กุญแจรถหายควรทำอย่างไรดี?

กุญแจรถหายควรทำอย่างไรดี?

กุญแจรถหายควรทำอย่างไรดี?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     กุญแจรถเป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ที่มีโอกาสสูญหายได้เสมอ แล้วถ้าวันหนึ่งเกิดโชคร้ายทำกุญแจหล่นหายขึ้นมาจริงๆ จะต้องทำอย่างไรต่อไป? วันนี้ Sanook Auto มีคำตอบมาฝากกันครับ

กุญแจแบบ Smart Key หาย 1 ดอก

     โดยปกติแล้วรถใหม่ป้ายแดงที่มีระบบ Smart Key จะมีกุญแจมาให้ทั้งหมด 2 ชุด รถบางรุ่นอาจมีกุญแจสำรองสำหรับเสียบไขเพิ่มเติมให้อีก 1 ดอกด้วย หากว่าดอกใดดอกหนึ่งหายไป คุณยังสามารถนำกุญแจสำรองอีก 1 ดอกมาใช้งานได้ตามปกติ

     แต่เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อการสูญหายของตัวรถหรือทรัพย์สินภายในรถ คุณควรนำกุญแจสำรองที่เหลือไปยังศูนย์บริการเพื่อทำกุญแจดอกใหม่ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 4-5 พันบาทขึ้นไปขึ้นอยู่กับรุ่นรถ พร้อมทั้งให้ศูนย์บริการลบกุญแจเดิมที่สูญหายออกจากระบบ จะช่วยให้กุญแจดอกเดิมไม่สามารถล็อก-ปลดล็อก รวมถึงสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ (พึงระลึกด้วยว่ากุญแจแบบเสียบที่ซ่อนอยู่ในกุญแจ Smart Key ยังสามารถนำมาไขเพื่อเข้าไปในห้องโดยสารหรือเปิดฝากระโปรงท้ายได้ แต่จะใช้สตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ได้)

car_key_03

กุญแจแบบ Smart Key หายทั้งหมด

     หากว่าโชคร้ายทำกุญแจหายทั้ง 2 ดอกขึ้นมาจริงๆ ให้นำแผ่นหมายเลขที่ห้อยมากับกุญแจติดต่อไปยังศูนย์บริการ จากนั้นจะมีกระบวนการออกกุญแจใหม่ให้ได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของที่แท้จริงด้วย จากนั้นศูนย์บริการจะทำการลบกุญแจดอกที่หายไปทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้

กุญแจแบบปกติที่ไม่ใช่ Smart Key หาย 1 ดอก และยังมีกุญแจสำรอง

     กรณีเป็นกุญแจแบบธรรมดาที่ไม่ใช่ระบบ Smart Key สามารถนำกุญแจดอกที่เหลือไปติดต่อยังศูนย์บริการหรือร้านทำกุญแจเฉพาะทาง เพื่อก๊อปปี้กุญแจดอกใหม่ขึ้นมาได้ หากเป็นกุญแจที่มีระบบ Immobilizer จำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อจูนรหัสกุญแจเพื่อให้สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ตามปกติ

car_key_01

กุญแจแบบปกติหายทั้งหมด และไม่มีกุญแจสำรอง

     อันนี้ถือว่างานใหญ่พอสมควร หากเป็นศูนย์บริการก็จะแนะนำให้เจ้าของรถเปลี่ยนชุดกุญแจใหม่ทั้งหมด ทั้งบริเวณประตู, ฝากระโปรงท้ายและคอพวงมาลัย ซึ่งวิธีอาจมีค่าใช้จ่ายหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว แต่จะช่วยให้กุญแจดอกเดิมไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกต่อไป

     อีกวิธีหนึ่งที่ช่างกุญแจทั่วไปนิยมใช้ คือ การรื้อกุญแจฝากระโปรงท้ายออกจนเหลือเฉพาะแกนด้านในที่มีลักษณะเป็นเขี้ยวกุญแจ จากนั้นทำการก๊อปปี้ร่องกุญแจเพื่อทำดอกใหม่ขึ้นมา หากว่าเป็นกุญแจที่ไม่มีระบบ Immobilizer ก็สามารถนำไปใช้ได้ตามปกติทันที แต่หากมีระบบ Immobilizer ด้วยล่ะก็ จะสามารถไขเพื่อเข้าไปในตัวรถได้เพียงอย่างเดียว แต่จะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ จำเป็นต้องยกรถเข้าศูนย์บริการเพื่อจูนรหัสกุญแจให้สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ตามปกติ พร้อมทั้งลบกุญแจชุดเก่าที่สูญหายออกจากระบบด้วย

     เห็นไหมครับว่าการทำกุญแจรถหายถือเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรทีเดียว หากปัจจุบันรถของคุณเหลือกุญแจเพียงชุดเดียว ก็ควรรีบทำกุญแจสำรองใหม่เก็บไว้ จะได้ไม่ได้เดือดร้อนในภายหลังครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook