รีวิว Chevrolet Trailblazer Z71 2017 ใหม่ ปรับหรู-เน้นความสปอร์ต

รีวิว Chevrolet Trailblazer Z71 2017 ใหม่ ปรับหรู-เน้นความสปอร์ต

รีวิว Chevrolet Trailblazer Z71 2017 ใหม่ ปรับหรู-เน้นความสปอร์ต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     Chevrolet Trailblazer Z71 2017 ใหม่ ถูกเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมกับพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด ‘ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์’ ซึ่งเชฟโรเลตเองบอกว่า นี่แหละ..! คือ ตัวแทนที่สะท้อนความเป็น ‘เทรลเบลเซอร์ ซี71’ ใหม่ ที่ถูกวางให้เป็นโปรดักส์ระดับพรีเมียมที่สุดของเชฟโรเลตในขณะนี้

145

     สำหรับคำว่า Z71 ที่ถูกวางต่อท้ายชื่อ Trailblazer นั้น บ่งบอกว่าเป็นรถรุ่นท็อประดับพรีเมียม เช่นเดียวกับ Corvette Z06 หรือ Camaro ZL1 ที่วางจำหน่ายในอเมริกาเหนือนั่นเอง ซึ่งทำให้รู้สึกถึงความเป็นอเมริกันเพิ่มขึ้นอีกนิดทำให้ปัจจุบัน Chevrolet Trailblazer รุ่นปี 2017 มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เริ่มจาก LT 4x2, LTZ 4x2, LTZ 4x4 และ Z71 4x4 ซึ่งทุกรุ่นถูกวางเครื่องยนต์ดีเซล Duramax ขนาด 2.5 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โดยไม่มีเครื่องยนต์ขนาด 2.8 ลิตรอีกต่อไป

     รายละเอียดด้านวิศวกรรมของ Trailblazer Z71 เหมือนกับรุ่นปกติแทบทั้งหมด แต่ก็มีการปรับปรุงดีไซน์ภายนอก-ภายในให้มีความแตกต่างจากรุ่นปกติ เพื่อเน้นความพรีเมียมและดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น

144

     ดีไซน์ภายนอกของ Trailblazer Z71 ใหม่ ถูกติดตั้งไฟหน้าแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ฮาโลเจน พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ดีไซน์เรียบง่าย ไฟหน้าสามารถเปิด-ปิดอัตโนมัติตามสภาพแสง ติดตั้งไฟตัดหมอกหน้าและหลังให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ติดตั้งไฟท้ายแบบ LED

146

     ขณะที่รุ่น Z71 มีชุดแต่งพิเศษเพิ่มเติมขึ้นมา ประกอบด้วย:-

- ฝากระโปรงหน้าพร้อมสติกเกอร์ตกแต่งสีดำด้าน และสัญลักษณ์ Z71
- กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้าสีดำเงา
- กระจังหน้าพร้อมแถบคาดสีดำเงา
- ที่เปิดประตูสีดำเงา
- เสากลาง B-Pillar สีดำเงา
- คิ้วขอบหน้าต่างสีดำ
- คิ้วกันกระแทกประตูสีดำ
- ล้ออัลลอยสปอร์ตสีดำ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18
- สติกเกอร์สัญลักษณ์ Z71 ที่ประตูท้าย

141

     ภายในห้องโดยสารของ Trailblazer Z71 ถูกติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบครันมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นระบบอินโฟเทนเม้นท์ Chevrolet MyLink ทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่สามารถสั่งงานได้ลื่นไหลแบบสมาร์ทโฟน สามารถเสียบสาย USB เข้ากับโทรศัพท์ iPhone เพื่อเรียกใช้งาน Apple CarPlay ได้ นอกจากนั้น ยังมีสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth และมีระบบนำทางมาให้ในตัว มีช่อง AUX ให้ ขับกำลังเสียงระดับพรีเมียมผ่านลำโพงทั้งหมด 7 ตำแหน่งรอบคัน

     เบาะนั่งผู้ขับขี่สามารถปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง ขณะที่เบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารเป็นแบบธรรมดาแต่สามารถปรับความสูง-ต่ำได้ หุ้มด้วยวัสดุหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ Jet Black ให้อารมณ์ความสปอร์ต ตกแต่งพนักพิงศีรษะด้วยสัญลักษณ์ Z71 4x4

102

     แผงคอนโซลด้านหน้าถูกติดตั้งสวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดิจิตอล พร้อมระบบแอร์ด้านหลังที่สามารถปรับความแรงลมแยกต่างหากได้ โดยจะติดตั้งสวิตช์ปรับความแรงลมไว้เหนือศีรษะผู้โดยสารแถวที่ 2 และมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารทั้งแถวที่ 2 และ 3 เพื่อให้สามารถกระจายความเย็นได้ทั่วทั้งคัน

     ภายในห้องโดยสารยังถูกติดตั้งช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ถึง 3 ตำแหน่ง ติดตั้งกุญแจรีโมทแบบพับได้พร้อมระบบ Remote Start ที่สามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดเครื่องปรับอากาศได้ก่อนขึ้นรถ, กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ (Electrochromic) เป็นต้น

101

     ฝั่งผู้ขับขี่ถูกติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและโทรศัพท์ฝั่งซ้ายมือ และปุ่มควบคุมระบบ Cruise Control และปุ่มปรับระดับสัญญาณเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Alert) ไว้ทางขวามือ

     มาตรวัดความเร็วแบบเรืองแสงถูกจัดวางตัวเลขให้อ่านง่าย สบายตา พร้อมหน้าจอ MID ที่สามารถแสดงผลเป็นภาษาไทยได้ ขณะที่ตำแหน่งไฟบอกเกียร์มีขนาดค่อนข้างเล็ก และมักถูกบดบังด้วยคอพวงมาลัย ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้ในรุ่นปกติเช่นกัน ซึ่งหากจำเป็นต้องอ่านตำแหน่งเกียร์จริงๆ ก็คงต้องขยับตัวมาข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อจะได้มองเห็น ทั้งนี้ หน้าจอ MID ยังสามารถแสดงข้อมูลแรงดันลมยางในแต่ละล้อได้อีกด้วย

142

     ด้านระบบความปลอดภัยของ Chevrolet Trailblazer Z71 ถูกติดตั้งมาให้ครบครันมากที่สุด ซึ่งเชฟโรเลตระบุว่าหากเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันแล้วล่ะก็ จะเห็นได้ทันทีว่า Trailblazer Z71 ถูกติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาให้มากกว่าใครเพื่อน..!

     ระบบความปลอดภัยของ Trailblazer Z71 ประกอบด้วยระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (Side Blind Zone Alert), ระบบช่วยเตือนรถเคลื่อนผ่านขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert), ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Alert) ซึ่งไม่มีระบบช่วยเบรกมาให้แต่อย่างใด เพียงแค่แจ้งเตือนให้ทราบเท่านั้น, ระบบช่วยเตือนเมื่อขับขี่ออกนอกช่องจราจร (Lane Departure Warning), ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนความดันลมยาง (Tire Pressure Measuring System)

139

     ขณะที่ระบบความปลอดภัยพื้นฐานมีให้อย่างครบครันเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยหัวเข่าฝั่งผู้ขับขี่, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบช่วยเบรกกะทันหัน PBA, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESC, ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะลากจูง TCS, ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ ARP, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC, กล้องมองหลัง พร้อมเซ็นเซอร์ช่วยจอดหน้า-หลัง เป็นต้น

108

     ขุมพลังของ Trailblazer Z71 ถูกติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลรหัส LP2 แบบ 4 สูบ พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGT ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Manual Mode

     ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกสองชั้น พร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพแก๊ส ด้านหลังแบบ 5-Link Rear Suspension พร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพแก๊ส ติดตั้งพวงมาลัยไฟฟ้า EPS พร้อมระบบห้ามล้อแบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ

105

     สำหรับการทดสอบ Chevrolet Trailblazer Z71 ใหม่ ที่ Sanook! Auto ได้มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบครั้งนี้ เราไปกันถึงจังหวัดเชียงราย ซึ่งจะได้สัมผัสรถคันนี้ทั้งบนเส้นทางออนโรดและออฟโรด

     เราออกจากจุดเริ่มต้นเพื่อมุ่งหน้าไปรับประทานอาหารกลางวัน โดยใช้เส้นทางออนโรดปกติ ซึ่งการขับขี่ของ Trailblazer Z71 แทบไม่ต่างอะไรจากรุ่นปกติเลย ซึ่งตลอดเส้นทางมีสายฝนโปรยปรายตลอดเวลา แต่ก็ได้ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติที่ช่วยให้เราไม่ต้องพะวงกับการปรับความเร็วของใบปัดอยู่ตลอดเวลา

118

     การออกตัวของ Trailblazer Z71 ให้บุคลิกตามสไตล์การเซ็ทรถจากฝั่งยุโรป คือเน้นความนุ่มนวลในการออกตัว ไม่ได้เบาหวิวเหมือนกับรถจากฝั่งญี่ปุ่น ทำให้รู้สึกถึงความหนักแน่น แต่เมื่อพ้นช่วงออกตัวไปแล้ว แรงบิด 440 นิวตัน-เมตรก็ให้แรงดึงจนสามารถแตะความเร็วระดับ 100 กม./ชม. ได้อย่างสบายๆ

     พวงมาลัยไฟฟ้าของ Trailblazer Z71 ให้ฟีลลิ่งใกล้เคียงกับพวงมาลัยแบบไฮโดรลิค คือไม่ได้ทื่อแบบไฟฟ้าจ๋าๆ ยังคงมีฟีดแบ็คจากพื้นถนนให้ได้สัมผัสอยู่บ้าง แต่การขับขี่ที่ความเร็วสูงอาจต้องประคองพวงมาลัยให้มั่นคงขึ้นเล็กน้อย เพราะพวงมาลัยจะเริ่มมีอาการคล้ายกับมีระยะฟรีอยู่หน่อยๆ แต่ก็ยังสามารถประคองให้รถพุ่งตรงไปด้านหน้าได้อย่างมั่นใจ

130

     ช่วงล่างของ Trailblazer Z71 ถือเป็นจุดเด่นเหนือกว่ารถพีพีวีในตลาดขณะนี้ ที่ให้ความแน่นหนึบและนุ่มนวลในเวลาเดียวกัน แม้ว่าช่วงเข้าโค้งจะมีอาการโยนให้เห็นอยู่บ้างเป็นเรื่องปกติของรถประเภทนี้ แต่ก็อยู่ในระดับที่น้อยกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด

     เมื่อมาถึงช่วงออฟโรดนั้น เราก็ได้ลองสัมผัสประสิทธิภาพระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ Trailblazer Z71 ใหม่ ซึ่งเราค่อนข้างประทับใจประสิทธิภาพการขับขี่ออฟโรดของทั้ง Colorado และ Trailblazer อยู่แล้ว ซึ่งในรุ่น Z71 ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน

124

     แม้ว่าช่วงที่เราลุยเส้นทางออฟโรดจะมีสายฝนโปรยปรายจนทำให้พื้นดินลื่นกว่าปกติ แต่ระบบ 4H ก็สามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างเหมาะสม ทำให้รู้สึกได้ว่าการขับขี่แบบออฟโรดใน Trailblazer ใหม่เป็นเรื่องง่าย ผู้หญิงที่ไม่เคยขับออฟโรดมาก่อนก็สามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจ

128

     สรุป Chevrolet Trailblazer Z71 2017 ใหม่ ยังคงคุณสมบัติด้านสมรรถนะการขับขี่ของเครื่องยนต์และช่วงล่างไว้ได้อย่างครบถ้วน เสริมด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตที่เพิ่มความดุดันมากยิ่งขึ้น เน้นความเป็นอเมริกันด้วยสัญลักษณ์ Z71 ห้องโดยสารภายในกว้างสบาย อุปกรณ์มาตรฐานติดตั้งมาให้ครบครัน มีจุดเด่นที่ช่วงล่างแน่นหนึบมั่นใจเมื่อออกต่างจังหวัด และมีประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรดที่ค่อนข้างดี แลกกับราคาจำหน่าย 1.5 ล้านบาทมีทอน หากใครรักใครชอบความเป็นอเมริกันแท้ๆแล้วล่ะก็ จัดไปได้เลย

     ราคาจำหน่าย Chevrolet Trailblazer Z71 2017 ใหม่ อยู่ที่ 1,499,000 บาท

 

     ขอขอบคุณผู้บริหารและฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ที่ให้เกียรติเชิญเข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้

 

อัลบั้มภาพ 50 ภาพ

อัลบั้มภาพ 50 ภาพ ของ รีวิว Chevrolet Trailblazer Z71 2017 ใหม่ ปรับหรู-เน้นความสปอร์ต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook