Volvo V60 Sports Wagon โดดเด่น ปลอดภัย สไตล์รถอเนกประสงค์

Volvo V60 Sports Wagon โดดเด่น ปลอดภัย สไตล์รถอเนกประสงค์

Volvo V60 Sports Wagon โดดเด่น ปลอดภัย สไตล์รถอเนกประสงค์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยนตรกรรมส่งตรงจากสวีเดน เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ด้วยรุ่นใหม่ล่าสุดในรหัส V60 สไตล์ Wagon พร้อมสโลแกนThe Most Dynamic Volvo Model Ever” สำหรับโมเดล V60 นี้ ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งแตกแขนงต่อยอดออกมาเป็นเวอร์ชั่น Wagon คันที่เห็นอยู่นี้

โดยเมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอกด้านหน้าแล้ว แทบจะถอดแบบออกมาจากตัวเวอร์ชั่นซีดานเลยทีเดียว ถ้าจะเห็นความแตกต่างคงต้องพิจารณาในด้านข้างยาวขึ้นในสไตล์รถ 5 ประตู และเส้นแนวหลังคาด้านท้ายลาดลงคล้ายรถคูเป้ ทำให้รูปทรงโดยรวมดูสปอร์ตปราดเปรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยยังคงไว้ซึ่งเส้นสายในส่วนของ “ไหล่” ด้านข้าง อันเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นชัดของวอลโว่ และการเปลี่ยนโฉมในส่วนท้ายที่เป็นไปในแนวทางเดียวกับรถ Wagon ในค่าย

และด้วยความเป็นรถแบบ Wagon แน่นอนว่า ห้องโดยสารภายในต้องถูกแบ่งเป็น 3 ตอนแน่นอน และ V60 Sportwagon ได้แบ่งเป็น 40/20/40 แถวหลังสามารถปรับพับตามรูปแบบการใช้งานที่ต้องการได้ พร้อมกับความสะดวกสบายที่อัดแน่นมาเต็มลำตามสไตล์ ซึ่งใช้การผสมผสานระหว่างดีไซน์ วัสดุ และเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว

จุดเด่นสำคัญของ V60 Sportwagon คือ เครื่องยนต์ที่เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ามากมาย ด้วย 5 เบนซิน กับ 3 ดีเซล เริ่มจากบล็อกใหญ่สุด ฝั่งเบนซิน รุ่นเครื่องยนต์ T6 พิกัด 3.0 ลิตร 6 สูบ กำลังสูงสุด 304 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา AWD ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ Geartronic 6 สปีด

รองลงมาเป็นพิกัด 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ ไดเร็กอินเจ็กชั่น (2.0T GTDi) ที่พัฒนาขึ้นจากเครื่องยนต์ตัวเดิม มีกำลังอยู่ที่ 203 แรงม้า มีแรงบิดมาให้ใช้ 300 นิวตัน-เมตร ต่อมาเป็นเครื่องยนต์พิกัด 2.0 ใหม่ล่าสุด ที่ทรงพลังกว่าในรหัส 2.0 GTDi กับพละกำลังที่ปั่นออกมาได้มากถึง 240 แรงม้า พร้อมแรงบิด 320 นิวตัน-เมตร สำหรับพิกัดเล็กสุด 4 สูบ 1.6 ลิตร รุ่น 1.6 GTDi นั้น เป็นของใหม่ทั้งคู่เช่นกัน รหัส T3 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร และรหัส T4 กำลังสูงสุด 180 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ 1,500-5,000 รอบต่อนาที มาพร้อมกับความสามารถในการ Overboost ขึ้นไปถึง 270 นิวตัน-เมตรได้

สำหรับระบบส่งกำลังนั้น รุ่นท็อปสุดจะมีตัวเลือกเดียวคือเกียร์อัตโนมัติ ในขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ 2.00 ลิตร และรุ่น 1.6 T3 นั้น มีเกียร์อัตโนมติ 6 สปีด Power Shift และธรรมดา 6 สปีด ส่วน 1.6 ลิตร T3 นั้น เหลือตัวเลือกเดียวคือ เกียร์ธรรมดา

สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนั้นมีมาให้เลือก 3 รุ่น เริ่มจากบล็อกใหญ่สุดรุ่น D5 เครื่องยนต์ 5 สูบ พร้อมเทอร์โบคู่ ปั่นพละกำลังสูงสุดได้ที่ 205 แรงม้า พร้อมแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร มีระบบส่งกำลังทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติให้เลือก แต่สำหรับเกียร์อัตโนมัตินั้น จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นมาตรฐาน

ส่วนรุ่นรองลงมาเป็นเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น D3 เครื่องยนต์ 5 สูบ หายใจด้วยตัวเอง มีกำลังสูงสุด 163 แรง้มา พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติเช่นกัน

และรุ่นสุดท้าย เครื่องยนต์พิกัด 1.6 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รุ่น 1.6 D DRIVe ที่ทีมวิศวกรแสนจะภาคภูมิใจ กับพละกำลังระดับ 115 แรงม้า พร้อมแรงบิด 270 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

 

 

SPECIFICATION

แบบเครื่องยนต์ 6 สูบ

ความจุ 3.0 ลิตร

กำลังสูงสุด 304 แรงม้า

ระบบส่งกำลัง A/T 6 สปีด

ระบบขับเคลื่อน AWD

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook