Volvo V60 Sports Wagon โดดเด่น ปลอดภัย สไตล์รถอเนกประสงค์
ยนตรกรรมส่งตรงจากสวีเดน เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ด้วยรุ่นใหม่ล่าสุดในรหัส V60 สไตล์ Wagon พร้อมสโลแกน “The Most Dynamic Volvo Model Ever” สำหรับโมเดล V60 นี้ ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งแตกแขนงต่อยอดออกมาเป็นเวอร์ชั่น Wagon คันที่เห็นอยู่นี้
โดยเมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอกด้านหน้าแล้ว แทบจะถอดแบบออกมาจากตัวเวอร์ชั่นซีดานเลยทีเดียว ถ้าจะเห็นความแตกต่างคงต้องพิจารณาในด้านข้างยาวขึ้นในสไตล์รถ 5 ประตู และเส้นแนวหลังคาด้านท้ายลาดลงคล้ายรถคูเป้ ทำให้รูปทรงโดยรวมดูสปอร์ตปราดเปรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยยังคงไว้ซึ่งเส้นสายในส่วนของ “ไหล่” ด้านข้าง อันเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นชัดของวอลโว่ และการเปลี่ยนโฉมในส่วนท้ายที่เป็นไปในแนวทางเดียวกับรถ Wagon ในค่าย
และด้วยความเป็นรถแบบ Wagon แน่นอนว่า ห้องโดยสารภายในต้องถูกแบ่งเป็น 3 ตอนแน่นอน และ V60 Sportwagon ได้แบ่งเป็น 40/20/40 แถวหลังสามารถปรับพับตามรูปแบบการใช้งานที่ต้องการได้ พร้อมกับความสะดวกสบายที่อัดแน่นมาเต็มลำตามสไตล์ ซึ่งใช้การผสมผสานระหว่างดีไซน์ วัสดุ และเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว
จุดเด่นสำคัญของ V60 Sportwagon คือ เครื่องยนต์ที่เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ามากมาย ด้วย 5 เบนซิน กับ 3 ดีเซล เริ่มจากบล็อกใหญ่สุด ฝั่งเบนซิน รุ่นเครื่องยนต์ T6 พิกัด 3.0 ลิตร 6 สูบ กำลังสูงสุด 304 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา AWD ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ Geartronic 6 สปีด
รองลงมาเป็นพิกัด 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ ไดเร็กอินเจ็กชั่น (2.0T GTDi) ที่พัฒนาขึ้นจากเครื่องยนต์ตัวเดิม มีกำลังอยู่ที่ 203 แรงม้า มีแรงบิดมาให้ใช้ 300 นิวตัน-เมตร ต่อมาเป็นเครื่องยนต์พิกัด 2.0 ใหม่ล่าสุด ที่ทรงพลังกว่าในรหัส 2.0 GTDi กับพละกำลังที่ปั่นออกมาได้มากถึง 240 แรงม้า พร้อมแรงบิด 320 นิวตัน-เมตร สำหรับพิกัดเล็กสุด 4 สูบ 1.6 ลิตร รุ่น 1.6 GTDi นั้น เป็นของใหม่ทั้งคู่เช่นกัน รหัส T3 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร และรหัส T4 กำลังสูงสุด 180 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ 1,500-5,000 รอบต่อนาที มาพร้อมกับความสามารถในการ Overboost ขึ้นไปถึง 270 นิวตัน-เมตรได้
สำหรับระบบส่งกำลังนั้น รุ่นท็อปสุดจะมีตัวเลือกเดียวคือเกียร์อัตโนมัติ ในขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ 2.00 ลิตร และรุ่น 1.6 T3 นั้น มีเกียร์อัตโนมติ 6 สปีด Power Shift และธรรมดา 6 สปีด ส่วน 1.6 ลิตร T3 นั้น เหลือตัวเลือกเดียวคือ เกียร์ธรรมดา
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนั้นมีมาให้เลือก 3 รุ่น เริ่มจากบล็อกใหญ่สุดรุ่น D5 เครื่องยนต์ 5 สูบ พร้อมเทอร์โบคู่ ปั่นพละกำลังสูงสุดได้ที่ 205 แรงม้า พร้อมแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร มีระบบส่งกำลังทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติให้เลือก แต่สำหรับเกียร์อัตโนมัตินั้น จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นมาตรฐาน
ส่วนรุ่นรองลงมาเป็นเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น D3 เครื่องยนต์ 5 สูบ หายใจด้วยตัวเอง มีกำลังสูงสุด 163 แรง้มา พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติเช่นกัน
และรุ่นสุดท้าย เครื่องยนต์พิกัด 1.6 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รุ่น 1.6 D DRIVe ที่ทีมวิศวกรแสนจะภาคภูมิใจ กับพละกำลังระดับ 115 แรงม้า พร้อมแรงบิด 270 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
SPECIFICATION
แบบเครื่องยนต์ 6 สูบ
ความจุ 3.0 ลิตร
กำลังสูงสุด 304 แรงม้า
ระบบส่งกำลัง A/T 6 สปีด
ระบบขับเคลื่อน AWD