"Toyota Vigo Prerunner" แน่น-หนึบ ได้ใจ!!

"Toyota Vigo Prerunner" แน่น-หนึบ ได้ใจ!!

"Toyota Vigo Prerunner" แน่น-หนึบ ได้ใจ!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ก่อนจะถึงฤดูการขายช่วงปลายปียักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้า ก็ได้ฤกษ์ปรับโฉมรุ่น  "วีโก้" สักทีหลังจากที่กั๊กไว้นานพอสมควร  เพราะชื่อของวีโก้ยังหากินได้สบายๆ  แม้คู่แข่งจะดาหน้าปรับโฉมใหม่หลายยี่ห้อ แต่โตโยต้าก็เตรียมทีเด็ดเอาไว้สู้ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมรุ่นย่อยให้ตรงกับความต้องการ โดยถึงวันนี้ "ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์"  ก็ยังถือเป็นปิกอัพที่มีรุ่นย่อยมากที่สุดในตลาด


     อย่างล่าสุดยังปรับไลน์อัพการขายใหม่ที่หลายคนรอคอยคือ ปิกอัพขับเคลื่อนสองล้อยกสูง "พรีรันเนอร์" วางเครื่องยนต์ D-4D ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และระบบช่วงล่าง DTS (DIAMOND TECH SUSPENSION)  ติดตั้งถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้าพร้อมเข็ดขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับในทุกรุ่น  และเพิ่มรุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นสมาร์ท แค็บ พรีรันเนอร์ 2.5G A/T (Navi) ราคา 819,000 บาท และรุ่นสมาร์ท แค็บ พรีรันเนอร์ 2.5 E ABS A/T ราคา 779,000 บาท เป็นทางเลือกในแบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด เข้ามาจากเดิมมีแต่เกียร์ธรรมดาเท่านั้น

     ส่วนเรื่องการขับขี่นั้นถามว่าแตกต่างรุ่นเก่าแค่ไหนบ้างคงต้องไปทดสอบกันทริปที่จัดให้ขับเมื่อไม่นานมานี้   โดยโตโยต้าจัดพรีรันเนอร์ 2.5E ABS A/T  ตัวถังสมาร์ทแค็บมาให้ได้ทดสอบบนระยะทางเชียงใหม่-ดอยอินทนนท์    ระยะทางรวมประมาณ 175 กิโลเมตร  พร้อมกับสั่งสายฝนให้โปรยปรายตลอดทางเพิ่มความท้าทายเป็นอย่างดี  นอกจากการทดลองสมรรถนะ การใช้อุปกรณ์ต่างๆ วัตถุประสงค์การขับทดสอบทริปนี้ยังคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนอีกด้วย


     เริ่มจากภายใน เมื่อเข้ามานั่งยังให้อารมณ์เดิมๆแต่ดูหรูหราด้วยส่วนบนและล่างคอนโซล มีให้เลือกแบบสีดำด้านบน สีเบจด้านล่าง และสีดำทั้งหมด รองรับระบบสมาร์ท จี-บุ๊กเชื่อมต่อแบบบลูทูธ  ซึ่งมีในรุ่นสมาร์ทแค็บและดับเบิลแค็บทุกเกรดและกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอดในรุ่นท็อปสุด นอกจากนั้นยังมีพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันแบบ 4 ก้าน ที่สามารถควบคุมเครื่องเสียง และควบคุมการโทรเข้า-ออกของโทรศัพท์ พร้อมความสามารถในการโทรออกด้วยเสียงอีกด้วย  แถมยังมีชุดลำโพง 6 ชิ้น ในรุ่นสมาร์ทแค็บและดับเบิ้ลแค็บ เกรด E และ G พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง มีในรุ่นสมาร์ทแค็บ ดับเบิ้ลแค็บ พรีรันเนอร์และขับเคลื่อนสี่ล้อ เกรด E และ G ส่วนระบบปรับอากาศอัตโนมัติติดตั้งในรุ่น ดับเบิ้ลแค็บ 3.0 G เกียร์อัตโนมัติ เรียกว่าจัดมาเต็มเหนี่ยว

     ในส่วนของพลังเครื่องยนต์ใหม่รองรับมาตรฐานมลพิษไอเสียระดับ ยูโร 4 ทุกรุ่น พร้อมเพิ่มแรงม้าในเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร รุ่นเกียร์ธรรมดา ใช้เครื่องยนต์รหัส 1KD-FTV (VNT) โดยมีความจุกระบอกสูบ 2,982 ซีซี และขยับแรงม้าจาก 168 ตัวมาเป็น 171 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400 – 3,400 รอบต่อนาที


     ส่วนช่วงล่างที่โตโนต้าเคลมว่าได้ปรับปรุงมาใหม่นั้นก็คือ "แหนบแบบเบอร์ลินอาย" (Berlin Eye) จุดศูนย์กลางของหูแหนบกับแผ่นแหนบอยู่ในแนวเดียวกัน ทำให้นุ่มนวลมากขึ้นพร้อมช่วงล่าง DTS (DIAMOND TECH SUSPENSION) ที่ได้รับพัฒนามาจากรุ่นท๊อปของ โตโยต้า พราโด้ ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนนขณะขับขี่แบบไร้การบรรทุก   รวมถึงการเซ็ตตำแหน่ง แหนบไว้บนเพลา หรือที่เรียกกันว่าแหนบเทิร์นเพลา เพื่อทำให้ตัวรถสูงขึ้นทรงตัวที่ดีกว่าเดิมเมื่อต้องขับขึ้น-ลงเขาแบบลาดชัน  

     ทั้งนี้ภาพรวมของเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดใหม่กับเครื่องยนต์ผสานการทำงานลื่นดี เมื่อต้องขับตะลุยฝนตลอดเส้นทางพร้อมความเร็วขึ้น-ลง 80-100-120 กม./ชม.ตามสภาพการจราจร  โดยจังหวะออกตัวรถยังตอบสนองแรงกดดีและสังเกตว่ารอบไม่ดีดสูงมากเหมือนพวก 4 สปีดเดิม เช่นเดียวกับการขับขี่ย่านความเร็วกลางๆเข็มวัดรอบไม่สวิงมากนัก แต่กระนั้นยังสามารถปลดปล่อยเรี่ยวแรงออกมาให้สมกับความต้องการทำให้การขับขี่นุ่มนวลมากขึ้นจริงๆ  จนสามารถรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ช่วงล่างให้สัมผัสที่ยืดหยุ่นสูงกว่าเดิมและมีความหนึบแน่นสมชื่อเมื่อขับเข้าสู่โค้งแคบๆ ซ้ายสลับขวา การถ่ายเทน้ำหนักค่อนข้างดีถึงแม้จะไม่ได้บรรทุกอะไรหนักๆนอกจากผู้โดยสารรวมคนขับแค่สองคน พวงมาลัยก็แม่นยำชัดเจนทำออกมาได้น่าพอใจ อัตราเร่งไต่ขณะขับขึ้นเนินชันไม่สร้างปัญหาหรือส่อไปในทางอืดอาดเชื่องช้า  การทรงตัวที่ดีขึ้นจากการปรับช่วงล่างใหม่หมดช่วยให้สามารถควบคุมตัวรถได้ง่ายขึ้นมาอีกพอสมควร เช่นเดียวกับช่วงขาลงที่มีความเร็วเพิ่มมากขึ้นจนต้องคอยแตะเบรกเพื่อชะลอความเร็ว ท่ามกลางบรรยายกาศที่เต็มไปด้วยหมอกและสายฝนตลอดทาง

      สุดท้ายถึงภายนอกจะไม่ได้มีปรับเปลี่ยนอะไรมากมายอย่างที่คิด แต่โดยรวมก็รู้สึกได้ว่ามีการออกแบบตกแต่งถายในให้เป็นรถยนต์นั่งมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ในรุ่นสมาร์ทแค็บจะเป็นลักษณะการใช้งานแบบใช้ในการบรรทุกมากกว่า พร้อมพัฒนาระบบขับเคลื่อนให้ตอบสนองดีแต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพของช่วงล่าง-เบรก  ในส่วนของประเด็นหนึบแน่นผู้เขียนเห็นด้วยและคิดว่า "วีโก้ แชมป์"  ทำได้ดีกว่าตอนเปิดตัวแรกๆ รวมถึงการไมเนอร์เชนจ์เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (มากกว่าสมัยยังไม่มีคำว่า"แชมป์"ต่อท้าย)  แม้จังหวะโยนตัวในรุ่นพรีรันเนอร์อาจมีอยู่บ้าง แต่ถ้าความเร็วสูงรู้สึกว่าเข้าโค้งยาวๆได้มั่นใจแน่นอน ถ้าไม่เชื่อน่าจะลองไปขับดูสักที!!!

 

อัลบั้มภาพ 25 ภาพ

อัลบั้มภาพ 25 ภาพ ของ "Toyota Vigo Prerunner" แน่น-หนึบ ได้ใจ!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook