รีวิว BMW X3 xDrive 20d xLine 2018 ใหม่ เอสยูวีหรูขับสนุกสำหรับครอบครัว

รีวิว BMW X3 xDrive 20d xLine 2018 ใหม่ เอสยูวีหรูขับสนุกสำหรับครอบครัว

รีวิว BMW X3 xDrive 20d xLine 2018 ใหม่ เอสยูวีหรูขับสนุกสำหรับครอบครัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     BMW X3 เป็นเอสยูวีอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมในบ้านเราพอสมควร ด้วยขนาดบอดี้ที่พอเหมาะพอเจาะ จะใช้ขับไปทำงานทุกวันก็ไม่เทอะทะ หรือจะพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดในวันหยุด ก็เดินทางได้อย่างสบายทั้งครอบครัว เราจึงไม่พลาดที่จะมาทดสอบ BMW X3 xDrive 20d xLine 2018 ใหม่ล่าสุด บนเส้นทาง กรุงเทพฯ-สระบุรี ในครั้งนี้

101

     BMW X3 2018 ใหม่ ถูกพัฒนาต่อเนื่องเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 แล้ว โดยถูกวางให้เป็นคู่แข่งตรงกับ Mercedes-Benz GLC, Audi Q5 และ Volvo XC60 ในปัจจุบัน

     สำหรับบ้านเรานั้น BMW X3 ทำตลาดเพียงรุ่นย่อยเดียวในขณะนี้ นั่นคือ X3 xDrive 20d xLine โดยที่ xDrive หมายถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของบีเอ็มดับเบิลยู ส่วน 20d ก็หมายถึงเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร (ซึ่งหลังๆ มานี้ ตัวเลขก็ไม่ได้บอกปริมาตรกระบอกสูบเสมอไปเหมือนแต่ก่อนแล้ว) ขณะที่ xLine หมายถึงการดีไซน์การตกแต่งในแบบ xLine นั่นเอง

141

     BMW X3 ยังคงเน้นดีเอ็นเอความเป็นรถสปอร์ตตามฉบับบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ระหว่างเพลาหน้าและหลัง ซึ่งจะทำให้ตัวรถเกิดความสมดุลในการเข้าโค้ง และยังเป็นอัตราส่วนที่มักพบได้ในรถสปอร์ตสมรรถนะสูงเท่านั้น

139

     อุปกรณ์มาตรฐานภายนอกของ X3 xDrive 20d xLine ประกอบด้วย ไฟหน้าแบบ Adaptive LED ที่มาพร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ High-beam Assistant ออกแบบรับกับกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่แบบแอคทีฟ ที่สามารถเปิด-ปิดตะแกรงได้ตามสภาพภายนอก ไฟตัดหมอก LED รูปทรงหกเหลี่ยมที่นำมาใช้กับตระกูล X เป็นครั้งแรก, ไฟท้ายแบบ LED และล้ออัลลอย Y-spoke ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 245/50 R19

     รถคันนี้ยังถูกติดตั้งระบบ Comfort Access เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงประตูท้ายแบบ Trunk Hand Free Access ที่เพียงแต่เก็บกุญแจรถไว้กับตัว ก็สามารถใช้เท้าสอดเข้าไปใต้กันชนท้ายเพื่อเปิดประตูได้

146

     ไม่เพียงเท่านั้น X3 xDrive 20d ยังมาพร้อมเทคโนโลยี BMW Display Key ซึ่งเป็นกุญแจที่มีหน้าจอขนาดเล็ก สามารถแสดงข้อมูลตัวรถจากระยะไกลได้ ซึ่งจะแสดงข้อมูลว่ารถถูกล็อคอยู่หรือไม่, สามารถวิ่งได้อีกไกลเท่าไหร่จากปริมาณน้ำมันที่เหลือ และอื่นๆ อีกมากมาย

121

     ภายในห้องโดยสารถูกติดตั้งเบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง Vernasca ซึ่งให้ผิวสัมผัสนุ่มละเอียดดีกว่าหนังแบบ Dakota มาพร้อมระบบปรับไฟฟ้าคู่หน้าและเมมโมรี่ 2 ตำแหน่งฝั่งผู้ขับขี่ ขณะที่เบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับพับแบบ 40:20:40 ได้ พร้อมพนักพิงศีรษะแบบปรับระดับได้ทั้ง 3 ตำแหน่ง แถมยังรองรับการติดตั้งเบาะนั่งเด็กได้ถึง 3 ตำแหน่งอีกด้วย

120

     X3 xDrive 20d ถูกติดตั้งหน้าจอ iDrive ขนาด 10.25 นิ้ว สามารถสั่งงานด้วยการสัมผัสได้ และยังมีระบบสั่งงานด้วยท่าทาง BMW Gesture Control เช่นเดียวกับซีรี่ย์ 7 ด้วย ขณะที่ปุ่ม iDrive สามารถรองรับการเขียนตัวอักษรได้ด้วยเช่นกัน

     ในกรณีที่เรากำลังป้อนข้อมูลใดๆ บนหน้าจอ iDrive เช่น จุดหมายปลายทาง, รายชื่อโทรศัพท์ ฯลฯ ด้วยวิธีการเขียน แต่เกิดรู้สึกว่ามันไม่ทันใจเอาเสียเลย ก็สามารถเอื้อมมือไปใกล้กับหน้าจอ ระบบก็จะแสดงคีย์บอร์ดขึ้นมา ทำให้สามารถป้อนตัวอักษรได้รวดเร็วทันใจขึ้น ซึ่งฟังก์ชั่นนี้สามารถใช้งานได้แม้กระทั่งขณะรถเคลื่อนที่อยู่ ดังนั้นจึงควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย

126

     นอกจากนั้นยังถูกติดตั้งระบบนำทางในตัวพร้อมแผนที่ประเทศไทยมาให้ อีกทั้งยังมีแป้นชาร์จไร้สาย Wireless Charging มาให้ พร้อมระบบเสียงแบบ HiFi Loudspeaker System

     ขณะที่ระบบสั่งงานด้วยเสียง Intelligent Voice Control Assistant ถูกปรับปรุงให้รองรับคำสั่งได้ครอบคลุมและเป็นธรรมชาติมากขึ้น จึงทำให้การเข้าเมนูต่างๆ ทำได้อย่างง่ายดาย ไม่ซับซ้อน จนเราแทบจะยกย่องให้เป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยสัมผัสมาเลยก็ว่าได้

127

     ฝั่งผู้ขับขี่ถูกติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน ตกแต่งด้วยสีเงิน ติดตั้งมาตรวัดความเร็วแบบหน้าจอ Multifuntional Instrument Display ขนาดใหญ่ สามารถเปลี่ยนธีมได้ตามโหมดการขับขี่ มาพร้อมกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ซึ่งจะตัดแสงกระจกมองข้างควบคู่กันไปด้วย

128

     ด้านระบบความปลอดภัยถูกติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้า และถุงลมนิรภัยศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS และระบบช่วยเบรก Brake Assist, ระบบควบคุมเสถียรภาพ DSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี DTC, ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้า Attentive Assistant, ระบบล็อคความเร็ว Cruise Control พร้อม Braking Function, ระบบช่วยเบรกขณะเข้าโค้ง Cornering Brake Control, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC และเซ็นเซอร์ช่วยจอด PDC เป็นต้น

136

     BMW X3 xDrive 20d xLine ถูกติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (HP) ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.0 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 213 กม./ชม. พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

     ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองที่แสดงบนอีโคสติ๊กเกอร์ถูกเคลมไว้ที่ 17.6 กม./ลิตร ซึ่งประหยัดพอกับซิตี้คาร์ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

     และที่ขาดไม่ได้ก็คือโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือก 3 แบบ ประกอบด้วย ECO PRO, Comfort และ Sport ซึ่งแต่ละโหมดจะปรับดีไซน์มาตรวัดความเร็วแตกต่างกันออกไปด้วย

132

     หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าโหมด Sport จะช่วยรักษารอบเครื่องยนต์ให้สูงเข้าไว้ ด้วยการสั่ง ECU ให้เปลี่ยนเกียร์ในรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น จะช่วยให้เรียกกำลังได้ทันใจมากขึ้น

     ขณะที่โหมด ECO PRO นั้น หลายคนอาจสงสัยว่ามีลักษณะการทำงานอย่างไร โดยทันทีที่เลือกโหมด ECO PRO ระบบแอร์จะลดการทำความเย็นลงเพื่อลดภาระของเครื่องยนต์ พร้อมทั้งเปิดการทำงานฟังก์ชั่น Coasting ซึ่งจะทำหน้าที่ตัดการส่งกำลังระหว่างเครื่องยนต์และชุดเกียร์ออกในขณะปล่อยคันเร่ง ทำให้รถสามารถไหลไปเรื่อยๆ โดยไม่มีแรงฉุดจากเครื่องยนต์มาทำให้ความเร็วลดลง ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูระบุว่าจะช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองลงได้สูงสุดถึง 20 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดี ฟังก์ชั่น Coasting สามารถปิดได้จากหน้าจอ iDrive หากไม่ต้องการ

109

     สำหรับการทดสอบครั้งนี้ เรามุ่งหน้าจากสำนักงานใหญ่ของบีเอ็มดับเบิลยู ที่ตึกออลซีซั่น บน ถ.วิทยุ ไปยังเหมืองแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี ที่ถูกเรียกว่าเป็น ‘ดาวอังคาร’ ด้วยสภาพพื้นผิวที่เต็มไปด้วยฝุ่นและหินคล้ายกับสภาพพื้นผิวบนดาวอังคารนั่นเอง ซึ่งเราได้มีโอกาสทดสอบการขับขี่แบบออฟโรดแบบเล็กๆ ที่นั่นด้วย

     ทันทีที่เข้ามายังห้องโดยสารของ X3 xDrive 20d xLine ใหม่ ก็ยังคงสัมผัสได้ถึงบรรยากาศตามฉบับบีเอ็มดับเบิลยู หากใครใช้บีเอ็มอยู่ก็จะพอเดาได้ว่าปุ่มต่างๆ ถูกจัดวางไว้ตรงไหนอย่างไรบ้าง แต่ใน X3 ใหม่ จะสัมผัสได้ว่ามีการเลือกใช้วัสดุที่บ่งบอกถึงความพรีเมียมมากขึ้น เบาะนั่งให้ความโอบกระชับ พร้อมผิวสัมผัสที่นุ่มสบาย ขณะที่หลังคาแบบ Panorama Glass ยังช่วยให้ห้องโดยสารภายในดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้นด้วย ปุ่มต่างๆ ภายในห้องโดยสารถูกแปลกตาจากการตกแต่งด้วยสีเงิน Pearl Chrome

130

     ขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร ที่ให้แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ช่วยให้จังหวะออกตัวทำได้อย่างสนุกสนาน บวกกับการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลต่อเนื่องจนแทบจะไร้รอยต่อ

     แม้ว่าจะเป็นเอสยูวีขนาดกลาง แต่พวงมาลัยก็มีน้ำหนักดีมากทั้งในความเร็วต่ำและสูง ทำให้สามารถซอกแซกไปตามการจราจรได้อย่างมั่นใจ จนแทบไม่ต่างกับรถซีดาน ซึ่งพวงมาลัยของ X3 มาพร้อมระบบ Variable Sport Steering และ Servotronic ที่ช่วยปรับอัตราทดของพวงมาลัยและน้ำหนักได้ตามสภาพการขับขี่อยู่ตลอดเวลา

     ส่วนการขับขี่ที่ความเร็วสูงนั้น ช่วงล่างยังคงทำได้ดีตามฉบับบีเอ็มดับเบิลยู ให้ความนิ่งและมั่นคง ขณะที่การซับแรงสะเทือนขณะขับผ่านพื้นผิวขรุขระก็ทำได้ดีเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าช่วงล่างที่ยึดเกาะถนนได้ดีนั้น ไม่จำเป็นต้องแลกด้วยความแข็งกระด้างอีกต่อไป

147

     ด้วยอัตราทดเกียร์ที่มีถึง 8 จังหวะ จึงทำให้รอบเครื่องยนต์ค่อนข้างต่ำแม้ขณะขับขี่ที่ความเร็วสูง โดยที่ความเร็ว 130 กม./ชม. จะใช้รอบเครื่องยนต์เพียง 1,800 รอบต่อนาทีเท่านั้น ซึ่งทำให้ห้องโดยสารภายในเงียบและลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ด้วย

     ส่วนการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารทำได้ดีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากเครื่องยนต์, เสียงจากพื้นถนน และเสียงลมปะทะภายนอก ซึ่งแม้ว่ารถเอสยูวีจะมีข้อด้อยในเรื่องอากาศพลศาสตร์อันเนื่องมาจากตัวถังที่มีขนาดใหญ่ แต่ก็ยังสามารถเก็บเสียงลมปะทะได้เป็นอย่างดี

104

     ขณะที่ระบบเบรกมาในสไตล์แน่นหนึบแบบรถยุโรป ให้ความนุ่มนวลในจังหวะเริ่มแตะเบรก แต่หากต้องการแรงเบรกเพิ่มขึ้น ก็เพียงแต่กดเบรกให้หนักขึ้น ความเร็วก็จะลดลงได้ตามใจสั่ง โดย X3 ใหม่ มาพร้อมเบรกมือไฟฟ้าและฟังก์ชั่น Automatic Hold ซึ่งสามารถรักษาแรงดันเบรกให้อัตโนมัติขณะจอดติดไฟแดงได้ พูดง่ายๆ คือ สามารถเหยียบเบรกแทนเราได้นั่นเอง

     เมื่อมาถึงสนามทดสอบ ‘ดาวอังคาร’ ที่ จ.สระบุรี เราได้มีโอกาสทดสอบการขับขี่กึ่ง Gymkhana บนสภาพพื้นผิวที่เต็มไปด้วยก้อนหินขนาดเล็ก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการทำงานของระบบ Dynamic Traction Control (DTC) ที่ช่วยให้ล้อไม่ฟรีทิ้งขณะเร่งออกตัว รวมถึงระบบ Dynamic Stability Control (DSC) ที่ช่วยให้รถไม่หลุดโค้งจนเสียอาการได้

105

     นอกจากนั้น เรายังได้ทดสอบการขับขี่บนเนินสลับที่แสดงให้เห็นการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของ X3 ทุกคัน โดยระบบจะสั่งเพิ่มแรงบิดไปยังล้อข้างที่สัมผัสกับพื้นถนน ทำให้รถสามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้ แม้ว่าจะมีล้อใดล้อหนึ่งค้างเติ่งอยู่บนอากาศ

118

     สรุป BMW X3 xDrive 20d xLine 2018 ใหม่ ถือเป็นเอสยูวีขับสนุกที่เปี่ยมไปด้วยดีเอ็นเอของ BMW แบบเต็มๆ ขนาดบอดี้พอเหมาะพอเจาะสำหรับวันทำงาน และขับไปต่างจังหวัดในวันหยุด กำลังเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร มีให้เค้นเหลือเฟือและเพียงพอสำหรับชีวิตประจำวัน ห้องโดยสารถูกปรับปรุงเน้นความหรูหรามากขึ้น วัสดุและผิวสัมผัสปรับปรุงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ภายในกว้างขวาง สามารถรองรับผู้โดยสาร 5 คนได้อย่างสบายๆ หากใครกำลังมองหาเอสยูวีหรูสำหรับครอบครัวในระดับไม่เกิน 4 ล้านบาท แต่ยังอยากเก็บความสปอร์ตเอาไว้ รถคันนี้ถือเป็นอีกทางเลือกที่ไม่น่าพลาดครับ

     ราคาจำหน่าย BMW X3 xDrive20d xLine อยู่ที่ 3,699,000 บาท (ราคาพร้อมแพ็คเกจ BSI Standard บำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. และวารันตี 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

 

ขอขอบคุณผู้บริหารและฝ่ายประชาสัมพันธ์ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่ให้เกียรติเชิญเข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้

 

อัลบั้มภาพ 48 ภาพ

อัลบั้มภาพ 48 ภาพ ของ รีวิว BMW X3 xDrive 20d xLine 2018 ใหม่ เอสยูวีหรูขับสนุกสำหรับครอบครัว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook