสั้นๆ ให้สังเกตส่วนนี้ของรถด้วย



     นอกจากจะสังเกตสัญญาณเหล่านี้แล้ว อย่าลืมสังเกตเกี่ยวกับประกันรถยนต์ด้วย เพราะถ้าจะดูแลรถให้ครบทุกด้าน ก็ต้องรวมเรื่องประกันเข้าไปด้วยเช่นกัน

     ถ้าคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันรถยนต์สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Drivedee.com หรือโทรสอบถามฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ที่ 02-306-9000

 

 

 


[Drivedee by Tokio Marine ]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook