Chevrolet Sonic 1.6 LTZ E85 ทดสอบบนเส้นทางกรุงเทพ-พัทยา

Chevrolet Sonic 1.6 LTZ E85 ทดสอบบนเส้นทางกรุงเทพ-พัทยา

Chevrolet Sonic 1.6 LTZ E85 ทดสอบบนเส้นทางกรุงเทพ-พัทยา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     หากลองพูดถึง Chevrolet Sonic นั้น เราคงนึกถึง รถยนต์ที่มีดีไซน์แหวกแนว โดนใจวัยรุ่น แต่เมื่อมองดูรายละเอียดสเป็ค กลับพบว่ามีแต่เครื่องยนต์ 1.4 ลิตรให้เลือกเท่านั้น อาจทำให้หลายคนถอดใจ หันไปเล่นรุ่นอื่นแทน

Chevrolet Sonic

     แต่มาคราวนี้ เชฟโรเลต ได้เปิดตัว โซนิค เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่สามารถเติมเชื้อเพลิง E85 ได้ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้มันกลับมาน่าสนใจขึ้นไม่น้อย

     ทีมงาน Sanook!Auto จึงได้เข้าร่วมทดสอบ Chevrolet Sonic 1.6 E85 บนเส้นทาง กรุงเทพ-พัทยา ที่ทางเชฟโรเลตจัดขึ้น เพื่อให้สื่อมวลชนได้มีโอกาสร่วมสัมผัสการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

     รูปลักษณ์ภายนอกของ Chevrolet Sonic 1.6 E85 นั้น ยังคงเหมือนกับรุ่น 1.4 ทุกประการ มีทั้งเวอร์ชั่น 4 ประตู และ 5 ประตูให้เลือกเหมือนเคย ไฟเลี้ยวด้านข้างในรุ่น 1.6 ถูกย้ายมาติดตั้งบริเวณกระจกมองข้าง พร้อมสีส้ม Orange Rock ใหม่เป็นทางเลือก

     เชฟโรเลต โซนิค 1.6 ลิตร ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว มีระบบแปรผันวาล์วไอดี-ไอเสีย Double CVC มีระบบแปรผันความยาวท่อร่วมไอดี และลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า ความจุ 1,598 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้าที่  6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 15.8 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ โดยรถคันที่ผมได้รับมอบหมายนั้น เป็น Chevrolet Sonic 1.6 LTZ รุ่น 4 ประตู ที่ใช้ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

Chevrolet Sonic

     เมื่อเข้ามายังห้องโดยสาร ก็สัมผัสได้ถึงความโปร่ง สบาย ไม่อึดอัดอย่างที่คิดไว้ ภายในรุ่น LTZ ตกแต่งด้วยโทนสีส้ม-ดำ เครื่องเสียงชุดเดิมถูกแทนที่ด้วย MyLink (มายลิงค์) ระบบอินโฟเทนเมนท์ผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว สามารถต่อ USB และ AUX ได้ ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทั้งไอโฟนและแอนดรอยด์  เพื่อฟังเพลงผ่านบลูทูธ โทรออก-รับสาย และดึงข้อมูลสมุดโทรศัพท์จากตัวเครื่องได้

     ที่เด็ดกว่านั้นคือระบบ Smartphone Link สำหรับฟังเพลงจากอินเตอร์เน็ต ผ่านแอพพลิเคชั่น TuneIn และ Stitcher ที่สามารถฟังเพลงได้จากทั่วโลก ผ่านอินเตอร์เน็ตของสมารท์โฟนนั่นเอง โดยมีสถานีและแนวเพลงให้เลือกมากมายนับไม่ถ้วน และหากเชื่อมต่อกับไอโฟน ยังสามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri ได้อีกด้วย โดยการกดปุ่มบริเวณพวงมาลัย

     จากนั้นเราจึงเริ่มออกเดินทางจากถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าสู่พัทยา โดยมีสื่อมวลชนอีกท่านหนึ่งเป็นผู้ขับ ทันทีที่รถเคลื่อนตัวอยู่บนโทลเวย์ดอนเมืองนั้น สิ่งที่สัมผัสได้ทันที คือความนุ่มและหนึบของช่วงล่าง เพราะสามารถดูดซับแรงที่เกิดจากรอยต่อบนทางด่วนได้ดี

     จุดหมายแรกของทริป คือปั๊มน้ำมันปตท. ตรงจุดพักรถบนทางด่วน เพื่อทำการเติมน้ำมัน E85 จนเต็มถัง หน้าปัทม์ถูกรีเซ็ทเพื่อหาอัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ย จากนั้นจึงมุ่งหน้าสู่พัทยาต่อ โดยใช้ความเร็วประมาณ 100-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีการเร่งแซงบ้าง คิกดาวน์บ้าง ช่วงล่างให้ความมั่นใจในระดับที่ดี ความเร็วระดับนี้ถือว่าเอาอยู่แบบสบายๆ ไม่มีอาการโหวงเหวง หรือสั่นคลอนให้ผู้โดยสารกังวลแม้แต่น้อย

     ลองใช้งานระบบ MyLink ซึ่งมีอินเตอร์เฟสสวยงาม ใช้งานง่าย ไม่ว่าจะฟังเพลง ดูภาพถ่าย หรือชมภาพยนตร์ แม้แต่การฟังวิทยุผ่าน TuneIn ที่มีสถานีให้เลือกมากมาย ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน มีฟังค์ชั่นในการตั้งค่าตัวรถนิดหน่อย เช่นการล็อคประตู หรือ หน่วงเวลาปิดไฟ หากแต่ข้อเสียของหน้าจอสัมผัส คือต้องละสายตาจากถนนในการกดปุ่ม แต่ยังสามารถควบคุมระดับเสียงหรือเปลี่ยนเพลง ผ่านปุ่มที่พวงมาลัยได้

     เมื่อมาถึงจุดหมายที่ร้านอาหาร The Glass House หน้าปัทม์แสดงผลอัตราสิ้นเปลืองที่ประมาณ 10.9 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งถือว่ากินเอาการอยู่ แต่อย่าลืมว่าใช้ความเร็วสูง มีการคิกดาวน์และเร่งแซงอยู่ตลอดทาง อีกทั้งเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิง E85 ที่เปลืองน้ำมันมากกว่าเบนซินตัวอื่น แต่มีราคาต่อลิตรที่ถูกกว่า ก็ถือเป็น Trade off ที่ไม่น่าเป็นห่วงอะไร

     ขากลับ ผมจึงมีโอกาสได้ลองขับดูบ้าง จึงพบว่าพวงมาลัยของ Chevrolet Sonic 1.6 คันนี้ มีสัมผัสที่กระชับมือดี น้ำหนักพวงมาลัยเซ็ทมาค่อนข้างหนัก เบาะนั่งพร้อมที่วางแขนให้ความรู้สึกกระชับตัว สามารถซัพพอร์ทแผ่นหลังได้ดี สามารถปรับสูง-ต่ำได้ หน้าปัทม์แบบดิจิตอล ดูสวยงามแปลกตา แต่อ่านง่าย

     เมื่อเบนรถเข้าสู่ถนนใหญ่ พบว่าอัตราเร่งช่วงต้นดูอืดไปสักหน่อย อาจเป็นเพราะน้ำหนักตัวกว่า 1,258 กิโลกรัม บวกกับผู้โดยสารอีก 2 ท่าน และการเซ็ทอัตราทดที่เน้นแรงปลาย ซึ่งกว่าจะพอมีเรี่ยวแรงให้เล่นจริงๆ ก็ต่อเมื่อเหยียบพ้นประมาณ 2,700 รอบขึ้นไป แต่มีพี่สื่อมวลชนอีกท่านกระซิบว่า แค่นี้ก็ดีกว่ารุ่นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตรอยู่ไม่น้อยแล้วนะ

     ระบบเกียร์แบบอัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมปุ่ม +/- บริเวณหัวเกียร์ เผื่อผู้ขับอยากจะเชนจ์เกียร์เล่นบ้าง จังหวะการเปลี่ยนเกียร์มาในสไตล์นุ่มนวล ไม่มีอาการกระชากให้เห็น

     ระบบเบรคเป็นแบบหน้าดิสก์ หลังดรัม น้ำหนักแป้นเบรคมาในแนวรถยุโรป คือ ค่อนข้างนุ่ม สามารถแตะเบรคเพื่อชะลอความเร็วได้อย่างนิ่มนวล ทว่า การเบรคกระทันหันก็ทำได้ดี เบรคอยู่โดยไม่มีอาการแฉลบ เพียงแต่อาจต้องเหยียบลึกกว่ารถญี่ปุ่นสักนิด ถือเป็นสไตล์เฉพาะตัวของรถ

     เมื่อวิ่งเส้นทางด่วนบูรพาวิถี ผมใช้ความเร็วประมาณ 120-140 กม/ชม. จึงได้เห็นความดีความชอบของอัตราทด ที่เน้นความเร็วปลาย โดยที่ความเร็ว 130 กม/ชม. จะใช้รอบเพียง 3 พันรอบต่อนาทีเท่านั้น ช่วยให้เดินทางไกลได้สบายๆ พวงมาลัยให้ความมั่นคงดี แต่สิ่งที่น่าประทับใจทีสุดของรถคันนี้ คือ ช่วงล่าง ที่ให้ความหนึบและเกาะถนน แต่ในขณะเดียวกันหากตกหลุมหรือผ่านรอยต่อของทางด่วน ก็ไม่รู้สึกกระด้างแต่อย่างใด ถือว่าเป็นรถเล็ก ที่เซ็ตช่วงล่างได้ดีมาก มีคาแร็คเตอร์ของรถยุโรปรุ่นใหม่ๆ ที่ให้ให้ความนุ่มแต่เกาะถนนได้ดีไปพร้อมๆกัน

     ออกจากทางด่วนเข้าสู่ตัวเมือง พบว่าอัตราเร่งสำหรับการใช้งานในเมืองนั้น ออกแนวผู้ดีนิดๆ คือไม่ได้พุ่งชนิดปรู้ดปร้าด แต่ยังคงมีเรี่ยวแรงให้ใช้ตลอด การหมุนพวงมาลัยเพื่อซอกแซกในเมือง ค่อนข้างหนักอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อใช้สักพักจนชิน ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด

     Chevrolet Sonic 1.6 LTZ E85 คันนี้ ถือเป็นโซนิค คันแรกที่ผมเคยขับ แต่มันสร้างความประทับใจผมได้เป็นอย่างมาก ทั้งสมรรถนะจากเครื่องยนต์ และระบบช่วงล่างที่เหนือกว่ารถญี่ปุ่นทั่วไป เพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานความบันเทิง ที่น่าจะถูกใจวัยรุ่นผู้ชื่นชอบในเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังสามารถใช้เชื้อเพลิง E85 ได้อีกต่างหาก ทำให้เป็นมันกลายรถที่ครบครันมากสำหรับค่าตัวระดับนี้

 

 

ขอขอบคุณ บริษัท เชฟโรเลตเซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้เกียรติเชิญเข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้

อัลบั้มภาพ 69 ภาพ

อัลบั้มภาพ 69 ภาพ ของ Chevrolet Sonic 1.6 LTZ E85 ทดสอบบนเส้นทางกรุงเทพ-พัทยา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook