เข้มกว่าตำรวจ! เทคโนโลยีใหม่ในรถ "เมาแล้วห้ามขับ"

เข้มกว่าตำรวจ! เทคโนโลยีใหม่ในรถ "เมาแล้วห้ามขับ"

เข้มกว่าตำรวจ! เทคโนโลยีใหม่ในรถ "เมาแล้วห้ามขับ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มติชนรายวัน
วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 38 ฉบับที่ 13611

     สํานักงานเพื่อความปลอดภัยในการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติ (เอ็นเอชทีเอสเอ) นำต้นแบบเทคโนโลยีใหม่ในการป้องกันการเมาแล้วขับมาสาธิตเมื่อเร็วๆ นี้ 2 แบบ ซึ่งทางเอ็นเอชทีเอสเอกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะใช้แบบใดในการทดสอบประสิทธิภาพ การใช้งานจริง ด้วยการติดตั้งไว้กับรถยนต์ของทางรัฐบาลทุกคันในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้

     แบบแรกเป็นระบบวิเคราะห์ลมหายใจที่จะติดตั้งไว้กับพวงมาลัยรถ หรือบริเวณด้านข้างของประตูด้านคนขับ ซึ่งสามารถตรวจจับกลิ่นแอลกอฮอล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจำเป็นที่ผู้ขับขี่ต้องก้มตัวเข้าไปหา ส่วนแบบที่สองเป็นเซ็นเซอร์ระบบสัมผัส ที่สามารถติดตั้งไว้กับปุ่มกดเพื่อสตาร์ตเครื่องยนต์ หรือหัวเกียร์ แล้วทำหน้าที่สแกนบริเวณนิ้วหรือฝ่ามือที่สัมผัส เพื่อหาสัดส่วนของแอลกอฮอล์ในเลือด (บีเอซี)

     ทั้งสองระบบที่ติดตั้งไว้ในรถดังกล่าวนี้สามารถคำนวณหาสัดส่วนของแอลกอฮอล์ ในเลือดของผู้ขับขี่ว่าเกินกว่า 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในสหรัฐอเมริกา ส่วนของไทยไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) หรือไม่ และทั้งสองเทคโนโลยีออกแบบมาให้สามารถป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีแอลกอฮอล์ใน เลือดเกินขีดดังกล่าวขับเคลื่อนรถยนต์ไปไหนมาไหนเด็ดขาด

     อย่างไรก็ตาม ทางเอ็นเอชทีเอสเอยอมรับว่า อุปกรณ์ป้องกันการเมาแล้วขับที่ติดตั้งไว้ในรถนั้นยังคงไม่สามารถป้องกันผู้ ขับขี่ที่ไม่รับผิดชอบได้ (ที่อาจปิดการทำงานของอุปกรณ์ก่อนขับ)

     ดังนั้น การติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้จะไม่เป็นการบังคับ แต่ต้องขึ้นอยู่กับสำนึกรับผิดชอบของผู้ขับขี่ที่ทำให้ทุกคนเห็นว่าอุปกรณ์ นี้มีประโยชน์และเป็นความจำเป็นต้องมีในที่สุด

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook