สปอร์ต รูปหัวใจ

สปอร์ต รูปหัวใจ

สปอร์ต รูปหัวใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อัลฟ่า โรมิโอ บรีร่า (Brera) รถสปอร์ตรุ่นใหม่ที่ยังมีกลิ่นอายของอัลฟ่า โรมิโอ 156 ทั้งฟีลลิ่งการขับขี่ที่ไม่ต่างจากรถแข่ง เสน่ห์กระจังหน้าคลาสสิกรูปหัวใจ


รูปโฉมและการออก แบบของบรีร่า นั้น คือการก้าวข้ามเส้นแบ่งของความเป็นซูเปอร์คาร์อย่างเด่นชัด ข้างตัวรถมีตัวอักษรคำว่า Design GIUGIARO (Giorgetto Giugiaro-จิออร์เก็ตโต้ จุยเจียโร่)

จากรถต้นแบบปี 2002 สู่รถยนต์ที่ผลิตออกจำหน่ายทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา เอเชีย รวมถึงเมืองไทย

ไฟดวงหน้าแบบ ก้อนวงกลมข้างละ 3 ดวง เรื่องของการออกแบบที่ไม่น่าเป็นไปได้ก็เป็นไปแล้ว แม้คลาสของรถน่าจะเป็นรองมาเซราติและเฟอร์รารี่ รถอิตาลีที่มีค่าตัวสูงกว่า นี่คือเอกลักษณ์ของ อัลฟ่า โรมิโอ ที่เด่นชัด

เมื่อมองมุมสูง ไปที่ด้านหน้าของรถ กระจังหน้า กระจกบังลมหน้า หลังคาแบบกระจก รถคันนี้สวยงามจับใจ ดุจรถสปอร์ตราคาแพงที่ไม่ค่อยคุ้นตาและไม่เคยเห็นมาก่อนบนถนนเมืองไทย

ผมไม่ได้ขับ ทดสอบ อัลฟ่า โรมิโอ มานานเหมือนกัน แต่ก็ยังพอจำได้ว่ารุ่น 147 สไตล์แฮทช์แบ็ค หรือรุ่นซาลูนหรูหราอย่าง 164 และสปอร์ตซีดาน 156 เป็นอย่างไร

โดยเฉพาะรุ่น 156 นั้น ต้องบอกว่ากู้ชื่อเสียงให้กับอัลฟ่าได้มาก ต่างจากรุ่น 155 ส่วนด้านการขับขี่สนุกเหมือนได้ขับรถแข่งระดับฟอร์มูล่า วัน ด้วยระบบเกียร์แบบเซเลสปีด ที่มีแป้นเปลี่ยนเกียร์ให้ที่พวงมาลัย แม้เครื่องยนต์จะเป็นขนาด 2.0 ลิตร 150 แรงม้า เชื่อได้เลยว่าในโลกนี้ไม่มีรถคันไหนให้ฟีลลิ่งการขับขี่เหมือน 156 อย่างแน่นอนในระดับเดียวกัน

คุณพร้อมหรือยัง กับการเปิด ประสบการณ์การวิ่งมาด้วยความเร็วสูงแล้วเข้าโค้งอย่างมืออาชีพ ด้วยระบบของเกียร์เซเลสปีด ที่ช่วยให้เราเป็นมือขับอาชีพแบบฉับพลัน

 

 

วิ่งในแทร็คนั้นยอด เยี่ยมมาก ด้วยระบบช่วงล่างด้านหลังที่ปรับมุมองศาได้อัตโนมัติ ได้เปรียบบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 รุ่นก่อนหน้านี้

ก่อนขับอัลฟ่า โรมิโอ บรีร่า 2.2 ผมมองไปที่ตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ดีไซน์นั้นต่างจากรถเยอรมัน รถยนต์ญี่ปุ่นแบบคนละขั้วเลย ภายในสปอร์ต คอนโซลเอียงเข้าหาตัวผู้ขับขี่ มีประดับแผ่นลายอะลูมิเนียมแท้ รวมทั้งที่พวงมาลัย แผงประตู ตกแต่งได้ดีมาก มีสไตล์ คุณภาพดี

เบาะนั่งดีไซน์แบบกึ่งรถสปอร์ต จีที มีโลโก้อัลฟ่าปั๊มที่พนักพิงศีรษะ นี่ถ้าใช้หนังลูกวัวตายในท้องแม่มาฟอกทำเป็นหนังหุ้มเบาะ ก็จะเหมือนเฟอร์รารี่ 456 จีที หรือ 599 หรือเอฟ 360 และเอฟ 430 สคูเดอเรีย

แม้ตัวรถจะดูแล้วมีขนาดไม่ยาวหรือ กว้างมาก แต่แท้ที่จริงรถคันนี้ไม่ใช่รถเล็กเลย น่าจะเป็นเพราะการออกแบบมากกว่าที่ลวงตา เพราะช่วงล้อคู่หน้าและหลังกว้าง เพื่อการยึดเกาะถนน

บรรยากาศภายในดูกว้าง ผู้ขับขี่มีพื้นที่ด้านขาขวามาก แต่พื้นที่ด้านหลังแคบไปนิด เวลาขับผมขยับเบาะนั่งให้พอดี ไม่ต่างจากหนุ่มอิตาเลียนที่มีขายาวขับ เบาะนั่งก็เกือบชนที่เบาะหลังเลย

นี่ถ้าให้เพื่อนๆ นั่งด้านหลังไปด้วย มีหวังต้องให้นั่งแบบยกขาขึ้นมาที่เบาะ

ด้ามเกียร์เล็กดูกระชับ รองรับอารมณ์การขับขี่ของผู้ขับขี่ได้ ที่เมืองนอกอาจจะชอบเกียร์ธรรมดา แต่สำหรับบ้านเรา ทำตลาดด้วยเกียร์เซเลสปีด ขับในสไตล์เกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดาได้ และเปลี่ยนเกียร์ได้ที่พวงมาลัย

ในรุ่น 156 ผมคิดว่า ยังไม่แรงเป็นที่พอใจ ยังวิ่งฉีกซีรีส์ 3 และ ฮอนด้า พรีลูด ยุคนั้นยังไม่ขาด แต่เมื่อมาสัมผัสบรีร่า 2.2 เจทีเอส ด้วยทั้งสองมือ เครื่องยนต์ใหม่แบบไดเร็กอินเจ็กชั่น พัฒนามาจากเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรในรุ่น 156 ไม่ว่าขนาดของลูกสูบกว้าง 86.0 มิลลิเมตร ท่อไอดีแบบยาว ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้วัสดุอะลูมิเนียม แต่สำหรับเครื่องยนต์ในบรีร่า ใช้วัสดุพลาสสิก กำลัง 185 แรงม้า ที่รอบสูงกับแรงบิด 230 เหลือๆ ครับสำหรับการขับขี่ที่สนุกทุกสถานการณ์

วิ่งดีกว่า 156 ทุกด้าน ไม่ยากเลยที่จะพารถวิ่งไปแตะที่ความเร็ว 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วช่วงกลางโดดเด่น เพราะใช้รอบเครื่องยนต์สูง ความเร็วปลายวิ่งแหวกกระแสลมแตะ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้หวานๆ

แม้รูปโฉมเพรียวลม แอโรไดนามิกดี ส่งผลถึงห้องโดยสาร มีความเงียบในระดับที่เราสามารถกระซิบคนนั่งข้างได้เลยว่า คุณพร้อมแล้วที่จะโลดแล่นไปกับเธอ

แม้ท้ายรถจะออกแบบเหมือนยานอวกาศ แต่ภายในห้องสัมภาระก็สามารถใส่สิ่งของต้องการได้มากอย่างคาดไม่ถึง มีเพียงวิธีเปิดฝากระโปรงท้าย ถ้ารถยังไม่สตาร์ทก็สามารถใช้รีโมตเปิดกระโปรงท้ายได้ แต่ถ้าติดเครื่องยนต์ไว้ ก็น่าจะหาปุ่มเปิดกระโปรงท้ายได้ยาก เจ้าของรถเท่านั้นครับที่รู้ว่าซ่อนอยู่ในกล่องเก็บของด้านข้าง

อัตราสิ้นเปลืองอยู่ในระดับที่ดี ถ้าเราวิ่งใช้รอบเครื่องยนต์ไม่สูงเกิน 3,000 รอบต่อนาที หรือขับขี่จนถึงรอบเรดไลน์ วิ่งในเมืองอาจจะไม่เนียนเนี้ยบเหมือนรถเยอรมัน แต่ถ้าขับขี่แบบสปอร์ต ลากกระชาก พุ่งได้ดั่งใจ เชื่อได้เลยว่า ไม่เป็นรองรถคันใดในคลาสของเครื่องยนต์ระดับเดียวกัน

ขับขี่บนถนนลื่นได้อย่างปลอดภัย มีระบบควบคุมเสถียรภาพด้านการทรงตัวแบบไดนามิก VDC (Vehicle Dynamic Control) และระบบ MSR-Motor Schleppmoment Regelung ทำงานเมื่อเกียร์ถูกลดตำแหน่งลงอย่างฉุกเฉิน โดยสร้างแรงบิดขึ้นมาใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้รถเกิดอาการล้อหมุนฟรี จึงขับขี่ได้สนุกเหมือนขับรถแข่ง

บรีร่า มีรูปโฉมสวย มีเอกลักษณ์ ภายในเหมือนคุณอยู่ในรถสปอร์ตเข้ม เครื่องเสียงก็ฟังเพราะ มาตรวัดระดับน้ำมันอุณหภูมิน้ำ น้ำมันเครื่อง และบอกสิ่งที่ควรรู้สำหรับเป็นข้อมูลการขับขี่ที่บอกได้ถึงรถยนต์ยุคใหม่ ไม่ต่างจากรถเยอรมัน

ในต่างประเทศอาจจะนิยมเครื่องยนต์ 3.2 วี6 กำลัง 260 แรงม้า สำหรับเมืองไทยแค่นี้ก็หรูแล้วครับ

ราคา 4.89 ล้านบาท มีเงินซื้อเก็บไว้ขับ ถ้าคุณชอบอยากหล่อสมาร์ทเหมือนหนุ่มอิตาเลียน

 

DID YOU KNOW ?
++  จากรถต้นแบบที่ดีไซน์โดย จิออร์เก็ตโต้ จุยเจียโร่ แห่งสำนักอิตัลดีไซน์ ที่แสดงในงานเจนีวามอเตอร์โชว์เมื่อปี 2002 กลายมาเป็น อัลฟ่า โรมิโอ บรีร่า สปอร์ตคูเป้ที่มีเสน่ห์ชวนมอง มีเอกลักษณ์ และยังถ่ายทอคุณลักษณะที่ดีเลิศของอัลฟ่า 1900 เอสเอส มาสู่ จูเลียตต้า สปรินท์ (Giulietta Sprint) และจากรุ่น อัลเฟตต้า (Alfetta) มาจนถึงรุ่น จูเลีย สปรินท์ จีที (Giulia Sprint GT) กระจังหน้าคลาสสิกรูปหัวใจ
++  อัลฟ่า โรมิโอ สไปเดอร์ 2.2 เจทีเอส ใหม่ ราคา 5.139 ล้านบาท ยังใช้พื้นฐานเดียวกับบรีร่า 2.2 เจทีเอส
 

SPECIFICATION ALFA ROMEO BRERA 2.2 JTS (CBU)
+ เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT ความจุ 2,198 ซีซี + กำลังสูงสุด 185 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที + แรงบิดสูงสุด  230 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที + ระบบส่งกำลัง เกียร์ 6 สปีด Selespeed + อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 8.6 วินาที + ความเร็วสูงสุด 222 กิโลเมตรต่อชั่วโมง + ความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 10.6 กิโลเมตรต่อลิตร + ค่าไอเสีย 221 กรัมต่อกิโลเมตร + ค่า Cd = 0.26-0.28 + ระบบเบรกหน้า/หลัง  ดิสก์/ดิสก์ ABS, HBA, ESP, VDA, ASR + ขนาดยาง 235/45R18 98V บริดจสโตน RE050A + น้ำหนักรถเปล่า 1,470 กิโลกรัม + ผู้จำหน่าย บริษัท ไทย เพรสทีจ โอโต เซลส์ จำกัด โทร. 0-2930-1490

ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook