เก็บตังค์ตอนนี้ทันมั้ย? มาดู 15 อันดับรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกปี 2017!

เก็บตังค์ตอนนี้ทันมั้ย? มาดู 15 อันดับรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกปี 2017!

เก็บตังค์ตอนนี้ทันมั้ย? มาดู 15 อันดับรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกปี 2017!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ปัจจุบันนี้ นวัตกรรมยานยนต์ในโลกถือว่าก้าวไกลมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย เครื่องยนต์ทรงพลัง ความหรูหรา และความปลอดภัย ค่ายรถยนต์ระดับโลกทำงานกันอย่างหนักในทุกวัน เพื่อสร้างรถยนต์ที่ดีที่สุดมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า วันนี้เรามาดู 15 สุดยอดรถยนต์ ที่แพงที่สุดในโลกแห่งปี 2017 กัน

114

15. Pagani Huayra BC
2,500,000 USD (87,575,000 ล้านบาท)

     รถสปอร์ตสุดหรูจากค่าย Pagani จากประเทศอิตาลี

     เครื่องยนต์ของ ไวร่า บีซี (Huayra BC) ตัวนี้เป็นเครื่องยนต์AMG V12 ขนาด 6.0 ลิตร เทอร์โบคู่ มีแรงม้ามากถึง 800 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 112.12 กก-ม. (1,100 นิวตันเมตร) ที่
2,250-4,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ Sequential 7 speed มีน้ำหนักเพียง 1,350 กิโลกรัม เท่านั้น !!

     Huayra BC เป็นรุ่นที่พัฒนามาต่อจาก Huayra คือ ใช้วัสดุที่เบาลงและแข็งแรงกว่าเดิม ทำให้น้ำหนักของตัวรถเบาลงจากเดิมถึง 132 กิโลกรัม

     ราคาของ Pagani Huayra BC อยู่ที่ 2.5ล้านUSD หรือเป็นเงินไทยราวๆ 87,575,000 บาท และที่สำคัญ รถรุ่นนี้ผลิตออกมาเพียง 20 คันเท่านั้น !! และตอนนี้รถทุกคันก็ได้ขายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

113

14. Bugatti Veyron -Grand Sports Vitesse
2,600,000 USD (91,000,000 ล้านบาท)

     Bugatti เป็นค่ายรถยนต์หรูจากประเทศฝรั่งเศษ

     เวย์รอน แกรนด์ สปอร์ต วิเทสส์ รถยนต์ที่มีราคาสูงที่สุดในโลกในอันดับที่ 14 ของปี 2017 เป็นรถยนต์เปิดประทุนที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลก !! ด้วยการทำความเร็วสูงสุด 408.84 ก.ม./ช.ม. ในสนามทดสอบของ Volkswagen โดยได้รับการรับรองจากGerman organization for Technical Inspection and Certification (TÜV) ให้เป็นรถเปิดประทุนที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งมีเครื่องยนต์ W16 ขนาด 8 ลิตร พร้อมเทอร์โบชาร์จ 4 ลูก ให้กำลังสูงสุด 1,200 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 1,500 นิวตันเมตร ที่ 3,000-5,000 รอบต่อนาที อัตราเริ่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง เพียง 2.4 วินาที

     ราคาของรถคันนี้อยู่ที่ 2.6ล้าน USD หรือราวๆ 91 ล้านบาท

 

112
13. Ferrari FXX K
2,700,000 USD (95,000,000 ล้านบาท)

     รถยนต์จากค่าย Ferrari ประเทศอิตาลี

     รถยนต์ไฮเปอร์คาร์ที่พัฒนามาจากรถแข่งของ LaFerrari ใช้เครื่องยนต์บล็อก V12 ความจุกระบอกสูบ 6.2 ลิตร พละกำลัง 860 แรงม้าทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 190 แรงม้า ทำให้รวมแล้วสูงถึง 1050 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ระดับ 900 นิวตันเมตร โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้สี่รูปแบบ เริ่มจาก Qualify ที่ให้สมรรถนะสูงสุดสำหรับการขับขี่ระยะสั้นในสนามแข่ง โหมด Long Run มอบสมรรถนะสูงอย่างคงที่ต่อเนื่อง โหมด Manual Boost รีดแรงบิดได้ทันท่วงทีเพื่อเร่งแซงและ Fast Charge ที่ช่วยชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

     การออกแบบFXX K คันนี้ก็ถูกออกแบบมาตามหลักแอร์โรไดนามิกอย่างสมบูรณ์แบบ ยางที่ใช้เป็นยางสลิคของพิเรลลี่ มาพร้อมตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับการเกาะถนน อุณหภูมิและแรงดันยางอย่างละเอียด เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ส่วนภายในติดตั้งเบาะที่นั่งฟูลบั๊กเก็ตซีทโอบกระชับลำตัวทุกโค้ง พวงมาลัยมีสวิทช์ควบคุมสมรรถนะแบบครบวงจร ทั้งระบบ F1-Trac ป้องกันการลื่นไถล, Racing SSC, เฟืองท้าย E-Diff และระบบเบรกเอบีเอส

     ราคาอยู่ที่ 2.7ล้านUSD หรือราวๆ 95 ล้านบาท และเจ้า FXX K นั้นถูกผลิตมาเพียง 32 คันเท่านั้น และ ทั้ง 32 คันนั้นก็ได้ถูกจองและจำหน่ายทั้งหมดในเวลาอันรวดเร็ว

 

111

12. Icona Vulcano Titanium
2,700,000 USD (95,000,000 ล้านบาท)

     Icona Vulcano เป็นรถยนต์จากประเทศอิตาลี

     รถไฮเปอร์คาร์สุดโหดอีกหนึ่งค่ายจากอิตาลีคันนี้ เป็นรถรุ่นแรกของโลกที่นำวัสดุไทเทเนียมมาใช้เป็นตัวถัง แทนที่จะใช้อลูมิเนียมหรือคาร์บอนไฟเบอร์ มีเครื่องยนต์ V8 ซุปเปอร์ชาร์จ ให้กำลัง 670 แรงม้า และแรงบิด 840 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 2.8 วินาที วิศวกรที่ออกแบบเครื่องยนต์ให้กับไอโคนาวัลคาโน ไม่ใช่ใครที่ไหน เค้าคือ Claudio Lombardi ผู้เชี่ยวชาญและคว่ำหวอดในวงการรถแข่ง แถมอดีตยังเคยทำงานให้กับ Ferrari มาก่อนอีกด้วย

     ราคาของเจ้าไทเทเนียมคันนี้อยู่ที่ 2.7 ล้านUSD หรือราวๆ 95 ล้านบาท

 

110

11. Koenigsegg One:1
2,850,000 USD (100,000,000 ล้านบาท)

     Koenigsegg (โคนิกเซกก์) รถสปอร์ตจากประเทศสวีเดน

     Koenigsegg One คันนี้สร้างมาเพื่อเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลก ทำสถิติความเร็วสูงสุดถึง 440 กม./ชม. เครื่องยนต์ V8 ขนาด 5,000 ซีซี ให้กำลังกว่า 1,341 แรงม้า หรือ 1 เมกะวัตต์ แรงบิด 1,371 นิวตันเมตร เกียร์คลัชคู่ 7 สปีด เมื่อเทียบกับน้ำหนักรถ 1,341 กิโลกรัม จะทำให้เครื่องยนต์รับภาระ 1 แรงม้าต่อ 1 กิโลกรัม จึงเป็นที่มาของชื่อรถนั่นเอง One ถือได้ว่าเป็นรถสปอร์ตในระดับ Mega car (รถที่มีเครื่องยนต์กำลังสูงกว่า 1 เมกะวัตต์) คันแรกของโลก ดีไซน์ภายนอกจะเหมือนกับ Koenigsegg Agera R มีเพียงเพิ่มชุดแต่งเล็กน้อยเท่านั้น

     ราคาของKoenidsegg One คันนี้อยู่ที่ 2.85ล้านUSD หรือ ราวๆ 100 ล้านบาท และผู้ผลิตตั้งเป้าไว้ว่าจะผลิตเพียง 6 คันเท่านั้น !!

 

109

10. Mercedes AMG R50
3,000,000 USD (105,000,000 ล้านบาท)

     Mercedes AMG จากค่ายรถหรูที่เป็นที่รู้จักกันดีในนาม Mercedes จากประเทศเยอรมัน

     สำหรับรุ่น R50 นี้ ยังคงไม่มีความแน่ชัดเท่าไหร่นัก มีเพียงconcept และข่าวลือออกมาเท่านั้น ว่าทาง Mercedes จะพเริ่มก้าวเข้าสู่ตลาดรถไฮเปอร์คาร์ เพื่อแข่งกับค่ายดังค่ายอื่นๆ และคาดว่า ใน R50 จะใช้ขุมพลังของรถ Formula 1 มาเป็นเครื่องยนต์ และปรับแต่งให้เข้ากับสมรรถนะการใช้งานบนท้องถนน แรงม้า 1,300 และน้ำหนักของตัวรถ ไม่ถึง 1,300 กิโลกรัม เท่ากับมีอัตราแรงม้าต่อน้ำหนักรถ 1 : 1 กันเลยทีเดียว คาดว่า R50 จะสามารถเร่งจาก 0-60 ไมล์/ชั่วโมง ได้ในประมาณ 2 วินาที และความเร็วสูงสุดน่าจะพุ่งขึ้นไปเกินกว่า 220 ไมล์/ขั่วโมง

     อย่างไรก็ตาม Mercedes AMG R50 ยังไม่ปรากฎอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด รูปภาพที่ให้ประกอบให้ชมนี้เป็นภาพต้นแบบ Mercedes-AMG Vision Gran Tourismo Concept ตั้งแต่ปี 2013 เพื่อประกอบข่าวเท่านั้น
ในส่วนของราคาที่คาดกันไว้คือ 3 ล้าน USD หรือราวๆ 105 ล้านบาท

 

108

9. Ferrari Pininfarina Sergio
3,000,000 USD (105,000,000 ล้านบาท)

     Pininfarina Sergio จากค่ายดังอย่าง Ferrari ประเทศ อิตาลี

     เป็นรุ่นพิเศษที่เฟอร์รารี่ผลิตขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ เซอร์จิโอ พินินฟาริน่า (Sergio Pininfarina) นักออกแบบของเฟอรร์รารี่ผู้ล่วงลับไปแล้ว สำหรับรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4,500 ซีซี ให้กำลัง 605 แรงม้า ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที เป็นแบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง เน้นความสปอร์ตและความโฉบเฉี่ยว และที่สำคัญ รุ่นนี้ผลิตออกมาเพียง 6 คันเท่านั้น และทั้งหมดได้ถูกจองและจำหน่ายหมดตั้งแต่วันเปิดตัวกันเลยทีเดียว

     ราคาของคันนี้ก็อยู่ที่ 3 ล้าน USD หรือราวๆ 105ล้านบาท

 

107

8. Bugatti Veyron by Mansory Vivere
3,400,000 USD (119,000,000 ล้านบาท)

     อีกหนึ่งสุดยอดรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกจากค่าย Bugatti จากประเทศฝรั่งเศษ

     ตัวรถผลิตจาก Carbon fiber ทั้งคัน ซึ่ง Carbon fiber ที่ใช้ผลิต Bugatti คันนี้มีความแข็งแรงทนทานกว่าเหล็กถึง 5 เท่า และมีน้ำหนักเบากว่ามาก เครื่องยนต์ 16 สูบ 8,000 ซีซี 4 เทอร์โบ 1,200 แรงม้า สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 434 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เพื่อความปลอดภัย จึงลิมิตไว้ที่ 415 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นเครื่องยนต์และโมเดลรถยนต์เดียวกันกับรุ่น Veyron 16.4 แต่มีการแต่งเพิ่มเติม เช่น LED แบบเฉพาะของ Mansory

     ราคาของเจ้า Veyron คันนี้ก็ไม่เบาทีเดียว อยู่ที่ 3.4 ล้าน USD หรือราวๆ 119 ล้านบาท

 

106

7. Lykan HyperSport
3,400,000 USD (119,000,000 ล้านบาท)

     หลายท่านอาจไม่คุ้นกับไฮเปอร์คาร์ ที่ติด 1ใน15ของรถที่ราคาแพงที่สุดในโลกยี่ห้อนี้

     Lykan HyperSport ผลิตโดยบริษัท W Motor ประเทศ เลบานอน ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกและรุ่นเดียวของบริษัท ซ฿่งผลิตมาเพียง 7 คันเท่านั้น แต่หากกล่าวว่า เจ้า Lykan HyperSport คันนี้ คือคันที่อยู่ในภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Fast and Furious 7 ในฉากที่รถพุ่งข้ามตึก และอยู่ในเกมส์บนโทรศัพท์มือถือเช่น อัสฟัลต์ 8:แอร์โบร์น (Asphalt 8: Airborne), จีที 2 เรซซิ่ง 2 (GT Racing 2) หลายท่านคงจะร้อง "อ๋อออ" ขึ้นมาทันที ไลแคนคันนี้ใช้เครื่องยนต์ ทวินเทอร์โบ 6 สูบ ขนาด 3.7 ลิตร 3746 ซีซี สามารถให้กำลังได้ที่ 522 กิโลวัตต์ และแรงบิดที่ 960 นิวตัน/เมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 385 กม./ชม. (239 ไมล์/ชม.) และเร่งอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้เพียง 2.8 วินาทีเท่านั้น !!

     สำหรับราคาของรถคันนี้อยู่ที่ 3.4 ล้านUSD หรือ 119 ล้านบาทโดยประมาณ

 

105

6. McLaren P1 LM
3,700,000 USD (130,000,000 ล้านบาท)

     McLaren P1 LM เป็นรถยนต์จากค่าย McLaren Automotive สัญชาติอังกฤษ

     P1 LM คันนี้ แท้จริงแล้วก็คือ McLaren P1 GTR นั่นเอง แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือ Lanzante ซึ่งเป็นสำนักโมดิฟายรถแข่งชื่อดัง ได้นำเจ้า P1 มาโมดิฟายใหม่ โดยการเปลี่ยนหลังคาเป็น Carbon fiber ท่อไอเสียเป็น ไทเทเนียมทั้งเส้น มีการอัพเกรดแอโรพาร์ทเพื่อสร้างแรงกดเพิ่มเติม Front Splitter ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นถูกติดตั้งไว้แทนลิ้นหน้าอันเดิม สปอยเลอร์หลังก็ถูกเพิ่มขนาดเช่นเดียวกัน และการอัพเกรดแอโรพาร์ทในครั้งนี้ก็ทำให้ P1 LM มีแรงกดมากกว่า P1 GTR ถึง 40% เลยทีเดียว เรียกได้ว่าสมรรถนะของ P1 LM ไม่ธรรมดาเลย

     ใช้เครื่องยนต์ ทวินเทอร์โบ 3.8 ลิตร V8 + McLaren electric ECU moto ปลั๊กอินไฮบริดสมรรถนะสูง (Plug-in hybrid sport car) เครื่องยนตร์กลางลำท้าย ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. สามารถทำได้ที่ 2.8 วินาที 0-200 กม./ชม. ได้ที่ 6.8 วินาที และ 0-300 กม./ชม. ได้ที่ 16.5 วินาที ความเร็วสูงสุดของเครื่องยนตร์ไฟฟ้า สามารถทำได้ที่ 349 กม./ชม. Wowwwww

     ราคาของ McLaren P1 LM อยู่ที่ 3.7ล้านUSD หรือราวๆ 130 ล้านบาท

 

104

5. Ferrari LaFerrari Aperta
3,800,000 USD (133,000,000 ล้านบาท)

     ซุปเปอร์คาร์ไฮบริดที่แรงที่สุดในโลกจาก Ferrari ซุปเปอร์คาร์เปิดประทุนได้คันแรกของโลก ใช้เครื่องยนต์เป็นระบบไฮบริด ขุมพลัง V12 พละกำลัง 800 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 163 แรงม้า ทำให้มีพละกำลังรวมอยู่ที่ 963 แรงม้า แรงบิดมากกว่า 900 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุดทีทำได้ที่ 349 กม/ชม. ทำความเร็ว 0-100 กม/ชม. เพียง 3วินาที และมีสมรรถนะเยี่ยมไม่ต่างไปจาก Ferrari รุ่นอื่นๆ ทางผู้ผลิตได้เปิดเผยว่า ในปี 2017 จะผลิตรถรุ่นนี้เพียง 150 คันเท่านั้น และทั้งหมดได้ถูกจองเป็นที่เรียบร้อย

     ราคาอยู่ที่ 3.8ล้านUSD หรือราวๆ 133 ล้านบาท

 

103
4. Aston Martin AM-RB 001
3,900,000 USD (137,000,000 ล้านบาท)

     AM-RB 001 ไฮเปอร์คาร์จากค่าย Aston Martin สัญชาติอังกฤษ

     เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Aston Martin และ ทีมแข่ง F1 ของ Red Bull เพื่อสร้างรถที่มีจุดเด่นเรื่องน้ำหนักที่เบามาก และมีประสิทธิภาพสูงทั้งบนถนนและในสนามแข่ง ข้อมูลทางเทคนิคเบื้องต้น ทางAston Martin ระบุว่าใช้เครื่องยนต์ใหม่แบบ V12 สูบ 7.0 ลิตร 820 แรงม้า ปราศจากระบบอัดอากาศวางกลางลำโดยจะมีพละกำลังเท่ากับน้ำหนักตัวรถเพื่อให้ได้อัตราส่วน แรงม้า/น้ำหนัก เท่ากับ 1:1 หรือพูดง่าย ๆ ว่าม้า 1 ตัวจะต้องแบกน้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ทางผู้ผลิตยังได้วางแผนไว้ว่าจะผลิตเพียง 99-150 คันในรุ่นมาตรฐาน และ 25 คันทีท่เป็นรุ่นพิเศษ

     รถรุ่นนี้คาดว่าจะจำหน่ายในปี 2017-2018 โดยราคาอยู่ที่ 3.9 ล้านUSD หรือประมาณ 137 ล้านบาท

 

102

3. Lamborghini Veneno Roadster
4,500,000 USD (160,000,000 ล้านบาท)

     ซุปเปอร์คาร์ระดับโลก ไม่มีใครไม่รุ้จัก Lamborghini รถยนต์จากประเทศ อิตาลี

     Veneno Roadster คันนี้ใช้เครื่องยนต์ V 12 ขนาด 6.5 ลิตร 750 แรงม้า ระบบเกียร์แบบ ISR gearbox 7 Speed ความเร็วสูงสุดประมาณ 355 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะใช้เวลา 2.9 วินาที จุดเด่นของ Veneno Roadster ที่แตกต่างจากรถคันอื่นๆก็คือ ห้องคนขับจะเหมือนกับห้องนักบินที่เปิดโล่ง ให้ความรู้สึกสนุกและเร้าใจในการขับ โครงสร้างของรถใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้ความแข็งแรง ออกแบบตามหลักแอร์โรไดนามิก เพื่อให้เกิดการต้านลมน้อยที่สุด และทาง Lamborghini จะผลิต Veneno Roadster คันนี้ออกมาเพียง 9 คันเท่านั้น !!

     ราคาอยู่ที่ 4.5 ล้านUSD หรือ เกือบๆ160 ล้านบาท

 

101

2. Koenigsegg CCXR Trevita
4,800,000 USD (170,000,000 ล้านบาท)

     อีกหนึ่งสุดยอดรถยนต์จาก Koenigsegg รุ่น CCXR Trevita

     Trevita "ทรีวิตา" ในภาษาสวีเดน แปลว่า "Three whites" ซึ่งหมายถึงจำนวนที่ผลิต คือ 3 คันเท่านั้น !!! คันนี้ใช้เครื่องยนต์ 4.8 ลิตร (293 ลบ.นิ้ว) Twin supercharged DOHC V8 1018 แรงม้า ซุปเปอร์คาร์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สามารถเติมเชื้อเพลิง E85 และ E100 ได้ ความเร็วสูงสุดมากกว่า 400 กม./ชม. (249 ไมล์/ชม.) อัตราการเร่ง 0-100 กม. เพียง 2.9 วินาที และ 1 ใน 3 คันที่ผลิตออกมานั้นอยู่ที่นักชกคนดังอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ แล้วจ้า

     ราคาเก็บเบาๆสำหรับฟลอยด์ม๊ากมาก แค่ 4.8 ล้าน USD หรือ ราวๆ 170 ล้านบาทเท่านั้นเอง T.T

 

100

1.Mercedes-Benz Maybach Exelero
8,000,000 USD (280,000,000 ล้านบาท)

     มาถึงอันดับที่ 1 ของรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลกแห่งปี 2017 Mercedes-Benz Maybach Exelero

     Maybach เป็นแบรนด์รถยนต์หรูที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Mercedes-Benz ประเทศเยอรมัน เป็น Project การพัฒนาที่ค่ายเอ็มเอ็มร่วมมือกับฟัลด้า ไรเฟนแวร์ค (Fulda Reifenwerke) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ใช้เครื่องยนต์ V12 ตัวแรงของเมอร์เซเดส-เบนซ์ซึ่งมีความจุกระบอกสูบ 5,908 ซีซี และขับเคลื่อนด้วยเทอร์โบคู่ ทำให้มีกำลังถึง 700 แรงม้า และจากการทดสอบเอ็กเซอเลโรทำความเร็วถึง 351.45 กิโลเมตร/ชั่วโมง มายบัคเอ็กเซอเลโรสุดหรูคันนี้ ผลิตออกมาจัดแสดงที่เทโปโดรม เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพื่อจะโชว์สินค้าให้กับฟัลดาเท่านั้น ยังไม่มีโครงการที่จะผลิตออกจำหน่ายในเร็วๆนี้แน่นอน

     มูลค่าของรถยนต์คันนี้อยู่ที่ 8 ล้าน USD หรือ เป็นเงินไทยก็ประมาณ 280 ล้านบาท OMG !!

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook