เปิดเฟอรารี่คู่ใจนักธุรกิจพันล้าน คุณโจ แม่สาย

เปิดเฟอรารี่คู่ใจนักธุรกิจพันล้าน คุณโจ แม่สาย

เปิดเฟอรารี่คู่ใจนักธุรกิจพันล้าน คุณโจ แม่สาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดรถคู่ใจนักธุรกิจพันล้าน "โจ-แม่สาย ประภาสะวัต" นักธุรกิจหนุ่มวัย 26 ปี เจ้าของบริษัท เอ็ม เอส แฟคทอรี่ จำกัด และรั้งตำแหน่งนายกสมาคมผู้ติดตั้งอุปการณ์ใช้ก๊าซสำหรับรถยนต์คนปัจจุบัน ที่นอกจากจะสานฝันสามารถสร้างธุรกิจจนเติบโตมั่นคงแล้ว ชายหนุ่มคนนี้ยังสามารถสานฝันในการเป็นเจ้าของสปอร์ตพันธุ์หรูหลายคัน 

แรงผลักดันเมื่อสมัยที่ โจ ยังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งตอนนั้น โจ เหมือนกับวัยรุ่นทั่ว ๆ ไป ที่รักและชื่นชมเกี่ยวกับรถสปอร์ต โจ ได้มีโอกาสไปเดินดูงานแสดงรถ และเห็นรถที่จอดแสดงอยู่ ด้วยความชอบจึงได้เข้าไปยลโฉมใกล้ ๆ และได้สัมผัสรถคันนั้น แต่กลับโดนตะโกนไล่จากผู้ดูแลบูธแสดงรถคันนั้นอย่างเสียหาย จึงได้แต่เพียงคิดว่า "ซักวันหนึ่งผมจะมีรถสปอร์ตให้ได้" หลังจากที่ธุรกิจต่าง ๆ ของ โจ แม่สาย ประภาสะวัต ได้เติบโตและประสบความสำเร็จแล้ว ในระหว่างที่ธุรกิจกำลังพุ่งสุด ๆ โจ ก็ได้ทำตามฝันของตัวเองสำเร็จ คือมีรถสปอร์ต

ในช่วงอายุระหว่าง อายุ 21 โจสามารถเป็นเจ้าของ Banz C Class ตามด้วย BMW Z4 ในระหว่างนี้มีรถผู้บริหาร เป็น ยี่ห้อ TOYOTA ALPARD นำเข้าจากญี่ปุ่น เมื่อ อายุ 22 มี Porsche รุ่น cayman สีขาว อายุ 23 มี Lamborghini รุ่น Gallardo ราคาประมาณ 20 กว่าล้าน อายุ 25 มี Ferrari 599 GTB ราคา เกือบ 30 ล้าน ซึ่ง Ferrari 599 GTB เป็นรถคันล่าสุด ที่โจ ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นส่วนมาก (ดูข้อมูลความแรงอย่างละเอียดของรถคันนี้ได้ที่เว็บของเฟอร์รารี่โดยตรงที่ http://www.ferrari.com/English/)

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม รถคันโปรดสุดรักที่ทำให้ โจ ได้ประสบความสำเร็จมาจนทุกวันนี้ คือNISSAN BigM คันสีแดง ที่ โจ เก็บรักษาและคงสภาพที่ผ่านการใช้งานมาตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจจนปัจจุบันเพื่อเตือนสติเสมอว่า "ไม่มีรถคันนี้ ก็ไม่มี "โจ แม่สาย ประภาสะวัต" จนปัจจุบันนี้

 

 

ติดตามความสำเร็จภาคต่อ  "โจ-แม่สาย ประภาสะวัต" ในรายการ "รู้จริงป่ะ ยกกำลังสาม" คืนนี้ เวลา 23.15 น. ทางช่อง 3

------------------------------

จากศูนย์สู่นักธุรกิจพันล้าน

'ผมอยากรวย ตอนเด็ก ๆ คิดอย่างนั้นจริง ๆ เพราะผมเห็นคนส่วนใหญ่จะชื่นชมกับคนมีเงินว่าเก่ง ว่าดี ผมเลยมีความคิดอยากเป็นนักธุรกิจ อยากมีธุรกิจของตัวเอง"

"โจ-แม่สาย ประภาสะวัต" นักธุรกิจหนุ่มวัย 26 ปี เจ้าของบริษัท เอ็ม เอส แฟคทอรี่ จำกัด และรั้งตำแหน่งนายกสมาคมผู้ติดตั้งอุปการณ์ใช้ก๊าซสำหรับรถยนต์คนปัจจุบัน แถมยังเป็นนายกสมาคมที่อายุน้อยที่สุดอีกด้วย

โจโลดแล่นอยู่ในวงการติดตั้งก๊าซรถยนต์รวม 5 ปี เพราะความที่เป็นคนมุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง คิดวางแผนล่วงหน้า และกล้าได้กล้าเสีย ทำให้วันนี้เขากลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่น่าจับตามอง กับธุรกิจก๊าซรถยนต์ครบวงจร ทั้งนำเข้า ขายส่ง ขายปลีก และติดตั้งที่มีเงินทุนหมุนเวียนร่วม 1,000 ล้านบาท ด้วยระยะเวลาอันสั้น จากเงินทุนเริ่มต้นเพียง 70,000 บาทเท่านั้น

โจบอกว่า เขาไม่คิดว่าจะเดินมาไกลถึงขนาดนี้ เพราะเกิดในครอบครัวทหาร ฐานะปานกลาง ในจังหวัดลพบุรี เขาถูกเลี้ยงอย่างมีวินัยมาตั้งแต่เด็ก ครอบครัวจึงหวังให้เป็นทหารตามแบบอย่างคุณพ่อ แต่โจฝันที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเองเพราะ "อยากรวย" จึงตัดสินใจเลือกเรียนต่อคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ท่ามกลางถ้อยคำดูถูกจากคนรอบข้างว่า "จะไปได้ไกลขนาดไหนเชียว"

หลังเรียนจบ โจไม่คิดที่จะยื่นใบสมัครงานที่บริษัทไหนเลย แต่เสาะหาธุรกิจที่เหมาะสมกับตัวเอง จนได้คุยกับลุงเจ้าของอู่ซ่อมรถข้าง ๆ หอพักว่าธุรกิจติดตั้งก๊าซรถยนต์มีผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากในช่วงปี 2548 เป็นช่วงวิกฤติพลังงาน น้ำมันราคาแพง ประกอบกับเขาชอบเครื่องยนต์กลไกและรถยนต์เป็นทุนเดิม โจเห็นช่องทางในการทำธุรกิจจึงควักเงินเก็บที่มีอยู่เพียง 70,000 บาท ลงทุนซื้อเครื่องมือติดตั้งก๊าซรถยนต์ และทำร้านเพิงเล็ก ๆ ขนาด 3x3 เมตร ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพราะเห็นว่ามีคู่แข่งน้อยกว่าจะเปิดร้านในกรุงเทพฯ ซึ่งโจจะต้องโดยสารรถตู้จากบ้านพักที่รังสิตไปพระนครศรีอยุธยาเพื่อเปิดร้านทุกวัน

"เรียกว่าผมเริ่มจากศูนย์ก็ว่าได้ ช่วงนั้นผมต้องทำทุกอย่าง ใกล้ ๆ ร้าน ผมมีตลาดนัดผมก็ใส่ชุดแบบสุภาพไปยืนแจกโบรชัวร์ร้าน และกลับมาเปลี่ยนเป็นชุดช่างเพื่อทำงาน ช่วงนั้นผมจ้างช่าง 2 คนมาช่วย ผลตอบแทนก็ดีอย่างที่คุยกับคุณลุงไว้ ได้กำไรตกคันละ 5,000 บาท วันหนึ่งผมทำรถ 1 คัน เดือนหนึ่งผมก็มีรายได้แสนห้าแล้ว"

โจชอบหาความรู้พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ จึงมักชอบไปถามช่างตามร้านต่าง ๆ ว่ารถยนต์แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อต้องติดตั้งก๊าซในลักษณะใด พร้อมกับเริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการติดตั้ง เพื่อใช้เวลาในการทำงานน้อยลง และเกิดความปลอดภัยกับผู้มาใช้บริการมากขึ้น กิจการของโจขยายขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเห็นช่องทางธุรกิจที่กว้างขึ้น นั่นคือ การนำเข้าอุปกรณ์ติดตั้งก๊าซ โจเริ่มทำธุรกิจนำเข้ากับต่างประเทศ แต่เพียงปีเศษหุ้นส่วนที่ทำธุรกิจด้วยกันเกิดแยกตัวไปทำเอง ทำให้เขาต้องแบกรับภาระ อุปกรณ์ที่นำเข้ามาเป็นเงินหลายสิบล้าน

"ตอนนั้นผมขาดทุนเดือนละ 1 ล้านบาท แต่จะทำอย่างไรได้ ผมลงทุนไปแล้วก็ต้องทำต่อไป ยอมขาดทุน และก็ไม่ท้อด้วย พอเดือนที่ 9 ตัวเลขขาดทุนก็น้อยลง และเริ่มกลับมามีกำไร"

โจกลับมารุกเรื่องการนำเข้าอุปกรณ์ติดตั้งก๊าซรถยนต์อีกครั้ง เพราะเล็งเห็นว่าธุรกิจนี้ยังขยายตลาดได้อีก เขาได้เขียนตำราคู่มือติดตั้งก๊าซรถยนต์เป็นเล่มแรกของประเทศไทย และถูกใช้อ้างอิงในการเรียนการสอนของนักศึกษาที่เรียนด้านเทคโนโลยี โจยังได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรตามสถาบันการศึกษาเป็นระยะ นอกจากนี้เขาเองยังได้จัดอบรมฟรีให้กับช่างทั่วประเทศที่ต้องการความรู้ด้านการติดตั้งก๊าซรถยนต์ที่ถูกต้องและปลอดภัยทุกเดือน

เขาย้ำว่าเขาอบรมให้ฟรีโดยไม่ได้มุ่งหวังอะไร เพียงแค่ต้องการให้ช่างหรือคนทั่วไปที่สนใจได้รับความรู้ แต่ผลพลอยได้คือได้เพื่อน ได้เครือข่าย หรืออาจจะสนใจสินค้าที่เขานำเข้า แต่หากไม่สนใจก็ไม่เป็นไร ปัจจุบันนอกจากบริษัทนำเข้าอุปกรณ์ติดตั้งก๊าซรถยนต์ครบวงจร โดยมีธุรกิจติดต่อกับต่างประเทศ 7 ประเทศแล้ว โจยังทำโรงงานผลิตถังก๊าซรถยนต์ และทำธุรกิจ ผู้ผลิต จำหน่าย ให้เช่าจอแอลอีดี (LED) อีกด้วย

ความมุ่งมั่น ไม่ท้อถอย ขยันพัฒนาตัวเอง วาง แผนให้ดี เป็นสิ่งที่หนุ่มคนนี้ยึดถือมาตลอด และเป็นสิ่งผลักดันให้จุดเริ่มต้นที่ศูนย์ กลายเป็นธุรกิจพันล้านได้จริงๆ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณโจได้ที่ www.versusthailand.com , www.msfactory.co.th

ติดตามชมเทปการสัมภาษณ์ได้ที่รายการ "รู้จริงป่ะ ยกกำลังสาม" ออกอากาศ : คืนวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน เวลา 23.15 น. ทางช่อง 3 

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ เปิดเฟอรารี่คู่ใจนักธุรกิจพันล้าน คุณโจ แม่สาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook