8 อ็อพชั่นไฮโซที่จะกลายมาเป็นอ็อพชั่นพื้นฐานในรถทุกคัน

8 อ็อพชั่นไฮโซที่จะกลายมาเป็นอ็อพชั่นพื้นฐานในรถทุกคัน

8 อ็อพชั่นไฮโซที่จะกลายมาเป็นอ็อพชั่นพื้นฐานในรถทุกคัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

      ปัจจุบันเทคโนโลยีในรถยนต์มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จนใกล้จะถึงยุครถยนต์ขับขี่อัตโนมัติเข้าไปทุกที แต่หากมองย้อนไปสัก 20 ปีที่แล้ว ระบบความปลอดภัยสุดพื้นฐานอย่างระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS กลับเป็นอ็อพชั่นที่มีในรถยุโรปราคาแพงเท่านั้น คราวนี้เราลองมาดูกันว่าในอนาคตจะมีอ็อพชั่นใดเป็นพื้นฐานที่มีในรถทุกคันบ้าง

104

1.ระบบป้องกันการชนด้านหน้า

      ระบบป้องกันการชนด้านหน้าเป็นฟีเจอร์ความปลอดภัยมาตรฐานในยุโรป ซึ่งรถที่จะได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5 ดาวจากสถาบัน Euro NCAP จะต้องมีระบบที่ว่านี้เป็นอ็อพชั่นให้ลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งได้ ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาระบบให้มีต้นทุนถูกลง สามารถนำมาติดตั้งกับรถราคาถูกได้มากขึ้น เช่น Mitsubishi Attrage/Mirage ที่สามารถเตือนและเบรกอัตโนมัติเมื่อใกล้ชนในความเร็วไม่เกิน 15 กม./ชม. ซึ่งแน่นอนว่าหากติดตั้งอยู่ในรถที่มีราคาสูงกว่า ก็จะมีประสิทธิภาพการทำงานที่ครอบคลุมในย่านความเร็วที่สูงกว่านี้ แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ระบบดังกล่าวที่ค่ายรถจะหันมาติดตั้งในรถตลาดมากขึ้น

2.ระบบช่วยป้องกันออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ

      ระบบช่วยป้องกันรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ ถือว่ามีส่วนช่วยได้มากโดยเฉพาะเมื่อผู้ขับขี่ประมาทเลินเล่อ หรือถูกเบี่ยงความสนใจไปยังสิ่งรอบข้าง ซึ่งระบบนี้จะทำงานผ่านกล้องที่ติดตั้งบริเวณกระจกบังลมหน้า คอยตรวจจับเส้นแบ่งถนน หากพบว่ารถมีการข้ามเส้นแบ่งเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ก็จะส่งเสียงเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบ แต่หากเป็นรถหรูราคาแพง ก็จะมีฟีเจอร์ช่วยดึงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติเพื่อป้องกันรถตกถนนหรือชนกับรถด้านข้างได้

103

3.ระบบเตือนมุมอับสายตา

      ระบบเตือนมุมอับสายตาเริ่มติดตั้งกับรถราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทให้เห็นบ้างแล้ว ซึ่งหลายคนอาจรู้สึกรำคาญกับระบบนี้อยู่บ้าง เนื่องจากมอเตอร์ไซค์ในบ้านเราค่อนข้างเยอะ หากเปิดไฟเลี้ยวทีไร ก็มักจะส่งเสียงเตือนอยู่เสมอ แต่หากใช้กับการขับขี่ทางไกล ก็จะช่วยเตือนผู้ขับขี่ในกรณีลืมมองด้านข้างก่อนเปลี่ยนเลนได้ ซึ่งแต่เดิมระบบที่ว่าจะทำงานผ่านกล้องที่ติดตั้งบริเวณกระจกมองข้าง แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาไปใช้เซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิคที่มีต้นทุนต่ำกว่า ทำให้สามารถติดตั้งกับรถรุ่นเล็กได้มากขึ้น

4.ระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านขณะถอยหลัง

      ระบบเตือนรถเคลื่อนที่ผ่านขณะถอยหลัง มักใช้เซ็นเซอร์ชุดเดียวกับระบบเตือนมุมอับสายตา ดังนั้น รถรุ่นใหม่ๆ ที่มีระบบเตือนมุมอับสายตามาให้ ก็มักจะติดตั้งฟีเจอร์นี้มาให้ด้วย ซึ่งประโยชน์ของมันมากมายกว่าที่คิด เพราะการขับรถถอยหลังมักมองเห็นด้านหลังไม่ถนัดอยู่แล้ว หากมีระบบนี้ช่วยก็จะเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นได้ โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์หรือจักรยานที่มองเห็นได้ลำบากกว่ารถยนต์

102

5.ระบบเปิดไฟหน้ารถอัตโนมัติ

      ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติมักถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยุโรปและรถที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่น เนื่องจากประเทศที่พัฒนาแล้วมักมีอุโมงค์อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยลดภาระการเปิด-ปิดไฟหน้าไปได้เยอะ ซึ่งระบบดังกล่าวก็เริ่มติดตั้งในรถบ้านเราเยอะขึ้นแล้วเช่นกัน

6.Daytime Running Light

      ไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวัน หรือ Daytime Running Light ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ขับขี่รอบข้างสามารถมองเห็นรถได้ง่ายขึ้น แต่ผู้ผลิตรถยนต์ยังใช้เป็นอุปกรณ์ในการเพิ่มความสวยงามของตัวรถอีกด้วย จากเดิมที่ไฟ DRL มักถูกออกแบบให้เป็นเส้นยาวทื่อๆ ปัจจุบันก็มีการออกแบบให้ดูสวยงามลงตัวเข้ากับดีไซน์ตัวรถ นับว่าเป็นจุดขายหนึ่งที่ทำให้รถน่าใช้งานมากขึ้น

105

7.ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว

      ในสมัยก่อนระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP, DSC, VSC หรืออื่นๆ ตามแต่ผู้ผลิตจะเรียก) มักติดตั้งไว้กับรถยนต์หรูราคาแพงระยับเท่านั้น แต่ปัจจุบันกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถอีโคคาร์ไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าต่อไปก็จะกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของรถใหม่ทุกคัน เพื่อไม่ให้ด้อยกว่าคู่แข่งนั่นเอง

8.เครื่องเสียงรองรับ Bluetooth

      เครื่องเสียงรองรับโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth ถือเป็นทางออกสำหรับผู้ที่ต้องใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ จากเดิมที่ต้องพกสายสมอลล์ทอร์คที่มักพันกันยุ่งทุกครั้งที่หยิบมาใช้งาน หรือหูฟังบลูทูธที่ต้องเสียบชาร์จกันวันเว้นวัน ขณะที่ระบบโทรศัพท์ไร้สายผ่านบลูทูธในรถช่วยให้สามารถโทรออกและรับสายได้ โดยไม่ต้องมองโทรศัพท์ด้วยซ้ำ ผู้ผลิตจึงมึกติดตั้งฟีเจอร์นี้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับลูกค้ากันมากขึ้น

     ก็หวังว่าระบบต่างๆ เหล่านี้ จะถูกติดตั้งเพื่อเป็นมาตรฐานให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มในอนาคตอันใกล้นี้ครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook