BMW Group เติบโตอย่างต่อเนื่อง

BMW Group เติบโตอย่างต่อเนื่อง

BMW Group เติบโตอย่างต่อเนื่อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศจีน ได้รายงานยอดขายรถยนต์รวมของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิในเดือนมกราคมถึง 11,919 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 122% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้า สำหรับยอดขายของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูจำนวน 11,369 คันนั้น เป็นสถิติใหม่และเป็นครั้งแรกที่ยอดขายต่อเดือนทะลุหลัก 10,000 คันสำหรับตลาดประเทศจีน อีกทั้งยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7 ใหม่ที่ทำได้ถึง 1,705 คัน ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของรถยนต์ระดับซุเปอร์ซาลูนจากบีเอ็มดับ เบิลยูในตลาดนี้ได้เป็นอย่างดี ประเทศจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7

          มร. เอียน โรเบิร์ตสัน กรรมการบริหาร บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู เอจี กล่าวว่า “เรา จะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดเมืองจีน และปีค.ศ. 2010 นี้เราตั้งเป้าที่จะเติบโตอีกอย่างน้อย 10% ในตลาดนี้” ในปีที่แล้ว บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป สามารถทำยอดขายรวมของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิได้ถึง 90,536 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 37.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า”

          ตลาดในในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง ซึ่งมีความหลากหลายและแตกต่างนั้น มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในปีค.ศ. 2009 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป สามารถทำยอดขายรวมของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิในภูมิภาคนี้ได้ถึง 183,111 คัน (หรือเพิ่มขึ้นถึง 10.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า) คิดเป็นสัดส่วน 14% ของยอดขายรวมของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิทั่วโลก เทียบกับสัดส่วน 21% ของภูมิภาคอเมริกา และ 59% ของภูมิภาคยุโรป

          ในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้เริ่มต้นจากการก่อตั้งบริษัทแรกในประเทศญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1981  ซึ่งในวันนี้ บีเอ็มดับเบิลยูได้เป็นผู้นำของเซ็กเมนท์พรีเมี่ยมในตลาดญี่ปุ่น และในช่วงทศวรรษที่ 1990 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปก็ได้ขยายอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนการขายและส่วนการผลิต มร. เอียน โรเบิร์ตสัน กล่าวว่า “เราได้มองเห็นศักยภาพในตลาดใหม่ในภูมิภาคนี้ และก็ได้เริ่มลงทุนและพัฒนาอย่างจริงจังในแต่ละตลาด ในวันนี้ เราได้เห็นผลสำเร็จของความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับภูมิภาค นี้” ยกตัวอย่างเช่น บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ที่ทำยอดขายรวมของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 2,763 คัน เพิ่มขึ้นถึง 20.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และบีเอ็มดับเบิลยูสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของเซ็กเมนท์พรีเมี่ยมได้อีก 5.0% อีกทั้งยังเป็นรายเดียวในเซ็กเมนท์ที่ขยายส่วนแบ่งตลาดได้ในปีที่ผ่านมา หรือในตลาดอินเดีย ที่บีเอ็มดับเบิลยูได้เข้าเริ่มทำตลาดและตั้งโรงงานประกอบตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 ในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศอินเดีย สามารถทำยอดขายได้ถึง 3,619 คัน เพิ่มขึ้นถึง 24.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าหรือเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าตัว เมื่อเทียบกับยอดขายของปีค.ศ. 2007 ที่ทำได้ 1,387 คัน ในขณะเดียวกัน ในประเทศเกาหลีใต้ บีเอ็มดับเบิลยูก็สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 23.8% อีกทั้งยังเป็นประเทศอันดับที่ 4 สำหรับยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7 เป็นรองเพียงตลาดจีน อเมริกา และเยอรมัน และบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย

          นอกจากตลาดหลักๆอย่างเช่น ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทย ประเทศอินเดีย ประเทศมาเลเซีย และประเทศเกาหลีใต้แล้ว ตลาดอื่นๆที่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ขายผ่านตัวแทนนำเข้าก็สามารถทำยอดขายในปีที่ผ่านมาได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ ตลาดหลักของตัวแทนนำเข้าในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเติบโต ขึ้น 1.5% ปิดยอดขายที่ 5,840 คัน โดยตลาดหลักที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนการเติบโตในกลุ่มนี้ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซียทำยอดขายได้ 901 คัน (+25%) ประเทศเวียตนามทำยอดขายได้ 334 คัน (+25%) และประเทศบรูไนทำยอดขายได้ 213 คัน (+16%)

          ในตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ขายผ่านระบบตัวแทนนำเข้า ก็สามารถขยายส่วนแบ่งตลาดของเซ็กเมนท์พรีเมี่ยมได้อีก 4% โดยบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7 ติดอันดับยอดรถขายดี ด้วยยอดขาย 4,620 คันสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7 ซึ่งเพิ่มขึ้น 75% จากปีก่อนหน้า จากกลุ่มตลาดตะวันออกกลาง 14 ประเทศ ประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงได้แก่ ประเทศซีเรียซึ่งสามารถทำยอดขายเติบโตขึ้น 53% เป็นจำนวน 878 คัน ประเทศเลบานอนซึ่งสามารถทำยอดขายเติบโตขึ้น 48% เป็นจำนวน 1,001 คัน และประเทศซาอุดิอาระเบียซึ่งสามารถทำยอดขายเติบโตขึ้น 27% เป็นจำนวน 2,555 คัน “เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาตลาดในกลุ่มประเทศที่ขายผ่านระบบตัวแทนนำเข้าใน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งในปีนี้เราคาดว่าจะยังคงสามารถขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่อง” มร. โรเบิร์ตสัน กล่าวให้ความเห็นเพิ่มเติม

          ปัจจัยสำคัญในการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย  อยู่ที่การเพิ่มกำลังการผลิตและการบริหารการผลิตอย่างประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น โรงงานที่เมืองเสิ่นหยางในประเทศจีนจะค่อยๆเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 41,000 คันเป็น 100,000 คันในอนาคต โรงงานนี้ได้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 2003 โดยการร่วมทุนกับกลุ่มบริลเลียนซ์ของประเทศจีน ปัจจุบันผลิตรถยนต์รุ่นซีรี่ย์ 3 และซีรี่ย์ 5 เพื่อป้อนให้กับตลาดในประเทศจีนโดยเฉพาะ

          สำหรับประเทศอินเดีย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปก็จะเริ่มการทำตลาดรถอเนกประสงค์ SAV Sports Activity Vehicle ด้วยการขยายไลน์การประกอบรถยนต์ BMW X1 SAV ที่โรงงานในเมืองเชนไน ซึ่งประกอบรุ่นซีรี่ย์ 3 และซีรี่ย์ 5 ในปัจจุบัน และในขณะเดียวกัน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปก็จะทำการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและบริการเพื่อให้ครอบคลุมอีก 10 เมืองในส่วนต่างๆของประเทศอินเดีย

          ในปีนี้ นอกจากด้านการขายและการผลิตแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปยังจะขยายการดำเนินงานในส่วนของการจัดหาเพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียด้วย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้ตั้งสำนักงานจัดซื้อจัดหาโดยเฉพาะ ในประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีค.ศ. 2009 ที่ผ่านมา ซึ่งการจัดหาจากประเทศต่างๆ นอกจากจะทำให้สามารถสรรหาชิ้นส่วนที่มีคุณภาพดีที่สุดแล้ว ยังเป็นการลดความเสี่ยงต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราด้วย ในปัจจุบัน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้มีการจัดหาชิ้นส่วนจากประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีใต้ อีกทั้งยังมีการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ SB LiMotive ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง Bosch และ Samsung SDI เพื่อพัฒนาและผลิตระบบแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภาย ใต้โครงการยานยนต์ Megacity ที่มีแผนออกสู่ตลาดในปีค.ศ. 2015

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook