รีวิว Triumph Street Cup และ Bonneville T100 ใหม่ จับสายคลาสสิคและคาเฟ่ ลุยเขาค้อ-ภูทับเบิก

รีวิว Triumph Street Cup และ Bonneville T100 ใหม่ จับสายคลาสสิคและคาเฟ่ ลุยเขาค้อ-ภูทับเบิก

รีวิว Triumph Street Cup และ Bonneville T100 ใหม่ จับสายคลาสสิคและคาเฟ่ ลุยเขาค้อ-ภูทับเบิก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) ได้จัดทริปทดสอบ Triumph Street Cup และ Bonneville T100 ใหม่ ขึ้นเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา กับเส้นทางพิษณุโลก-เขาค้อ-ภูทับเบิก ซึ่ง Sanook! Auto ได้มีโอกาสเข้าร่วมทริปในครั้งนี้ด้วย

120.jpg

 

โดยเส้นทางการขับขี่เริ่มต้นจาก Triumph พิษณุโลก ผู้แทนจำหน่ายรายใหม่ ที่ทันสมัยที่สุดทางภาคเหนือตอนล่าง ถ้าพร้อมแล้วมาพบกับการเดินทางโดย Triumph Street Cup และ Bonneville T100 ใหม่ กันเลยครับ

121.jpg

Triumph Street Cup คันที่ผู้เขียนได้ทดสอบเป็นสีเหลือง Racing Yellow / Silver Ice รถคันนี้ถือเป็นรถสไตล์ Café Racer ที่มาต่อยอดจาก Thruxton 900 และเข้ามาเติมเต็มไลน์อัพเครื่องยนต์ New Bonneville 900 HT ใหม่

107.jpg

Street Cup ใช้ตัวถังแบบมินิมัล แฝงความโมเดิร์นคลาสสิคได้อย่างลงตัว เบาะนั่ง Bullet seat มาพร้อมครอบเบาะ Cafe Racer สามารถถอดได้ เพื่อให้คนซ้อนนั่งได้ กระจกปลายแฮนด์ ‘Ace’ ทรงต่ำ หล่อแบบรถแข่ง

118.jpg

ด้าน Bonneville T100 จะเป็นการใช้พื้นฐานจากตระกูล Bonneville ปี 59 มาปรับสไตล์และเส้นสายใหม่ ให้ทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงกลิ่นอายความคลาสสิคอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งตัวถังจะเป็นทูโทนแบบเดียวกับ Bonneville T120 มีท่อไอเสีย Pea Shooter และยางหุ้มโช้กบ่งบอกความเก๋า

108.jpg

ในส่วนของมาตรวัดทั้ง 2 คันให้มาแบบถ้วยนั้นดูคลาสสิคเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ยังคงแฝงความทันสมัยด้วยการใช้ทั้งระบบอนาล็อกผสมดิจิตอล

114.jpg

จุดเด่นของรถทั้ง 2 อยู่ที่มีระบบ TTC (Traction Control) ติดตั้งมาให้เลือกใช้สามารถปิดได้ รวมไปถึงช่องชาร์จไฟ USB ใต้เบาะ

110.jpg

119.jpg

ในด้านของขุมพลังเครื่องยนต์ 900 HT (Hi Torque) ความจุ 900cc 2 สูบเรียง SOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีกำลัง 55 PS @ 5,900 rpm และแรงบิด 80 Nm @ 3,230 rpm ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ใน Street Twin พร้อมระบบ Torque Assist Clutch ช่วยให้การกำคลัชไม่ใช่เรื่องที่ต้องบ่นเมื่อยนิ้วอีกต่อไป

115.jpg

เริ่มต้นด้วยการฟังเสียงเครื่องกันก่อน ทั้ง 2 คันนี้ เสียงต่างกัน เนื่องจากปลายท่อคู่ที่มีดีไซน์แตกต่างกันนั่นเอง T100 นั้นจะให้เสียงที่ดูแน่นสุขุมกว่า

111.jpg_1

ขณะที่ Street Cup จะออกแตกๆ กว่าเล็กน้อย  

106.jpg

สำหรับการขับขี่ใช้งาน ไม่ว่าเส้นทางจะชันและคดเคี้ยวมากขนาดไหน ด้วยเครื่องยนต์ (Hi Torque) ให้แรงบิดสูงตั้งแต่รอบต่ำ เพียงแค่เปิดคันเร่งรถระดับ 200 กก. ก็สามารถทะยานพุ่งไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย

105.jpg

อัตราเร่งแม้จะไม่หวือหวาในแบบรถสปอร์ต เพราะพื้นฐานเครื่องเป็นสไตล์ 2 สูบเรียงเน้นแรงบิดในแบบคลาสสิค ซึ่งก็ถือว่าใช้งานได้อย่างเพียงพอ เหลือๆ กับการขี่เดินทางไม่ว่าคุณจะใช้งานใกล้ แค่ในเมือง หรือเดินทางไกลแบบออกทริปเช่นนี้

จุดที่จะมอบความรู้สึกแตกต่างกันของทั้ง 2 คัน ก็ คือ ในเรื่องของท่านั่ง ที่จะมอบอารมณ์ในการขับขี่ที่แตกต่างกัน

100.jpg

Street Cup จะให้คุณขี่รถในแบบสายหมอบแฮนด์จับโช้กเตี้ย พักเท้ายกสูง

116.jpg

ส่วน Bonneville T100 นั่งสบาย ในแบบสายคลาสสิค แต่ถ้าขี่เร็วๆ ด้วยตำแหน่งท่านั่ง และช่วงแฮนด์ดูจะโต้ลมพอสมควร

104.jpg

สำหรับระบบกันสะเทือน และการควบคุมรถ ทั้ง 2 คันใช้ โช้กจาก KYB มีทั้งหน้า-หลัง มีระยะเคลื่อนตัวยาว 120 มม. ทั้งหน้า-หลังเช่นเดียวกัน

การขับขี่เดินทาง ถือว่าดูหนักแน่น แต่ก็แฝงความนุ่ม ที่ให้พบนั่งสบายกันได้อยู่ ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจาก Street Twin ที่นิ่มจนย้วยไปเสียหน่อย เนื่องจาก ทั้ง 2 โมเดลนี้ได้ปรับเซ็ทอัพช่วงล่างมาใหม่

101.jpg

แต่ทว่า รถทั้ง 2 คัน ที่ใช้ล้อหน้า 18” นั้น อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับไปเล่นโค้งความเร็วสูงเท่าใดนัก เนื่องจากพื้นที่หน้าสัมผัสบริเวณแก้มยางอาจไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้คุณเล่นโค้งด้วยความเร็วนัก เน้นขี่หล่อๆ ใช้งานก็ถือว่า ok ดีแล้ว

ในส่วนของเบรก อีกหนึ่งจุดต่างสำคัญ แม้ทั้งคู่จะใช้จานเบรกหน้าเดี่ยว ละคาลิปเปอร์จาก Nissin 2 ลูกสูบ

109.jpg

โมเดล Street Cup ให้ปั๊มเบรกในแบบรถสปอร์ตคลาส 650cc ซึ่งเบรกได้อย่างมั่นคง กว่า T100 ชัดเจน (T100 ใหม่ จะใช้เบรกหน้าแบบเดียวกับ Street Twin)

113.jpg

สำหรับเบรกหลังทั้งคู่จะใช้ คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ จาก Nissin เช่นกัน ซึ่งการลงน้ำหนักแป้นเบรกในช่วงแรกนั้นดูจะต้องออกแรงกดมากหน่อย เพราะสไตล์ของการเซ็ทแป้นเบรกหลังดูจะแข็งไปนิด แต่เมื่อขี่ไปสักพักจะเริ่มชินน้ำหนักเท้า และกะระยะเบรกได้ดีขึ้นเอง

103.jpg

แต่ในบางจังหวะที่ต้องเบรกและลดความเร็วลงอยากรวดเร็วนั้น จำเป็นต้องใช้ Engine Brake ช่วยชะลอช่วย แต่การที่ใช้เกียร์ 5 Speed จะพบว่า แรงดึง E-Brake สูง จนทำให้ล้อล็อกได้ ดังนั้นจำเป็นต้องควบคุมบาลานซ์รถให้ดีหากต้องเปลี่ยนเกียร์ลงอย่างรวดเร็ว

123.jpg

สรุป Triumph Street Cup และ Bonneville T100 ใหม่ รถพื้นฐานจาก Street Twin เครื่อง 900cc ที่เข้ามาไลน์อัพเพิ่มในกลุ่ม คาเฟ่ และคลาสสิค ในตลาดที่ต่ำกว่า Thruxton R และ Bonneville T120 ถือได้ว่า Triumph เดินเกมรุกตลาดได้ถูกจังหวะ และจับกลุ่มผู้บริโภค ที่กว้างขึ้น รวมไปถึงผู้ที่มองหารถในสไตล์ทั้ง คาเฟ่ และคลาสสิค ที่อยากจะใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน และเดินทางท่องเที่ยวไปไหนได้ในคันเดียวจบ เรียกได้ว่าถ้าคุณมีรถในระดับ 4 แสนต้นๆ และ 4 แสนกลางๆ ล่ะก็ Street Cup และ New Bonneville T100 นี่ล่ะใช่เลยสำหรับคุณ

 

ขอขอบคุณ Triumph Motorcycles Thailand สำหรับทริปทดสอบ Triumph Street Cup และ Bonneville T100 ใหม่ ในครั้งนี้
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver

 

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ ของ รีวิว Triumph Street Cup และ Bonneville T100 ใหม่ จับสายคลาสสิคและคาเฟ่ ลุยเขาค้อ-ภูทับเบิก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook