หรือเมืองอัจฉริยะกำลังจะเกิด? TOYOTA จับมือ NTT ร่วมทุนพันธมิตรสร้างนวัตกรรมระดับโลก

TOYOTA Motor Corporation และ NTT ประกาศให้ทราบเกี่ยวกับความร่วมมือในการเป็นทุนพันธมิตร โดยทั้งสองฝ่ายจะลงทุนหลัก 2 แสนล้านเยน เพื่อเข้าถือหุ้นซึ่งกันและกัน ถือเป็นการร่วมทุนกันระหว่างยักษ์ใหญ่ตัวท็อปของวงการยานยนต์กับวงการสื่อสารโทรคมนาคมของญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาเทคโนโลยีระดับโลก โดยมีจุดมุ่งหมายเป็นการเดินหน้าสร้างโครงสร้าง “Smart City” หรือเมืองอัจฉริยะ ที่เปี่ยมล้ำไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย

การจับมือร่วมทุนกันในครั้งนี้ของทั้งสองบริษัท จะเป็นการหลอมรวมกันระหว่างเทคโนโลยีด้านยานยนต์แห่งอนาคตของ TOYOTA เช่น รถยนต์ไร้คนขับ กับเทคโนโลยีโทรคมนาคมการสื่อสารขั้นสูงของ NTT ร่วมกันพัฒนาบริการการเดินทางรูปแบบใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G และ 6G ในอนาคต ซึ่งการพัฒนานี้จะกลายเป็นการพัฒนาระดับโลก ในปัจจุบันทั้งวงการยานยนต์และการสื่อสารต่างต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างดุเดือด และดูท่าว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อลองพิจารณาดูแล้ว ทั้งสองเทคโนโลยีล้วนแต่ขาดไม่ได้เลยในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

ปัจจุบัน TOYOTA Motor Corporation กำลังตั้งเป้าสร้างเมืองใหม่ โดยจะสร้างให้เป็นเมืองในรูปแบบอนาคต เมืองดังกล่าวมีชื่อว่า WovenCity ตั้งอยู่ที่อำเภอซุโซโนะ จังหวัดชิสุโอกะ ชื่อเมืองดังกล่าวมีที่มาจากถนน 3 สายที่ทอดผ่านเชื่อมต่อกันเหมือนกับเป็นตาราง โดยเป็นถนนเฉพาะให้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และรถ EV ขนาดเล็กสำหรับ 1 ที่นั่งแล่นเท่านั้น

รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติไม่เพียงแต่จะให้บริการรับส่งแบบนั่งไปด้วยกันหรือที่ทาง TOYOTA เรียกว่า “Ride Share” และบริการส่งของเพียงเท่านั้น แต่ยังมีแผนการที่จะใช้เป็นร้านค้าแบบเคลื่อนที่อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโครงการหุ่นยนต์ช่วยงานบ้าน และจะมีการทดสอบให้ผู้คนราว 2,000 คนเข้าอยู่อาศัยไปพร้อมกับใช้บริการการเคลื่อนที่รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า MaaS และเทคโนโลยีหุ่นยนต์

แต่ WovenCity ของ TOYOTA จะไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ หากขาดสาธารณูปโภคด้านการสื่อสารที่สามารถเชื่อมต่อและจัดเก็บข้อมูลขนาดมหาศาล เช่น ข้อมูลจากภายในรถยนต์ เป็นต้น ได้ภายในระยะเวลาชั่วพริบตา และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว TOYOTA จึงได้เข้าร่วมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่อเมริกา และเห็นถึงความจำเป็นในการร่วมมือกับทาง NTT ที่กำลังเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี 6G ซึ่งสามารถจัดการข้อมูลขนาดมหาศาลได้ภายในช่วงเวลาชั่วพริบตา ซึ่งจะเข้ามาเพิ่มศักยภาพทางการสื่อสารต่อจากเทคโนโลยี 5G ที่จะถูกเริ่มใช้กันภายในปีนี้

อาจพูดได้ว่านี่ไม่ใช่แค่ความร่วมมือครั้งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นเพียงเท่านั้น แต่อาจจะกลายเป็นความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของเราในอนาคตเลยก็เป็นได้