รีวิว BMW 430i Coupe/Convertible 2017 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ แรง-หล่อ-หรู ถูกใจสายซิ่ง

     BMW 430i รุ่นปี 2017 ทั้งเวอร์ชั่น Coupe และ Convertible ถูกเปิดตัวไปสดๆร้อนๆ เมื่อช่วงเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ล่าสุด เรามีโอกาสมาสัมผัสรถสปอร์ตหรูคันนี้บนสนามพีระเซอร์กิตกันทั้ง 4 รุ่นย่อย เอาให้รู้กันไปเลยว่าควรเลือกรุ่นไหนไปครอบครอง..!

     BMW 4-Series เป็นรถตระกูลสปอร์ตสองประตูที่พัฒนาต่อยอดมาจาก 3-Series โฉมปัจจุบัน ซึ่งโฉมไมเนอร์เชนจ์รุ่นปี 2017 นี้ มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็นตัวถังคูเป้จำนวน 2 รุ่น และคอนเวอร์ทิเบิลอีก 2 รุ่น ดังนี้

-    430i Coupe Luxury
-    430i Coupe M Sport
-    430i Convertible Luxury
-    430i Convertible M Sport

     โดย BMW 430i แต่ละรุ่นมีจุดเด่นอยู่ที่โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา สามารถลดน้ำหนักลงจากรุ่นเดิมได้ถึง 45 กิโลกรัม ซึ่งเทียบได้กับน้ำหนักตัวของคุณผู้หญิงคนหนึ่งเลยทีเดียว ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มความแข็งแรงของตัวถัง สามารถลดการบิดตัวลงได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการขับขี่ที่ความเร็วสูงและสมรรถนะการเข้าโค้งที่แม่นยำมากขึ้น

     ไม่เพียงเท่านั้น BMW 4-Series ใหม่ มีจุดศูนย์ถ่วงอยู่ที่ 500 มิลลิเมตร ถือเป็นรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับรถบีเอ็มดับเบิลยูทั้งหมดในปัจจุบัน ทำให้สามารถสาดโค้งได้อย่างสนุกและปลอดภัยมากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

BMW 430i Coupe/Convertible Luxury

 

     BMW 430i 2017 ใหม่ สามารถแบ่งตามการดีไซน์ตกแต่งทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ Luxury และ M Sport โดยรุ่น Luxury Line จะเน้นความหรูหรามากกว่ารุ่น M Sport อย่างเห็นได้ชัด และตั้งราคาจำหน่ายเอาไว้ต่ำกว่า
BMW 430i Luxury Line ทั้งตัวถัง Coupe และ Convertible จะถูกติดตั้งไฟหน้าแบบ Full-LED ดีไซน์ใหม่ พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ และไฟตัดหมอกแบบ LED, ติดตั้งช่องระบายอากาศบริเวณกันชนหน้า ซึ่งจะช่วยลดความร้อนของจานเบรก รวมถึงมีช่องระบายอากาศบริเวณแก้มข้างของตัวรถ ซึ่งเป็นช่องระบายอากาศจริงๆ ไม่เหมือนกับรถบางรุ่นที่ทำหลอกๆเอาไว้

     ด้านท้ายมีการปรับปรุงไฟท้ายใหม่เป็นแบบ LED เหมือนกันทั้งรุ่น Luxury และ M Sport โดยรุ่น Luxury จะถูกติดตั้งล้ออัลลอย Multi-spoke ขนาด 19 นิ้วมาให้ทั้งคูเป้และคอนเวอร์ทิเบิล

     ในรุ่น 430i Coupe/Convertible Luxury ถูกติดตั้งระบบ Comfort Access เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยให้ไม่ต้องนำกุญแจออกจากกระเป๋า ซึ่งในรุ่น Convertible สามารถสั่งเปิด-ปิดหลังคาได้จากตัวรีโมท หรือจะสั่งงานด้วยปุ่มภายในรถก็ได้ การเปิด-ปิดหลังคาสามารถทำได้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 20 วินาที ในขณะรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 18 กม./ชม. ไม่จำเป็นต้องหยุดสนิทเหมือนกับ 3-Series Convertible ตัวถัง E93 ที่ผ่านมา

     ชุดหลังคาของ 430i Convertible ยังมีฟีเจอร์เพิ่มขึ้นมาจากรุ่นที่แล้ว (E93) ด้วยฟังก์ชั่น Electro Hydraulic Loading Assistant ที่ช่วยยกชุดหลังคาขึ้นเพื่อความสะดวกในการหยิบสัมภาระ ขณะที่ตัวหลังคาถูกเปิดอยู่ จากเดิมที่หากต้องการหยิบของที่อยู่ลึกๆ ไม่สามารถเอื้อมมือเข้าไปถึงได้ ก็จำเป็นต้องปิดหลังคาลูกเดียวเพื่อที่จะหยิบสิ่งของเหล่านั้น

     ทั้งนี้ พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังของ 4-Series Convertible มีขนาดเพิ่มขึ้นจากรุ่น 3-Series Convertible (E93) อยู่ 20 ลิตร เป็นทั้งหมด 370 ลิตรเมื่อปิดหลังคา และ 220 ลิตรเมื่อเปิดหลังคา

     ภายในห้องโดยสารของ 4-Series Coupe/Convertible Luxury ถูกติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้านดีไซน์อ้วนกลม หุ้มหนังพิเศษแบบ Individual มาพร้อมปุ่มควบคุมบลูทูธและระบบสั่งงานด้วยเสียง และปุ่มควบคุมระบบ Dynamic Cruise Control พร้อมฟังก์ชั่นช่วยลดความเร็วขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย (อันนี้เป็นคนละระบบกับ Active Cruise Control ที่ช่วยปรับความเร็วตามคันหน้านะครับ อย่าเข้าใจสับสนกัน)

     เหนือคอนโซลด้านหน้าติดตั้งหน้าจอแสดงผลขนาด 8.8 นิ้ว รองรับระบบสัมผัสได้ พร้อมปุ่มควบคุม iDrive ที่สามารถป้อนตัวอักษรได้เลย แทนการหมุนเพื่อเลือกตัวอักษรแบบเดิม แต่ฟังก์ชั่นเขียนตัวอักษรที่ว่านี้อาจจะขัดใจชาวประเทศที่ขับรถพวงมาลัยขวานิดหน่อย เพราะใช้มือซ้ายเขียนไม่ค่อยไม่ถนัดนัก ครั้นจะใช้มือขวาเขียนก็ต้องเอื้อมแขนกันพอสมควร

     ในรุ่น Luxury มาพร้อมกับระบบแผนที่นำทาง Professional และฮาร์ดดิสก์สำหรับเก็บไฟล์ความบันเทิงขนาด 20 GB ติดตั้งระบบเสียงแบบ HiFi มาตรฐานมาให้ ซึ่งคุณภาพเสียงก็ถือว่าดีพอตัวแล้ว แต่ถ้าอยากได้เสียงเซอร์ราวด์ที่ให้ซาวด์สเตจกว้างๆจาก Harman Kardon ก็คงต้องเพิ่มเงินขยับไปเล่นตัว M Sport แทน

 

BMW 430i Coupe/Convertible M Sport

     สำหรับรุ่น M Sport ถูกเน้นความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากกว่า ทั้งดีไซน์ภายนอกและการตกแต่งภายใน โดย BMW 430i Coupe/Convertible M Sport มาพร้อมชุดแต่ง M Aerodynamic รอบคัน ไฟหน้าแบบ LED โดยที่รุ่น Coupe จะมีหลังคาซันรูฟไฟฟ้ามาให้ด้วย ตกแต่งขอบหน้าต่างด้วยสีดำเงา มาพร้อมล้ออัลลอย M Double-spoke ขนาด 19 นิ้ว พร้อมช่วงล่างแบบ M Sport ที่เฟิร์มมากขึ้น และระบบพวงมาลัยแปรผันตามการหมุนและความเร็วมาให้

     ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสี Anthracite และอลูมิเนียมที่แผงคอนโซล ติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังแท้ M แบบ 3 ก้าน พร้อมปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ปุ่มควบคุมฝั่งซ้ายใช้สำหรับระบบ Cruise Control และฝั่งขวาสำหรับระบบเครื่องเสียงและโทรศัพท์

     เหนือคอนโซลด้านหน้าถูกติดตั้งหน้าจอแสดงผลขนาด 8.8 นิ้วเหมือนกับรุ่น Luxury แต่สามารถแสดงภาพจากกล้องมองหลังได้ รวมถึงติดตั้งชุดเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon มาให้

     ด้านขุมพลังของ BMW 430i ทั้ง 4 รุ่น ถูกติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ TwinPower Turbo ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,450-4,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

     ด้วยน้ำหนักที่ต่างกันของเวอร์ชั่น Coupe และ Convertible ทำให้ตัวเลขสมรรถนะที่ได้ต่างกันอยู่เล็กน้อย โดยรุ่น Coupe มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.8 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 15.6 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 147 กรัมต่อกิโลเมตร

     ขณะที่รุ่น Convertible มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 6.3 วินาที ช้ากว่ารุ่นคูเป้อยู่ราวครึ่งวินาที อันเป็นผลจากน้ำหนักชุดหลังคาที่เพิ่มขึ้นมาประมาณ 200 กิโลกรัม แต่ก็ยังถือว่าจัดจ้านสำหรับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร ส่วนตัวเลขอื่นๆ ทั้งความเร็วสูงสุด อัตราสิ้นเปลือง และค่าการปล่อยมลพิษ เท่ากับรุ่นคูเป้ทั้งหมด

     สำหรับการทดสอบครั้งนี้ เราได้มีโอกาสขับบนเส้นทางกรุงเทพฯ – สนามพีระเซอร์กิต พัทยา และยังได้สัมผัสกับรถทุกรุ่นในสนามพีระอีกต่อหนึ่ง เพื่อเทียบให้เห็นกันชัดๆว่าแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

     เรามุ่งหน้าออกจากสำนักงานใหญ่ของบีเอ็มดับเบิลยู บนถนนวิทยุ ด้วยรถ BMW 430i Coupe M Sport ซึ่งจัดว่าเป็นรุ่นที่จัดจ้านที่สุดในตระกูล 430i ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักที่น้อยกว่ารุ่น Convertible และช่วงล่างแบบ M Sport ที่ให้ความรู้สึก ‘แน่น’ กว่ารุ่น Luxury อย่างชัดเจน

     ก่อนอื่นเลยคือเรื่องของตำแหน่งท่านั่งใน 430i Coupe M Sport คันนี้ ที่ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับรถแข่ง ตัวเบาะสามารถปรับได้ต่ำเพื่อให้ความรู้สึกแนบไปกับถนนตามสไตล์รถสปอร์ต แผงคอนโซลถูกออกแบบให้ดูโอบล้อมผู้โดยสาร แต่ก็ไม่แน่นจนอึดอัดเหมือนกับคู่แข่งค่ายดาว ซึ่งคนที่รักความเร็วน่าจะชอบสไตล์การออกแบบห้องโดยสารของ 430i คันนี้อย่างแน่นอน

     พวงมาลัยมีน้ำหนักเบาเมื่ออยู่กับที่ รอบวงพวงมาลัยให้ความโอบกระชับ และมีกริปขนาดใหญ่ช่วยให้จับได้อย่างถนัดมือ ขณะที่การใช้ฟังก์ชั่น iDrive ก็เข้าใจง่าย แยกแต่ละเมนูออกมาอย่างชัดเจน รวมถึงมีปุ่ม Shortcut ที่ช่วยให้เข้าถึงเมนูต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น ไม่จำเป็นต้องละสายตาจากถนนมากนัก ถือเป็นระบบอินโฟเทนเม้นท์ที่ใช้งานง่ายที่สุดรุ่นหนึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งร่วมชาติ แม้ว่าจะมีฟังก์ชั่นหลากหลายให้ใช้งานก็ตาม

     เมื่อเราเคลื่อนตัวออกจากตึกออลซีซั่น สิ่งที่สัมผัสได้คืออัตราเร่งที่พร้อมให้เรียกใช้ได้ตลอดเวลา ระบบ TwinPower Turbo ช่วยลดอาการ Turbo Lag ในรอบต่ำ และช่วยเพิ่มกำลังในรอบสูง ทำให้ 430i Coupe คันนี้สามารถตอบสนองได้ดีในทุกรอบเครื่องยนต์

     คันเร่งของ 430i Coupe เป็นแบบไฟฟ้า ซึ่งยังพอมีอาการหน่วงให้เห็นบ้าง แต่ก็ไม่รู้สึกช้าจนน่ารำคาญ แถมยังช่วยให้ออกตัวได้อย่างนุ่มนวล ซึ่งทันทีที่จ่ายเงินค่าทางด่วนเสร็จเรียบร้อย เราลองกดคันเร่งลงไปประมาณ 3 ใน 4 ของระยะทั้งหมด ตัวรถก็สามารถพุ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วทันใจ จนแทบไม่เชื่อว่านี่คือกำลังที่ได้จากเครื่องยนต์ขนาด 2 ลิตรเท่านั้นเอง

     การขับที่ทางไกลนั้น ช่วงล่าง M Sport ช่วยเพิ่มความมั่นใจที่ความเร็วสูงได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะใช้ความเร็วประมาณ 120 กม./ชม. บนถนนมอเตอร์เวย์ชลบุรี แต่ตัวรถยังคงนิ่งจนสามารถขับรถมือเดียวแบบชิลล์ๆ ได้เลย (แต่ทางที่ดีก็ควรจับสองมือเพื่อความปลอดภัยนะครับ) ขณะที่การเปลี่ยนเลนหรือมุดไปตามการจราจร ก็สามารถทำได้อย่างสนุกสนานและมั่นใจ ตอบสนองได้ตามใจสั่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคาดหวังในรถ BMW อยู่แล้ว

     เมื่อมาถึงสนามพีระเซอร์กิจ พัทยา ก็มีการเปลี่ยนรูปแบบการทดสอบเล็กน้อย โดยเราจะได้ขับรถทั้ง 4 รุ่น จำนวนรุ่นละ 2 รอบต่อเนื่องกัน เพื่อให้เห็นไปเลยว่าแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ซึ่งเราก็ขอสรุปมาให้ดังนี้

 

BMW 430i Coupe Luxury

     อัตราเร่งของ 430i Coupe Luxury ยังคงตอบสนองได้ไม่ต่างจากรุ่น M Sport แต่จุดต่างที่เห็นได้ชัดก็คือความนุ่มนวลของช่วงล่างที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แม้ว่าในสนามจะมีอาการโยนตัวให้เห็นขณะเข้าโค้ง แต่หากชีวิตจริงไม่ได้สาดโค้งกันรุนแรงอยู่บ่อยๆ ก็จะได้ช่วงล่างที่นั่งสบาย เหมาะกับถนนเมืองไทยที่ไม่ว่าจะตกกี่หลุมก็ไม่สะท้าน อย่างไรก็ดี ช่วงล่างของรุ่น Luxury ก็ยังสามารถสาดโค้งได้อย่างมั่นใจ โดยไม่มีอาการหลุดโค้งจนต้องมานั่งแก้อาการกัน

 

BMW 430i Convertible Luxury

     ทันทีที่กดคันเร่งลงไป ก็รู้สึกได้ว่าอัตราเร่งค่อนข้างหน่วงกว่ารุ่น Coupe อยู่เล็กน้อย ด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นกว่ารุ่นคูเป้ ขณะเดียวกันจังหวะเข้าโค้งก็มีอาการโยนมากที่สุดในบรรดารถทั้ง 4 รุ่น ดังนั้น 430i Convertible Luxury จึงน่าจะเหมาะกับผู้ที่อยากได้รถเปิดหลังคา ไม่ได้เน้นขับซิ่งเท่าไหร่นัก แต่หากคิดจะสั่งสอนกระบะเจ้าตลาดบ้าพลังที่ไล่จี้ตูดอยู่ ก็กดคันเร่งเต็มเท้าเพื่อหนีออกไปอย่างสบายๆ

 

BMW 430i Coupe M Sport

     ถือว่าเป็นรถที่จี๊ดจ๊าดมากที่สุดแล้วในบรรดารถตระกูล 430i ด้วยอัตราเร่งที่มาอย่างรวดเร็ว บวกกับช่วงล่างแน่นหนึบจาก M Sport แถมด้วยตัวถังสไตล์คูเป้ที่มีอาการบิดตัวน้อยกว่ารุ่น Convertible ทำให้รถคันนี้สามารถสาดโค้งได้อย่างสนุกที่สุด ช่วงล่างเก็บอาการได้อย่างดีเยี่ยม น่าจะเป็นรถที่ตอบสนองบรรดาขาซิ่งได้ดีที่สุดแล้ว

 

BMW 430i Convertible M Sport

     หากเทียบกับรุ่นคูเป้ จะยังคงพบว่ามีอัตราเร่งเป็นรองอยู่เล็กน้อย แต่ช่วงล่างก็ให้ความเฟิร์มกว่ารุ่น Luxury อย่างชัดเจน ซึ่ง 430i Convertible M Sport น่าจะเป็นรถเปิดหลังคาที่ขับสนุกมากที่สุดรุ่นหนึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งในปัจจุบัน ถือเป็นรถที่ขับสนุก ช่วงล่างแน่นหนึบไม่ทิ้งจากรุ่นคูเป้ แต่หากวันใดอากาศดีก็เปิดหลังคารับลมได้สบายๆ

     สรุป BMW 430i Coupe/Convertible 2017 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ปรับดีไซน์ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น โดยยังคงชูจุดเด่นด้านความสนุกสนานในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเทอร์โบให้อัตราเร่งแรงจี๊ดจ๊าด หากเน้นดีไซน์สปอร์ตพร้อมเครื่องเสียงระดับเทพ ก็ขยับไปเล่นรุ่น M Sport ทั้งรุ่นคูเป้และเปิดหลังคา แต่หากเน้นขับสบาย ไม่ฮาร์ดคอร์นัก เครื่องเสียง HiFi ก็เพียงพอแล้ว รุ่น Luxury ก็จะช่วยประหยัดเงินได้ไม่น้อยทีเดียว

 

ราคาจำหน่าย BMW 430i Coupe/Convertible 2017 มีดังนี้

- 430i Coupe Luxury ราคา 3,499,000 บาท
- 430i Convertible Luxury ราคา 3,999,000 บาท
- 430i Coupe M Sport ราคา 3,799,000 บาท
- 430i Convertible M Sport ราคา 4,299,000 บาท

 

ขอขอบคุณผู้บริหารและฝ่ายประชาสัมพันธ์ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่ให้เกียรติเชิญเข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้