ผู้เชี่ยวชาญเตือนเป็น “หวัด”โด๊ปยา อาจหลับใน
ช่วงนี้อากาศบ้านเรากำลังหนาวได้ที่เลยทีเดียว ทำให้โรคฮิตติดเทรนด์อย่างโรคหวัดกำลังเป็นที่ฮิตติดลมบนจนหลายคนต่างไอ ต่างจาม บ้างก้ไข้ขึ้นสูงแต่คุณรู้ไหมว่า ถ้าคุณเป็นหวัดแล้วทานยาก่อนขับรถ คุณกำลังเสี่ยงภัยอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ดร. คริส สตีลลี ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอายุรกรรมเปิดเผยว่า คนที่ป่วยเป็นหวัดแล้วทานยาก่อนขึ้นไปขับรถนั้น ปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งมาจากความเชื่อที่ผิดๆ และผู้ใหญ่มีโอกาสจะเป็นหวัดและไข้ทับฤดู 3-4 ครั้ง ต่อปี ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับรถ โดยที่พวกเขาคิดว่าไม่มีอันตรายและใช้ชีวิตไปตามปกติด้วยการขับรถ
“ในบางตัวยาที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป เพื่อใช้ในการบรรเทาอาการป่วยในโรคหวัดนั้น ตัวยามีฤทธิ์เทียบเท่ากับอาการเมาตามที่กฏหมายได้ห้ามเอาไว้ ซึ่งความจริงแล้วคนที่รับประทานยาด้วยตัวเองควรจะต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์และเภสัชกรในการใช้ยา ซึ่งจะไม่มีผลค้างเคียงต่อการขับรถ”
ด้าน เดวิด วิลเลี่ยม ซีอีโอของ Gem Motor Asist หน่วยงานช่วยเหลือบนท้องถนนในอังกฤษกล่าวว่า หลายคนละเลยในเรื่องนี้ และการทานยาก่อนขับรถนั้นอาจนำไปสู่การหลับในหรือเหนื่อยง่ายกว่าผิดปกติ ซึ่งการทานยาเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์นั้น อาจมีความผิดเท่ากับเมาแล้วขับเลยทีเดียว
ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ต่างลงความเห็นว่า ผลิตภัณฑ์ยาแก้หวัดส่วนใหญ่นั้นไม่ได้ระบุว่ามันมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม และอาจทำให้หลับในขณะขับรถ ซึ่งควรจะมีการเตือนผู้ใช้ในเรื่องดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ดี ในยาแก้หวัดแผนปัจจุบันนั้น มีส่วนผสมของยาหลายชนิดรวมอยู่ด้วยกันเพื่อต่อสู่กับอาการของโรคหวัดคือ ยาแก้แพ้ - ยาแก้ไอ -ยาบรรเทาปวดและอาเจียน และรวมถึงยานอนหลับเพื่อให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนหลังรับประทานยาเข้าไป
ที่มา dailymail
Sanook Auto Comment
ยังไงช่วงนี้ก็รักษาสุขภาพกันสักนิดหนึ่งแล้วกัน และก็ไม่ควรทานยาก้ที่คุณจะขึ้นไปอยู่หลังพวงมาลัย เพราะฤทธิยาแก้หวัดนั้นอาจทำให้เกิดการง่วงซึมได้ในขณะขับรถ
ทั้งนี้หากคุรจำเป็นต้องทานยาแล้วทำภารกิจต่อควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรในเรื่องการใช้ยาและเลือกตัวยาที่จะไม่มีผลทำให้ร่างกายอ่อนเพลียหรือง่วงซึม