4 ข้อเสียของยางราคาถูก แม้จะเป็นยางใหม่

4 ข้อเสียของยางราคาถูก แม้จะเป็นยางใหม่

4 ข้อเสียของยางราคาถูก แม้จะเป็นยางใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     อย่าคิดว่ายางรถยนต์แต่ละยี่ห้อจะเหมือนกันหมด เพราะแม้ว่ายางแต่ละรุ่นจะมีหน้าตาเหมือนกัน แต่คุณสมบัติของมันอาจต่างไปอย่างสิ้นเชิง

201

     สำหรับเจ้าของรถโดยทั่วไปนั้น เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยาง ก็มักเลือกยางที่มีราคาถูกไว้ก่อน มองหารุ่นที่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม ขอเพียงแค่มีขนาดเท่ากับของเดิมเท่านั้น แต่ในความจริงแล้ว ยางแต่ละรุ่นมีราคาแตกต่างกัน เพราะมันมีคุณสมบัติต่างกันออกไป ซึ่งเหล่านี้อาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น

     Sanook! Auto จึงขอชี้เป้า 4 ข้อเสียของยางราคาประหยัด แม้ว่าจะเป็นยางใหม่ก็ตาม

1.ยางเสียงดัง

     ทุกครั้งที่เปลี่ยนยางใหม่ เจ้าของรถมักสัมผัสได้ทันทีว่ารถเงียบขึ้น นุ่มนวลขึ้น เนื่องจากยางชุดเก่าถูกใช้จนแข็ง ซึ่งในช่วงประมาณ 10,000 กิโลเมตรแรก ยางประหยัดหรือพรีเมียมมักให้ความเงียบไม่ต่างกันมากนัก แต่เมื่อพ้น 1 หมื่นกิโลขึ้นไป ยางราคาประหยัดมักเริ่มส่งเสียงดังมากกว่า และจะได้ยินชัดเจนโดยเฉพาะรถญี่ปุ่นรุ่นเล็กที่มีวัสดุซับเสียงน้อย เนื่องจากยางราคาประหยัดมักเน้นจุดขายที่อายุการใช้งานยาวนาน มีค่า Treadwear สูง เนื้อยางแข็ง การสึกหรอน้อย ทำให้ยางดังกว่า ขณะที่ยางพรีเมียมมักเน้นความนุ่มเงียบ ทำให้มีเนื้อยางนิ่มกว่า แต่ก็จะทำให้ยางสึกเร็วกว่าเช่นกัน

2.ความทนทานน้อยกว่า

     แม้ว่ายางประหยัดจะมีการสึกหรอน้อยกว่า ทำให้สามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่า (บางรุ่นเคลมว่าแสนกิโลยังวิ่งได้ก็มี) แต่ยางบางรุ่นอาจเกิดการเสื่อมสภาพของเนื้อยางได้เร็ว ส่งผลให้เกิดการปริแตกของหน้ายางหรือแก้มยางแม้ว่าจะยังคงมีดอกเหลือก็ตาม ซึ่งรอยปริเหล่านี้จะทำให้โครงสร้างความแข็งแรงของยางลดลง อาจทำให้ยางแตกได้เมื่อขับตกหลุมอย่างรุนแรง

202

3.ระยะเบรกไกลกว่า

     ยางมีผลต่อประสิทธิภาพการหยุดรถโดยตรง ซึ่งยางพรีเมียมราคาสูงจะมีเนื้อยางที่เกาะถนนดีกว่า ส่งผลให้ระยะเบรกสั้นลงตามไปด้วย ซึ่งระยะเบรกที่ต่างกันเพียง 1 เมตร ก็อาจสร้างความเสียหายในยามคับขันได้มากมายมหาศาลแล้ว

     ทั้งนี้ ความลึกของดอกยางมีผลต่อระยะเบรกเช่นกัน ยางเก่าที่ใช้มานาน จะส่งผลให้ระยะเบรกยาวกว่ายางใหม่ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นยางราคาประหยัดหรือยางพรีเมียม ก็ควรเปลี่ยนยางทันทีเมื่อถึงเวลา

200

4.การเกาะถนนแย่กว่า

     ยางราคาประหยัดมักมีประสิทธิภาพการเกาะถนนด้อยกว่ายางราคาแพง เนื่องมาจากคุณภาพเนื้อยางที่แตกต่างกัน ดังนั้น ยางราคาประหยัดอาจส่งผลให้เกิดการเสียหลักได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะเมื่อเจอแอ่งน้ำหรือบนถนนเปียก

     เราอาจสังเกตประสิทธิภาพการเกาะถนนได้ง่ายๆ เช่น เวลาที่เลี้ยวรถ หรือวนขึ้นที่จอดรถ หากเป็นยางคุณภาพต่ำ มักมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดให้ได้ยินอยู่เสมอ

     แต่อย่างไรก็ดี หากคุณรับข้อด้อยเหล่านี้ได้ การเลือกยางราคาประหยัดก็ช่วยเซฟเงินได้โขทุกครั้งที่เปลี่ยนยาง แต่สิ่งสำคัญ คือ ควรสลับยางตามระยะเป็นประจำ, เติมลมยางให้เหมาะสม, หมั่นเช็คสภาพยางบ่อยๆ และ เปลี่ยนยางใหม่เมื่อยางเดิมหมดสภาพ ก็จะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยขึ้นครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook