จัดเต็มทุกเรื่อง กับ "รถคันแรก"

จัดเต็มทุกเรื่อง กับ "รถคันแรก"

จัดเต็มทุกเรื่อง กับ "รถคันแรก"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

               ใครที่กำลังจะซื้อรถยนต์คันใหม่ ในนาทีนี้คงไม่มีใครที่ไม่มองถึงประเด็นเรื่อง "รถคันแรก" ที่ภาครัฐบาลเข้ามาอุ้มชูให้คนไทยได้มีรถกันสมใจ แม้ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ใกล้โค้งสุดท้ายของรถยนต์คันแรกกันแล้ว แต่เมื่อพูดถึงรถยนต์คันแรกแล้วหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า มีอะไรต้องใช้กันบ้างเพื่อเข้าสู่โครงการนี้

                หลายสื่ออาจจะตีฆ้องร้องป่าวกันไปหมดแล้ว แต่วันนี้เราจะพาเพื่อนๆใครที่กำลังซื้อรถแล้วต้องเข้าโครงการ "รถคันแรก" มาทบทวนกันอีกสักครั้งว่า ทำอย่างไรบ้างจะเข้าสู่กระบวนการตามนโยบาย "รถคันแรก" ของภาครัฐบาล ที่มันกำลังจะหมดลงในช่วงปลายปีนี้

จะบอกว่ารัฐบาลนี้แจกเงินให้คนอยากมีรถก็อาจจะเป็นคำที่เปรียบเปรยมากเกินไป แต่ถึงแบบนั้นการมีรถยนต์คันแรกของประชาชน ก็ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยผู้ที่จะใช้สิทธิ์โครงการนี้ต้องมีคุณสมบัติต่างๆเพื่อที่จะเข้าสู่กระบวนการตามโครงการนี้ ไม่ใช่ใครหน้าไหนก็บอกว่าสามารถเข้าได้ นั่นเป็นสิ่งที่เข้าใจผิดกัน

                1.ต้องมีรถคันแรก...  ข้อนี้น่าจะชัดเจน เพราะโครงการรถคันแรก ถูกหยิบยกขึ้นมาสำหรับใครก็ตามที่ยังไม่เคยมีรถยนต์เป็นของตัวเอง โดยรถคันที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ต้องเป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อ โดยกำหนดให้ผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการนั้นต้องมีอายุขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 21 ปี บริบูรณ์ จึงจะมีสิทธิ์ตรงตามเกณฑ์

                2.ซื้อ-ขาย และหรือจองก่อน 30 ธันวาคม 2555 ในช่วงระหว่างปีที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 ที่เริ่มต้นโครงการรถคันแรก ระยะเวลา 1 ปีของการดำเนินการนี้ เป็นข้อกำหนดที่ทำให้ประชาชนต่างเร่งที่จะมีรถเป็นของตัวเอง โดยจากเดิมกำหนดให้มีการซื้อขายภายในวันที่ 31 ธนวาคม 2555 แต่ด้วยเหตุอุทกภัยในปีที่ผ่านมา ทำให้ค่ายรถยนต์หลายเจ้าไม่สามาถส่งมอบรถได้ตามกำหนด และล่าสุดไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ก็มีการปรับเปลี่ยนกฏโดยถือเอาใบจองรถก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2555 เป็นสำคัญ และต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสัญญากรณีเช่าซื้อกับไฟแนนซ์ หรือต้องมีชื่อเจ้าของรถตรงกับใบจองตอนยื่นเรื่อง กรณที่ซื้อรถเป็นเงินสด และเมื่อจองแล้วให้ติดต่อกรมสรรพสามิตทันที โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในหน้าเว็บโครงการรถคันแรก

                3.ประเภทรถ   ในเรื่องนี้เชื่อว่าจะกระจ่างกันพอสมควรแล้ว แต่ใครที่มองรถคันแรกอยู่ก็คงต้องมองกันให้ถี่ถ้วนเพราะรถที่จะเข้าดครงการนี้มีเพียง 2 ประเภทเท่านั้น แล้วต้องจำให้ขึ้นใจ

                                3.1 รถนั่ง  ในประเภทรถนั่งรัฐบาลมุ่งเน้นในการให้ประชาชนเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ได้แก่รถยนต์อีโค่คาร์ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1.2 ลิตร และรวมถึงรถยนต์ซิตี้คาร์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1.5 ลิตร เท่านั้น

                                3.2 รถกระบะ ในส่วนของระกระบะเองก็สามารถเข้าโครงการรถคันแรกได้ โดยสามารถเข้าร่วมได้ทั้งรุ่น รถนั่งกึ่งบรรทุก Double Cab (4 ประตู) และรถกระบะทั่วไป

                นอกจากนี้ในส่วนของข้อกำหนดโครงการรถคันแรกไม่ครอบคลุมถึงการซื้อ-ขายรถมือสองในตลาด รวมถึงรถยนต์ที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ หรือประกอบจากชิ้นส่วนที่นำเข้าจากต่างประเทศ(รถจดประกอบ) ดังนั้นจะซื้อรถก็ต้องเลือกให้ดี

                4.การครอบครองรถและเงื่อนไข  เมื่อได้รถมาและทำเรื่องกับกรมสรรพสามิต แล้วทางรัฐบาลก้มีข้อกำหนดที่ผู้ใช้สิทธิ์รถคันแรก จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของรถคันแรกด้วยเช่นกัน และมีรายละเอียดปลีกย่อยเงื่อนไขมากมาย ที่ควรเรียนรู้ แต่หลักๆก็มีดังนี้

                1.ต้องครอบครอบรถยนต์คันที่เข้าร่วมโครงการรถคันแรก อย่างน้อย 5 ปี

                2. การจะได้เงินคืนรถคันแรก ก็ต่อเมื่อการครอบครองรถคันที่ซื้อเข้าร่วมโครงการผ่านไป 1 ปี ไปแล้ว และยังต้องรอตามคิวของผู้ใช้สิทธิ์ อีกด้วย

                3.การได้รับเงินคืนตามโครงการรถคันแรกนี้ จะได้รับเงินตามจำนวนที่จ่ายภาษีสรรพสามิตจริง ณ ที่จ่าย แต่สูงสุดไม่เกินคันละ 100,000 บาท

                เมื่อทราบดังนี้ก็ให้ไปยื่นเรื่องตามสถานที่ ซึ่งกรมสรรพสามิตกำหนดเอาไว้ โดยต้องใช้เอกสาร 9 ชิ้นประกอบการพิจารณาเข้าสู่กระบวนการ ดังนี้

                1.สำเนาบัตรประชาชน

                2. สำเนาทะเบียนบ้าน

3. สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ขอใช้สิทธิ์

4. หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนรถยนต์ใหม่คันแรก โหลดที่กรมสรรพสามิต

5.ใบคำขอใช้สิทธิ์และเงื่อนไขสำหรับรถยนต์ใหม่คันแรก โหลดได้ที่กรมสรรพสามิต

6.ใบคำขอสิทธิ์ ตามนโยบายโครงการรถคันแรก (กรณียื่นเรื่องด้วยใบจองก่อน)  โหลดที่กรมสรรพสามิต

7. สำเนาคู่มือการจดทะเบียน (ได้หลังจากได้รับรถ)

8. สำเนาหลักฐานการซื้อขายรถยนต์ (ได้หลังจากได้รับรถ)

9.ใบจองรถยนต์

10.สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (กรณีที่ไม่ได้ซื้อเงินสด)  - สามารถขอได้จากไฟแนนซ์

5.ข้าใจเงินที่จะได้รับ  เมื่อยื่นเรื่องแล้วผ่านการตรวจสอบสิทธิ์แล้วก้จะใช้เวลาอีกพักใหญ่ เท่ากับ ตามคิวบวกกับระยะเวลาขั้นต่ำ 1 ปี ในการได้รับเงินคืน โดยเมื่อคุณได้เงินคืนก็จะมีการยืนยันผ่านข้อความสั้นทางโทรศัพท์ (SMS)  "คุณได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว" จากกรมบัญชีกลาง ถือว่ากระบวนการดำเนินโครงการครบถ้วนสมบูรณ์  แต่ที่หลายคนสงสัยคือว่ารถยนต์คันที่ซื้อมาจะได้รับเงินตามโครงการนี้เท่าไร

 

                เมื่อแบ่งตามประเภทรถที่สามารถเข้าร่วมดครงการได้ โดยมองตามการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตของภาครัฐบาลเราจะค้นพบว่า รถยนต์แต่ละประเภทนั้นมีการจัดเก็บต่างกัน ถ้าจะนำเงินที่แต่ละรุ่นได้รับมาอธิบายคงจะยางเป็นหางว่าวเล่ายาวบานตะเกียงแบบไม่ต้องสงสัย ทว่าหากแบ่งตามประเภทต่างๆแล้วจะมีที่สำคัญดังนี้

                รถอีโคคาร์ - รถนั่งขนาดเล็กตามโครงการของภาครัฐบาล มีราคาคันละตั้งแต่ 3.8 -5.4 แสนบาทโดยประมาณ จากการจัดเก็บภาษี 17 % ก็ทำให้จะได้ประโยชน์จากโครงการเฉลี่ยราวๆ 45,000 บาท /คัน

            รถซิตี้คาร์ - รถยนต์นั่งขนาดเล็กไม่เกิน 1500 ซีซี เป็นกลุ่มรถยนต์ที่มีการตอบโจทย์มากที่สุดในเรื่องภาษีคืนรัฐ โดยราคาที่มีตั้งแต่ 5.4 -7.68 แสนบาท ทำให้มีอัตราการเก็บภาษีที่สูงถึง ร้อยละ 25 ทำให้ มีโอกาสได้คืนเงินภาษีจากรัฐสูงถึง 1 แสนบาท ในหลายรุ่น และนอกจากนี้ยังรวมถึงรถยนต์พลังงานทางเลือกและไฮบริดของบางค่ายด้วย

            รถกระบะบรรทุก - ในกลุ่มรถกระบะ จะมีการเก็บภาษีที่ค่อนข้างรุนแรงน้อยกว่า โดยราคาที่เริ่มตั้งแต่ 5 แสนบาทเริ่มๆ ถึง 6 แสนบาทกลาง อาจจะเป็นราคาที่สูงแต่การจัดเก็บภาษี มีเพียง 3ทำให้ไม่ได้ใช้สิทธิมากมายนักเฉลี่ยแล้ว จะได้เพียงคันละ 10000-15000 บาทเท่านั้น

            รถกระบะ 4 ประตู เช่นเดียวกันกับในกลุ่มกระบะ 4 แระตู ภาษีที่จัดเก็บน้อยเพียงร้อยละ 12 ทำให้ การได้รับเงินคืนก็น้อยตาม ถ้าเทียบกับราคาที่เริ่มตั้งแต่ 7 แสนต้นๆ - 9 แสนบาทเฉียดล้าน รถเหล่านี้ได้รับเงินคืนสูงสุดเฉลี่ยเพียง 60,000-80,000 บาทเท่านั้น

 

                จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะเก้นได้ว่าโครงการรถคันแรกคือโครงการที่ภาครัฐมุ่งเน้นในการตอบสนองประชาชนในการมีรถยนต์อย่างแท้จริง แต่แม้การมีรถยนต์อาจจะฟังเป็นเรื่องที่ง่าย หากแต่ต้องลองตอบคำถามตัวเองสิว่าการมีรถช่วยให้คุณสบายมากขึ้นอย่างที่คิดหรือเปล่า

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

 

 

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ จัดเต็มทุกเรื่อง กับ "รถคันแรก"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook