รีวิวขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์แบบไดรฟ์ทรูช่วงโควิด-19 เร็วทันใจไม่เกิน 1 ชั่วโมง

     หลังจากที่ขนส่งฯ เริ่มกลับมาให้บริการตามปกติ หลายคนก็เริ่มที่จะนำรถไปต่อภาษีประจำปีกันแล้วใช่ไหมคะ วันนี้เราจะมารีวิวขั้นตอนการต่อภาษีแบบเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ที่สำนักงานขนส่งฯ โดยเฉพาะรถที่มีอายุเกิน 7 ปี ต้องเข้ารับการตรวจสภาพที่ ตรอ. จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างไปดูกันเลย

เตรียมเอกสารกันก่อน

     ก่อนอื่นเราต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมกันก่อนค่ะ ได้แก่ 1.สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (เล่มสีน้ำเงิน) แต่ถ้าไม่สะดวกใช้เล่มหรือยังอยู่กับไฟแนนซ์ก็ไม่เป็นไรค่ะ สามารถใช้สำเนาแทนได้เหมือนกัน ถ้าเกิดว่าทำหายหรือหาไม่เจอ สามารถโทรเข้าไปขอถ่ายสำเนากับไฟแนนซ์ได้ ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่จะส่งมาให้ผ่านทางอีเมลค่ะ เราสามารถปริ๊นต์และนำไปชำระภาษีได้เลย

     และ 2.หลักฐานแสดงการชำระประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือ พ.ร.บ. นั่นเองค่ะ ซึ่งจะเป็นกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่มาพร้อมกับกรมธรรม์ พ.ร.บ. หรือถ้าใครยังไม่ได้ซื้อ พ.ร.บ. ก็สามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ หรือจะซื้อที่สถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ก็ได้เช่นกันค่ะ

ขั้นตอนการต่อภาษีแบบ Drive Thru for Tax

     กรณีของเราเป็นรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปีแล้ว จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน หรือ ตรอ. กันก่อนค่ะ ซึ่งเราสามารถตรวจสภาพกับ ตรอ. ที่อยู่ใกล้บ้านได้เลย เพราะถ้าหากเลือกร้านที่อยู่ใกล้กับขนส่งฯ มีโอกาสต้องรอคิวได้ค่ะ เมื่อขับรถไปถึง ตรอ. ให้ยื่นสมุดคู่มือจดทะเบียน หรือสำเนากับเจ้าหน้าที่ แจ้งว่าตรวจสภาพเพื่อต่อภาษี โดยกรณีของเราจะทำการซื้อ พ.ร.บ. กับเจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ

     จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสภาพตามระเบียบและขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบก หรือจะลองดูรายละเอียดขั้นตอนการตรวจสภาพรถยนต์ที่นี่ก่อนก็ได้ค่ะ >> ขั้นตอนการตรวจสภาพรถที่ ตรอ. เพื่อต่อภาษีประจำปีทำอย่างไรบ้าง?

     ขั้นตอนการตรวจสภาพใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะทำการลงข้อมูลในระบบ ซึ่งเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก จัดพิมพ์เอกสารต่างๆ (กรณีของเรารวมถึงกรมธรรม์ พ.ร.บ. ด้วย) ขั้นตอนนี้มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 850 บาท แบ่งออกเป็นค่าตรวจสภาพ 200 บาท ที่เหลือเป็นค่า พ.ร.บ. ค่ะ

     จากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้เอกสารกลับมา คือ สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (หรือสำเนา) และใบผ่านการตรวจสภาพ แต่ถ้าซื้อ พ.ร.บ. กับเขา ก็จะมีกรมธรรม์และหลักฐานแสดงการประกันภัย พ.ร.บ. มาให้ด้วยค่ะ

     เมื่อพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปยังสำนักงานขนส่งที่มีบริการ Drive Thru for Tax ได้เลย เราขอแนะนำให้มาช่วงบ่ายนะคะ เพราะคิวไม่เยอะ ไม่ต้องรอนาน เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่บอกว่าถ้ามาเช้าคิวจะยาวมากค่ะ

     อันนี้เป็นเอกสารที่ต้องเตรียมค่ะ (ซึ่งกรณีของเราทาง ตรอ. เตรียมมาให้หมดแล้ว) ได้แก่ 1.ใบคู่มือจดทะเบียนรถ 2.หลักฐานแสดง พ.ร.บ. ที่ยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาคุ้มครอง 3.ใบผ่านการตรวจสภาพ และกรณีรถติด LPG/CNG จะต้องมีหนังสือรับรองการตรวจทดสอบตามเงื่อนไขที่กำหนดด้วยค่ะ

     เมื่อถึงคิวของเราก็สามารถยื่นเอกสารได้เลย จากนั้นเจ้าหน้าที่จะแจ้งจำนวนเงินที่ต้องชำระ รอไม่เกิน 2-3 นาที ก็จะได้หลักฐานการเสียภาษี พร้อมใบเสร็จรับเงินมาให้เรียบร้อย สามารถขับรถกลับบ้านได้เลยค่ะ

     ขั้นตอนทั้งหมดตั้งแต่เริ่มตรวจสภาพรถที่ ตรอ. ไปจนถึงชำระภาษีเสร็จสิ้น สำหรับเราใช้เวลาไม่ถึง 40 นาทีเท่านั้น ถือว่ารวดเร็วทันใจจริงๆ แต่ถ้าใครยังกังวลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ก็สามารถใช้บริการชำระภาษีผ่านช่องทางออนไลน์ได้เช่นกันค่ะ