หนึ่งวันก็เที่ยวได้ ขับรถเล่นเช็คอินบางกระเจ้าที่เที่ยวสีเขียวกลางกรุง โอเอซิสหลักของคนเมือง

     หนึ่งวันก็เที่ยวได้!

     นี่ยังคงถือเป็นสโลแกนหลักของคนชอบเที่ยวแบบเราที่จะไม่ยอมให้เรื่องวันและเวลามาขัดขวางการเดินทาง

     ครั้งนี้มีเวลาหนึ่งวันกับโจทย์ที่อยากสูดอากาศดีๆ เดินเที่ยวตลาด ได้ปั่นจักรยาน และมีเวลานั่งเอนหลังพักผ่อนในร้านกาแฟ พร้อมกับทดสอบรถ Toyota Fortuner ที่เพิ่งไปถอยมากับระบบ T-Connect Telematics ซึ่งเขาบอกว่าจะเชื่อมโยงรถกับเราให้เป็นหนึ่งเดียว แบบที่ห่างกันแค่ไหนก็ตามกันเจอ เพื่อให้เราได้สนุกกับชีวิตแบบเต็มที่โดยไม่มีขีดจำกัด อยากรู้ว่าจะจริงแค่ไหน ของแบบนี้ต้องลอง

     สถานที่ที่เราเลือกจิ้มว่าจะเที่ยววันนี้คือ “คุ้งบางกระเจ้า” เพราะที่นี่หนึ่งวันเก็บได้ครบทุกอย่างที่อยากทำ ได้ทั้งกิน ได้ทั้งปั่นจักรยาน ได้ทั้งเสพอากาศดีๆ เข้าปอดแบบเต็มๆ ที่สำคัญยังขึ้นชื่อว่าเป็นป่าใกล้กรุง ปอดของคนเมืองที่ถูกเลือกให้เป็น The Best Urban Oasis of Asia ปี 2006

     แพลนแรกของการเที่ยว เราตั้งใจออกเดินทางกันเช้าหน่อยเพื่อจะได้ไปจิบกาแฟ กินข้าวเช้ากันที่นั่น จากจุดเริ่มต้นปกติเราสามารถค้นจากระบบนำทาง Navigator ได้ แต่คราวนี้เราทดลองใช้ระบบ OPS  (Operator Service) เป็นการโทรศัพท์ไปยัง Operator Service เพื่อขอเส้นทาง และเจ้าหน้าที่ก็ส่งข้อมูลการเดินทางเข้ามาที่รถยนต์ในทันทีทำให้สะดวกมากขึ้นไปอีก โดยเส้นทางจะคำนวณจากระยะทางที่ใกล้ที่สุด พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลยดีกว่า

จอดรถยนต์ปั่นจักรยาน

     ว่ากันว่ามาถึงบางกระเจ้าทั้งทีต้องปั่นจักรยาน ถือเป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาดแบบเด็ดขาด เราจึงขับวนหาที่จอดรถเพื่อยกจักรยานลงปั่น ที่จอดรถในบริเวณบางกระเจ้ามีให้เลือกหลายจุด ถ้าไปเช้าหน่อยก็สามารถขับเข้าไปภายในสวนศรีนครเขื่อนขันธ์หรือบางกระเจ้าได้เลย ซึ่งจะจอดได้แค่บริเวณด้านหน้าก่อนถึงป้อมยามเท่านั้น เพราะพื้นที่สวนด้านในถูกจัดไว้สำหรับเดิน วิ่ง และปั่นจักรยาน แต่ถ้าเต็มก็ไม่ต้องกังวล ด้านข้างจะมีลานโล่งสำหรับให้จอดรถอีกเพียบ สำหรับสถานที่ที่เราไม่คุ้นเคยในการที่จะจอดรถทิ้งไว้ถ้ากลัวอันตราย Fortuner คันนี้เขามีระบบ Parking Alert แจ้งเตือนผ่านสมาร์ทโฟนทันทีเมื่อรถถูกเคลื่อนที่โดยการสตาร์ทหรือการลากที่ระยะ 100 เมตรขึ้นไป แถมยังไม่ต้องกลัวด้วยว่าจะจำไม่ได้ว่าจอดไว้ตรงไหน เพราะมีระบบ Find My Car สามารถเช็คตำแหน่งรถที่จอดไว้ได้สามารถเช็คตำแหน่งรถยนต์ผ่านทางสมาร์ทโฟน หรือ Apple Watch ก็ได้หากใครใช้อยู่ แหม่ ถูกใจจริงๆ แล้วก็ได้เวลายกจักรยานที่เตรียมมาไปปั่นกัน  แต่ถ้าจะไม่เตรียมมาที่นี่เขาก็มีจักรยานให้เช่าปั่นคิดราคาเป็นรายวัน ในราคาเพียงแค่  50 บาทเท่านั้น

     บางกระเจ้าวันนี้ยังคงต้อนรับเราด้วยความร่มรื่นเช่นเคย เราเลือกแวะที่ร้านกาแฟก่อนเป็นอันดับแรกที่ Bangkok Tree House  โรงแรมใจกลางบางกระเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นมาภายใต้คอนเซ็ปต์ Eco System คำนึงถึงทิศทางแสงแดดและทิศทางลมก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อประหยัดพลังงานจากระบบไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด ส่วนของห้องพักจะแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกคือส่วนของห้องน้ำ ชั้นสองคือห้องนอน และชั้นสามคือบริเวณดาดฟ้าไว้นอนชมดาว โดยทุกห้องมีกฎเหล็กที่เหมือนกันคือจะไม่มีโทรทัศน์เพื่อให้แขกที่พักได้ใช้เวลากับธรรมชาติและได้อยู่กับตัวเองหรือคนที่มาด้วยมากที่สุด สำหรับพื้นที่ของห้องอาหารและคาเฟ่ตกแต่งด้วยกระบอกไม้ไผ่บนเพดาน เน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก ไม่มีเครื่องปรับอากาศ มีเพียงแค่พัดลมและลมเย็นๆ จากแม่น้ำด้านหน้าเท่านั้น และเราก็เริ่มสั่งอาหารเช้ากันแบบเบาๆ เพื่อเก็บท้องไว้ไปต่อที่ตลาดบางน้ำผึ้ง

     เราปั่นลัดเลาะออกจากสวนบางกระเจ้าไปตามทางที่บังคับแน่ชัดอยู่แล้วว่าให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาพร้อมกับยังมีป้ายบอกทางให้มั่นใจว่าจะไม่หลง ใช้เวลาแค่ 20 นาที กับระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร เราก็เข้าสู่ตลาดบางน้ำผึ้ง ตลาดบางน้ำผึ้งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือของชาวบ้านกับผู้น้ำท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนให้คนท้องถิ่นมีรายได้จากการนำผลผลิตมาขาย ระยะทางของตลาดเป็นซุ้มทางเดินยาว 2 กิโลเมตร มีของกินพื้นบ้านให้เลือกเพียบ ทั้งทอดมัน ขนมครกหอยทอด ห่อหมก ลูกชิ้นโบราณ ส้มตำ จนถึงผักปลอดสารพิษที่ราคาถูกกว่าที่ขายในท้องตลาดทั่วไป รวมถึงกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่ไม่ใช่แค่ถูก แต่ยังสวยและคุณภาพดี เรียกว่าซื้อกันจนเพลินหอบของฝากกลับไปเต็มสองมือทั้ง ขนมถ้วย ขนมจาก และกาละแมกวน

     เมื่ออิ่มแบบเต็มกระเพาะก็ได้เวลาย่อยกันต่อ เราปั่นจักรยานไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ปลากัด ดูเรื่องราวความเป็นมาเป็นไปของปลากัดในประเทศ ใช้เวลาแบบเพลินๆ หมดไปเกือบชั่วโมง เพราะปลาที่นี่สู้กล้องกันมากถ่ายรูปสนุกเลยทีเดียว

     จากนั้นก็วนกลับเข้าสวนนครศรีเขื่อนขันธ์ปั่นจักรยานเล่นกันต่อที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการพื้นที่สีเขียวกลางมหานคร พร้อมกับเช็คอินจุดเด่นที่ห้ามพลาดในสวนนี้อย่างสะพานไม้เขื่อนขันธ์มรรคาที่พาดผ่านคุ้งน้ำยาวตลอดเส้นทาง ก่อนจะเข้าไปที่หอดูนกถ่ายภาพตามซิกเนเจอร์ของที่นี่คือจากมุมสูงลงมาสู่ด้านล่าง

     แล้วก็ได้เวลากลับ ไหนๆ ก็มีเทคโนโลยีดีอยู่กับตัวเราทดลองใช้ระบบ Find My Car นำทางกลับไปที่รถจะได้ไม่ต้องไปซอกแซกหลงทางต่อให้เหนื่อย เมื่อถึงรถเรียบร้อยก็ต้องอัพรูปความสนุกวันนี้กันหน่อย ความเจ๋งอีกอย่างของ Fortuner คันนี้ที่ทำให้มนุษย์โซเชียลแบบเราชอบมากก็คือมีระบบ My TOYOTA Wi-Fi บริการอินเตอร์เน็ต กระจายสัญญาณ Wi-Fi ภายในรถยนต์ทำให้จะเชื่อมต่อ Tablet หรือ Notebook ก็ทำได้สะดวกเหมือนมี Wifi Router ติดตัวไปด้วยทุกที่ โดยสามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันสูงสุด 9 อุปกรณ์ เป็นฟังก์ชั่นที่เหมาะสำหรับคนชอบเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตในทุกๆที่ นับเป็นฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์มากๆ ทีนี่เรื่องการอัพรูปหรือส่งรูปให้เพื่อนก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

     จบทริปกันไปด้วยความสุขที่สนุกสุดๆ พร้อมกับที่ไม่ต้องกังวลว่าจะกลับอย่างไรแค่ใช้ระบบ OPS (Operator Service) เหมือนตอนขามาเท่านั้นก็เหมือนได้ผู้ช่วยส่วนตัวคอยนำทางให้กลับถึงบ้านแบบปลอดภัยและไม่มีหลง

[Advertorial]