โดนจับแน่! รถซิ่งดังเกิน 95 เดซิเบลเอผิดกฎหมายเต็มๆ ดีเดย์ 13 สิงหาคมนี้

โดนจับแน่! รถซิ่งดังเกิน 95 เดซิเบลเอผิดกฎหมายเต็มๆ ดีเดย์ 13 สิงหาคมนี้

โดนจับแน่! รถซิ่งดังเกิน 95 เดซิเบลเอผิดกฎหมายเต็มๆ ดีเดย์ 13 สิงหาคมนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ขนส่งประกาศวิธีวัดระดับเสียงรถยนต์แบบใหม่ รถยนต์ขนาดเล็กน้ำหนักไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม ต้องมีระดับเสียงไม่เกิน 95 เดซิเบลเอ ตามมาตรฐานยุโรป ดีเดย์วันที่ 13 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป

     กรมการขนส่งทางบกประกาศกำหนดมาตรฐานระดับเสียงและวิธีการวัดระดับเสียงของรถยนต์ พ.ศ. 2561 เพื่อกำหนดวิธีการตรวจวัดระดับเสียงที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ เพื่อให้อยู่ในระดับเสียงตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะบังคับใช้กับรถยนต์ที่จดทะเบียนตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 ประกอบด้วย

  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง
  • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล
  • รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด
  • รถยนต์รับจ้างบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 7 คน
  • รถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง
  • รถยนต์บริการ
  • รถยนต์สามล้อ
  • ยกเว้น รถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (BEV)

     - รถยนต์ทุกประเภทข้างต้นที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2557 จะต้องมีระดับเสียงไม่เกิน 100 เดซิเบลเอ

     - รถยนต์ทุกประเภทข้างต้นที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้นไป หากมีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 2,200 กิโลกรัม ต้องมีระดับเสียงไม่เกิน 99 เดซิเบลเอ รถขนาดเล็กมีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม ต้องมีระดับเสียงไม่เกิน 95 เดซิเบลเอ ยกเว้นรถสามล้อจะต้องมีระดับเสียงไม่เกิน 95 เดซิเบลเอ

     ขั้นตอนการตรวจวัดระดับเสียงของรถยนต์ดังกล่าว กำหนดให้ตรวจวัดได้เฉพาะเมื่อรอบเครื่องยนต์ได้ความเร็วรอบคงที่ตามที่กำหนดเท่านั้น ได้แก่

  • รถยนต์ที่มีความเร็วรอบที่ให้กำลังสูงสุดระหว่าง 5,500 - 7,499 รอบต่อนาที ให้ตรวจวัดที่ 3,750 รอบต่อนาที
  • รถยนต์ที่มีความเร็วรอบที่ให้กำลังสูงสุดตั้งแต่ 7,500 รอบต่อนาทีขึ้นไป ให้ตรวจวัดที่ 1 ใน 2 ของความเร็วรอบที่ให้กำลังสูงสุด

     ทั้งนี้ กรมการขนส่งแนะนำว่าเจ้าของรถควรใช้ท่อไอเสียที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และไม่ดัดแปลงสภาพรถ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหารถที่มีระดับเสียงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook