ดรีมทีม “Cars World Cup” ถ้ารถกลายเป็นนักบอล

ดรีมทีม “Cars World Cup” ถ้ารถกลายเป็นนักบอล

ดรีมทีม “Cars World Cup” ถ้ารถกลายเป็นนักบอล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     จะเกิดอะไรขึ้นหากรถยนต์และจักรยานยนต์แปลงร่างเป็นนักฟุตบอลลงสนามในศึกฟุตบอลโลก ว่าแล้ว Tonkit360 เลยจัดการรวบรวมรถ 11 รุ่น เปรียบเทียบกับบทบาทของนักฟุตบอล 11 คนในสนามในนามดรีมทีม “Car World Cup 2018” ในระบบการเล่น 4-3-3

201

ผู้รักษาประตู : Ford Everest 3.2 Titanium plus

     ด้วยมิติของตัวรถที่ใหญ่บึกบึนที่สุดในรถ PPV ระดับเดียวกัน ที่ยาวถึง 4.893 เมตร และสูง 1.837 เมตร Ford Everest มีคุณสมบัติที่ดีในเป็นปราการด่านสุดท้าย นอกจากนี้เครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังเป็นขุมกำลังสำคัญหากต้องออกมาตัดบอลหรือสปีดออกมาเป็นเพื่อทำหน้าที่กองหลังตัวสุดท้าย ถือเป็นรถเอนกประสงค์คล้ายๆกับมานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมนี

 

202

แบ็คซ้าย : Volkswagen Golf GTI

     แม้ขนาดและรูปลักษณ์อาจจะไม่เป็นที่ถูกใจของแฟนๆ แต่ Volkswagen Golf GTI ภายใต้เครื่องยนต์ เบนซิน TSI ขนาด 1,984 ซีซี ที่ทางโรงงานเคลมไว้ว่าอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 6.9 วินาที น่าจะทำให้เกมการเล่นฝั่งแบ็คซ้ายที่ต้องขึ้นและลงตลอดเวลามีประสิทธิภาพไม่น้อย หรือเปรียบได้กับ มาร์เซโล่ แบ็คจอมบุกทีมชาติบราซิล

 

203

แบ็คขวา : Honda Civic 1.5 Turbo Hatchback

     แม้จะเป็นรถสัญชาติญี่ปุ่นแต่ Honda Civic 1.5 Turbo ก็มีอัตราเร่งที่ไม่ธรรดา โดยเฉพาะในรุ่น Hatchback ที่รูปดูสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวมากกว่ารุ่น 4 ประตู เชื่อว่าหากเป็นนักฟุตบอลในตำแหน่งแบ็คก็น่าจะตอบโจทย์ของโค้ชได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะความเร็วและการเติมเกมทางฝั่งขวาคล้ายๆกับไคล์ วอร์คเกอร์ ฟูลแบ็คทีมชาติอังกฤษ ที่ตำแหน่งถนัดของเขาจริงๆคือแบ็คขวาเหมือนที่เล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

คู่เซ็นเตอร์ : Mercedes-AMG G63 และ ISUZU D-MAX 1.9 Ddi

204

Mercedes-AMG G 63

     นี่คือคำแหน่งที่ต้องการทั้งความมั่นคงและแข็งแกร่งรวมถึงต้องมีความเร็วด้วยหากเจอพวกศูนย์หน้าความเร็วสูง Mercedes-AMG G 63 คือรถเอสยูวีพันธุ์แท้จากเยอรมนี ที่มาพร้อมกับเครื่้องยนต์ V8 เบนซิน ขุมกำลัง 563 แรงม้า พร้อมชุดแต่งจากสำนัก AMG เชื่อแน่ว่าหากมีคันนี้ยืนเป็นหลักในแนวรับเพื่อนๆอุ่นใจแน่นอนเหมือนกับทีมชาติสเปนที่มี เซร์คิโอ รามอส ขู่แนวรุกฝั่งตรงข้าม

 

205

ISUZU D-MAX 1.9 Ddi

     แม้จะไม่ได้เป็นรถกระบะที่ได้รับความนิยมเปรี้ยงปร้างเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน แต่จุดขายของรถกระบะค่าย ISUZU ก็คือเรื่องของการประหยัดน้ำมัน โดย D-MAX 1.9 Ddi Bluepower เครื่องยนต์ 1,900 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า มีการการันตีจากโรงงานว่าให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด ค่ามลพิษต่ำสุด ประหยัดน้ำมันสูงสุด เปรียบได้กับกองหลังที่อาจจะดูไม่หวือหวาแต่วิ่งได้ 90 นาทีไม่มีหมด และทำหน้าที่ปิดทองหลังพระคล้ายๆ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ของทีมสิงโตตำราม

 

206

กองกลางตัวรับ : Mini Cooper S

     นี่คือตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในเกมรับ เพราะจะต้องเป็นตัวทำลายเกมก่อนที่จะไปถึงกองหลังและผู้รักษาประตู ฉะนั้น Mini Cooper S มีสมรรถนะอันเป็นคุณสมบัติของกองกลางตัวรับ ที่ในปัจจุบันรุ่นนี้มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซลให้เลือกใช้งาน แต่ทั้งหมดก็มีทั้งความเร็วและความแรง รวมถึงยังมีความอึดในระดับแชมป์แรลลี่ดาการ์มาแล้ว คล้ายๆกับ เอนโกโล่ กองเต้ กองกลางเล็กพริกขี้หนูทีมชาติฝรั่งเศส

 

กองกลางตัวรุก : Porsche 911 GT3 RS and Nissan GT-R

207

Porsche 911 GT3 RS

     เพลย์เมกเกอร์ของทีมชุดนี้ ขอเลือกให้ Porsche 911 GT3 RS หน้าที่เป็นหัวใจในเกมรุก ที่จะต้องคอยแจกจ่ายบอลให้คู่แข่ง หรือบางทีอาจต้องพาบอลไปเองในบางครั้ง ด้วยขุมกำลัง เครื่องยนต์ 4.0 ลิตร 500 แรงม้า ที่มีความคล่องตัวสูง เปรียบได้กับคริสเตียน อีริคเซ่น เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเดนมาร์ก

 

209

Nissan GT-R

     อีกหนึ่งแนวรุกที่ต้องอาศัยจังหวะทะลุทะลวงขอยกให้ “เดอะ ก็อตซิล่า” Nissan GT-R รถสปอร์ตจากญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องให้ขึ้นไปเทียบชั้นซูเปอร์คาร์กับรถค่ายยุโรป นี่คือหนึ่งในสุดยอดรถแข่งระดับทัวร์ริ่งคาร์ที่เร็วที่สุดในโลก ภายใต้ขุมพลัง V6 ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ 555 แรงม้า เปรียบได้กับ เควิน เดอ บรอยน์ แนวรุกทีมชาติเบลเยี่ยม

 

208

ริมเส้นฝั่งซ้าย : Ducati Desmosedici GP18

     นี่คือตำแหน่งที่จำเป็นต้องอาศัยความเร็วฉีกแนวรับคู่แข่งให้ขาดวิ้น และรถจักรยานยนต์โปรโตไทป์จากโรงงานดูคาติในศึกโมโตจีพีอย่าง Ducati Desmosedici GP18 คืออาวุธเด็ดของทีมชุดนี้ เพราะสถิติของรถจักรยานยนต์ 1,000 ซีซี คันนี้ ทำความเร็วสูงสุดที่สนามมูเจลโล่ ประเทศอิตาลี ที่ 356.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยอันเดรีย โดวิซิโอโซ่ ฉะนั้นหากอยู่ในทีมฟุตบอลนี่คือโมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ราชาแห่งทีมชาติอียิปต์

 

210

ริมเส้นฝั่งขวา : HENNESSEY VENOM F5

     หลังจาก Bugatti Veyron ครองเจ้าสถิติความเร็วรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกอยู่พักใหญ่ ในที่สุด HENNESSEY VENOM F5 ไฮเปอร์คาร์สายพันธุ์อเมริกัน ก็ก้าวขึ้นมาเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการจากการรับรองของ Guinness Book of World Records ด้วยขุมกำลัง V8 ทวินเทอร์โบ 7.4 ลิตร 1,600 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุด 484 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่สำคัญ ทำความเร็ว 0 ถึง 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและเบรกกลับมาที่ 0 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาไม่ถึง 30 วินาที ฉะนั้นนี่คือคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เวอร์ชั่นรถยนต์ชัดๆ

 

211

ศูนย์หน้าตัวเป้า : Aston Martin DB10

     ปิดท้ายที่ศูนย์หย้าตัวเป้าที่พร้อมเผด็จศึกคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา ขอยกให้ Aston Martin DB10 รถสปอร์ตสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งเป็นรถคู่ใจของ เจมส์ บอนด์ภาคล่าสุด มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4.7 ลิตร V8 ความแรง 430 แรงม้า ออกตัว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.3 วินาที เป็นรถที่มีคาแรคเตอร์พร้อมที่จะไล่ล่าคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา ไม่ต่างอะไรกับ แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีมชาติอังกฤษ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook