สูญเสียกันมาเท่าไหร่กับการเลือกน้ำมันเครื่องอะไรก็ได้

สูญเสียกันมาเท่าไหร่กับการเลือกน้ำมันเครื่องอะไรก็ได้

สูญเสียกันมาเท่าไหร่กับการเลือกน้ำมันเครื่องอะไรก็ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ปกติทุกวันที่เราใช้รถก็จะต้องคลุกคลีอยู่กับเรื่องของน้ำมันที่ต้องใช้เติม และรู้ว่ารถของเรานั้นเหมาะกับการเติมน้ำมันแบบไหน แต่เรื่องของน้ำมันเครื่องหลายๆ คนอาจจะไม่คุ้นเคย และยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้น้ำมันเครื่อง บางคนถึงกับเลือกน้ำมันเครื่องโดยดูจากราคาเป็นหลักเพราะคิดว่าเลือกอะไรก็เหมือนๆ กัน ซึ่งแน่นอนว่าคุณอาจจะได้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพต่ำ แม้ว่าจะไม่เห็นผลการใช้งานในทันทีแต่จะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ของรถคุณในระยะยาว

เคล็ดลับการเลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพ
     ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าน้ำมันเครื่องทำหน้าที่อะไรบ้าง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าน้ำมันเครื่องยอมใช้ในการทำงานของเครื่องยนต์ โดยหน้าที่สำคัญของน้ำมันเครื่องก็เปรียบเหมือนเกราะป้องกันและช่วยคืนพลังกลับสู่เครื่องยนต์ ที่ช่วยทำหน้าที่
- ลดแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ โดยเฉพาะชิ้นที่ต้องเกิดการเสียดสีกันในการทำงานของเครื่องยนต์
- เคลือบช่องวางระหว่างผิวสัมผัส
- ป้องกันการกัดกร่อนจากสนิมและกรดต่างๆ
- ป้องกันกำลังอัดของเครื่องยนต์รั่วไหล
- ระบายความร้อนของเครื่องยนต์
- กำจัดของเสียที่เกิดหลังการเผาไหม้เชื้อเพลิงไม่ให้มีอันตรายต่อเครื่องยนต์

      หลักการง่ายๆ ในการเลือกน้ำมันเครื่องคุณภาพดีนั้น คือ ต้องเข้าใจก่อนว่าน้ำมันเครื่องเป็นส่วนประกอบระหว่างน้ำมันพื้นฐานและสารเพิ่มประสิทธิภาพ ดังนั้นหากจะเลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพต้องดูตั้งแต่น้ำมันพื้นฐานว่ามีคุณภาพเป็นอย่างไร และ สารเพิ่มประสิทธิภาพที่แต่ละผู้ผลิตมีการคิดค้นวิจัยและมีองค์ความรู้ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น น้ำมันเครื่องฮาโวลีนจากคาลเท็กซ์ที่มีน้ำมันพื้นฐานบริสุทธิ์ที่คิดค้นและพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งโดยนักวิจัยของเชฟรอนมายาวนานกว่า 100 ปี และเพิ่มประสิทธิภาพด้วยสารประกอบที่มีเทคโนโลยี Deposit Shield™ ที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันให้เครื่องยนต์ เป็นต้น

     นอกจากนี้ต้องดูว่าน้ำมันเครื่องนั้นตอบโจทย์การใช้งานและประเภทรถรวมถึงอายุรถของเราหรือไม่ เราจะเห็นได้เลยว่าตลาดของรถเครื่องยนต์มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เช่น ตลาดเครื่องยนต์เบนซินที่มีประเภทของรถออกมาอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Eco Car ที่ออกมาให้เหมาะกับใช้งานของคนเมืองและใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หรือจะเป็นรถยนต์ที่ทำงานด้วย 2 ระบบคือทั้งระบบน้ำมันและระบบแก๊ส หรือระบบน้ำมันและระบบไฟฟ้า เพื่อการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า เป็นต้น

 

     เพราะโจทย์การใช้งานจริงที่เปลี่ยนไปทุกวัน การเลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพจึงต้องเลือกจากผู้ผลิตที่สามารถตอบโจทย์ได้ครอบคลุมมากกว่า เพราะนั่นหมายถึงการสะท้อนถึงศักยภาพของผู้ผลิตและทีมวิจัยที่สะสมองค์ความรู้และไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา

มาดูกันว่าอย่างกลุ่มน้ำมันเครื่องสำหรับรถเบนซินที่มีในตลาดปัจจุบันมีน้ำมันอะไรกันบ้าง
- ผลิตภัณฑ์สังเคราะห์ 100% เพื่อตอบโจทย์รถยนต์ที่ต้องการการปกป้องสูงสุดระดับพรีเมี่ยม เช่น รถซูเปอร์คาร์ รถยุโรป เร่งได้แรงเต็มพลัง
- ผลิตภัณฑ์สังเคราะห์100% สำหรับรถ ECO เพื่อตอบโจทย์รถยนต์อีโคคาร์ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1500 cc และรถไฮบริด ที่ต้องการน้ำมันความหนืดต่ำ ลดแรงเสียดทาน จึงช่วยประหยัดเชื้อเพลิง แต่ยังคงการปกป้องการสึกหรอได้สูงสุด สามารถใช้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์สูงสุดถึง E85

 

- ผลิตภัณฑ์สังเคราะห์100% สำหรับรถยนต์ทั่วไป รถญี่ปุ่น ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1500 cc ขึ้นไป ที่ต้องการการปกป้องสูงสุดพร้อมทั้งช่วยประหยัดเชื้อเพลิง และสามารถใช้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์สูงสุดถึง E85
- ผลิตภัณฑ์กึ่งสังเคราะห์ เพื่อตอบโจทย์รถยนต์ทั่วไป และรถที่มีอายุใช้งานปานกลางประมาณ 5 ปีขึ้นไป ที่ต้องการการปกป้องระดับคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม
- ผลิตภัณฑ์สำหรับเครื่องยนต์แก๊สทั้ง CNG และ LPG เพื่อตอบโจทย์รถยนต์ที่ใช้แก๊สธรรมชาติทั้ง CNG/NGV และ LPG ที่ต้องการน้ำมันเครื่องที่ทนความร้อนได้สูง ป้องกันคราบเขม่าสะสมที่วาล์ว ป้องกันปัญหาวาล์วยัน
- ผลิตภัณฑ์มาตรฐานคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์รถยนต์ทั่วไป และรถที่มีอายุใช้งานค้อนข้างนาน ประมาณ 8 ปีขึ้นไป ที่ต้องการการปกป้องระดับมาตรฐาน ในราคาที่ประหยัด

     ไม่เพียงแต่รถยนต์ที่มีความต้องการเปลี่ยนไป รถมอเตอร์ไซค์เองก็มีกลุ่มน้ำมันที่ตอบโจทย์ครอบคลุมความต้องการมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์ที่ครอบคลุมทั้งรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ และน้ำมันเครื่องสำหรับรถสกูตเตอร์ อีกด้วย



     สุดท้ายการเลือกผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องจะต้องเลือกตามที่ผู้ผลิตแนะนำโดยอ่านข้อมูลได้จากคู่มือรถ ซึ่งการเลือกนั้นต้องเลือกเกรดที่เท่ากัน หรือสูงกว่าขึ้นไป โดยน้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐานนั้นควรจะได้รับรองมาตรฐาน เช่น มาตรฐาน American Petroleum Institute (API) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยจะมีโลโก้ API Donut รับรองที่ผลิตภัณฑ์



ตัวอย่างสัญลักษณ์ API Donut

     ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นหัวใจในการเลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพ เพราะการเลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพต่ำแทนที่จะเสริมเกราะและเติมพลังให้กับเครื่องยนต์ กลับกันน้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำจะทำให้เครื่องยนต์ของคุณสึกหรอตั้งแต่วันแรกที่คุณเลือกเติม โดยอาจจะไม่เห็นผลในทันที แต่คุณจะค่อยๆ เห็นการทำงานที่ผิดปกติของเครื่องยนต์ บางรายอาจจะต้องเสียค่าซ่อมบำรุงรักษารถที่คุณรักบ่อยๆ ซึ่งถือว่าไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย

     นอกจากความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่ได้จากน้ำมันเครื่องฮาโวลีนแล้ว ตอนนี้น้ำมันเครื่องฮาโวลีนก็ได้ร่วมสนับสนุนสังเวียนเดือด “One Championship” เวทีการแข่งขันศิลปะป้องกันตัวแบบผสมผสานหรือ Mixed Martial Arts (MMA) ซึ่งถือว่าเป็นเวทีระดับโลกที่เราจะได้เห็นการนำศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบมาประยุกต์ในการแข่งขันบนเวทีพร้อมสนับสนุนคนไทยให้พิสูจน์ศักดิ์ศรีความยิ่งใหญ่ของศิลปะการต่อสู้ของไทยในเวที MMA ในฐานะผู้สนับสนุน “ครูตอง - ชนนภัทร วิรัชชัย” ตัวแทนของประเทศไทยในปีนี้ด้วย

     สำหรับใครที่อยากติดตามเกี่ยวกับ Havoline สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/CaltexThailand และก็เพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการสั่งน้ำมันเครื่องกันแบบออนไลน์อยู่ที่บ้านกันได้ที่ http://www.lazada.co.th/caltex-thailand/?searchredirect=Caltex+Thailand เรียกว่าเติมพลังให้กับเครื่องยนต์แล้วก็ยังเติมพลังให้กับคุณได้เช่นกัน!

 


ติดตามโปรโมชั่นน้ำมันเครื่องฮาโวลีนได้ที่ www.facebook.com/caltexthailand หรือ
ซื้อน้ำมันเครื่องฮาโวลีนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ http://www.lazada.co.th/caltex-thailand/?searchredirect=Caltex+Thailand

 

 

[Advertorial]

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ สูญเสียกันมาเท่าไหร่กับการเลือกน้ำมันเครื่องอะไรก็ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook