Ford Ranger 2018 ใหม่ พร้อมเครื่อง Bi-Turbo 2.0 ลิตร และเกียร์ 10AT ประกาศราคาจำหน่ายแล้ว
Ford Ranger 2018 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ พร้อมขุมพลังดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว
Ford Ranger 2018 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 20 รุ่น รวมถึงรุ่น Ranger Raptor ใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร, ดีเซลเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร บล็อกใหม่ และดีเซลดูราทอร์คขนาด 2.2 ลิตร โดยไม่มีเครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ 3.2 ลิตร ให้เลือกอีกต่อไป
ดีไซน์ภายนอกของ Ford Ranger 2018 ไมเนอร์เชนจ์มีการปรับปรุงต่างไปจากเดิม ได้แก่ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่, กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ขณะที่รุ่น Wildtrak และ Limited ถูกติดตั้งไฟเดย์ไลท์แบบ LED และไฟหน้าแบบ HID ใหม่ ส่วนรุ่น Wildtrak ตกแต่งด้วยกระจังหน้าสีเทาเข้ม, สปอร์ตบาร์, ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมตัวถังสีใหม่ สีส้มประกายบลอนด์ "เซเบรอ"
อุปกรณ์มาตรฐานของ Ranger 2018 ไมเนอร์เชนจ์ ถูกเพิ่มด้วยกุญแจอัจฉริยะ PEPS และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (เฉพาะรุ่น Limited และ Wildtrak), ห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีดำพร้อมเดินด้ายสีเงินเพิ่มความหรูหรา, เพิ่มระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร Active Noise Cancellation ในรุ่น Wildtrak 4x4
ระบบอินโฟเทนเม้นท์เป็นแบบ SYNC 3 ใหม่ พร้อมหน้าจอสีขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้, รองรับ Bluetooth, กล้องมองหลัง, สามารถใช้งาน Apple Maps หรือระบบนำทางที่ติดตั้งมากับรถได้, มีระบบจดจำเสียงและระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย
นอกจากนั้น ระบบ SYNC 3 ยังมีระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อในขณะนั้น ซึ่งจะช่วยติดต่อ 1669 ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนถุงลมนิรภัย หรือระบบตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงทำงาน
ขุมพลังของ Ford Ranger 2018 ไมเนอร์เชนจ์ มีให้เลือกทั้งหมด 3 เครื่องยนต์ ได้แก่
- เครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo 2.0 ลิตร (รุ่น Raptor และ Wildtrak 4x4) ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด
- เครื่องยนต์ดีเซล Turbo 2.0 ลิตร (รุ่น Wildtrak 4x2 และ Limited) ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (เฉพาะรุ่น Limited)
- เครื่องยนต์ดีเซล Duratorq 2.2 ลิตร (รุ่น XLT, XLS และ XL) ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 385 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
ด้านระบบความปลอดภัยถูกติดตั้งระบบเตือนการชน (Pre-collision Assist) ที่ทำงานคู่กันระหว่างระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) ช่วยเบรกจนหยุดนิ่งเมื่อเกิดความเสี่ยงต่อการชน ทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 3.6 กม./ชม. ขึ้นไป
นอกจากนั้น ยังถูกติดตั้งระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping Assist), ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Daparture Warning), ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) และระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning) ซึ่งยกมาจากรุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์
Ford Ranger 2018 ถูกเพิ่มด้วยระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Active Park Assist (APA) ช่วยจอดรถแบบเทียบข้างทางกึ่งอัตโนมัติ โดยอาศัยการควบคุมเบรกและคันเร่งของผู้ขับขี่
ส่วนรุ่น Wildtrak และ Limited ถูกเพิ่มด้วยระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย (Easy Lift Tailgate) ช่วยผ่อนแรงได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ช่วยให้การเปิด-ปิดฝากระบะทำได้ง่ายขึ้น
ขณะที่รุ่น XL และ XLS ถูกเปลี่ยนไปใช้พวงมาลัยแบบไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในรถระดับเดียวกัน เพื่อรองรับการใช้งานบรรทุกหนัก เช่น การขนส่ง, การค้าเชิงพาณิชย์, งานก่อสร้าง และงานเกษตรกรรม
ตัวถังของ Ford Ranger 2018 มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ 2 สีใหม่ สีส้มเซเบรอ (เฉพาะรุ่น Wildtrak) และสีฟ้า Lightning Blue และสีมาตรฐาน ได้แก่ สีเงิน Aluminuim Metallic, สีดำ Absolute Black Metallic, สีเทา Meteor Grey Metallic, สีขาว Frozen White และสีแดง True Red
ราคา Ford Ranger 2018 ไมเนอร์เชนจ์ จำนวน 20 รุ่น มีดังนี้
- Ranger Raptor ราคา 1,699,000 บาท
- Ranger Wildtrak (2 รุ่น) ราคา 1,029,000 – 1,265,000 บาท
- Ranger Limited (4 รุ่น) ราคา 889,000 – 1,029,000 บาท
- Ranger XLT (4 รุ่น) ราคา 749,000 – 869,000 บาท
- Ranger XLS (4 รุ่น) ราคา 659,000 – 789,000 บาท
- Ranger XL (3 รุ่น) ราคา 559,000 – 649,000 บาท
- Ranger SWB (2 รุ่น) ราคา 589,000 – 799,000 บาท
อัลบั้มภาพ 24 ภาพ
