H2 สุดยอดออฟโรดพลเรือน จากสายพันธุ์แกร่งของกองทัพ

H2 สุดยอดออฟโรดพลเรือน จากสายพันธุ์แกร่งของกองทัพ

H2 สุดยอดออฟโรดพลเรือน จากสายพันธุ์แกร่งของกองทัพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ขอต้อนรับศักราชใหม่แบบปีใหม่ไทยด้วย คราวนี้เราเปลี่ยนบรรยากาศ มาดูรถ off-road กันบ้างดีกว่า ด้วยการนำเสนอรถยนต์รุ่นที่ใครๆ หลายคนคิดว่าเอามาวิ่งบนท้องถนนไม่ได้ มันคือ Hummer รุ่น H2 Hummer เพราะมันมาจากสายพันธุ์เดียวกับ Humvy รถประเภทจิ๊ปที่หลายประเทศใช้ในราชการทหาร ที่เห็นเยอะที่สุดก็น่าจะเป็นช่วงนี้ที่ทหารขับออกมาวิ่งตลุยกรุงเทพฯ กันให้สนุก

   อันที่จริงเจ้า Hummer มันมีรุ่นแรกที่ผลิตขายกันไปแล้ว ชื่อรุ่น H1 ประมาณว่าถอดเอา Humvy มาแต่งให้เป็นสำหรับพลเรือนในอเมริกาก็เอามาวิ่งกัน หลายคันอยู่เหมือนกันเอาไปแสดงหนัง Hollywood ก็แยะ แต่ด้วยลักษณะทางกายภาพที่ใหญ่โตของมันไม่พอดีกับขนาดของถนนเมืองไทย เพราะถ้าเอามาวิ่งในกรุงเทพฯ ต้องใช้ถนนให้มันวิ่งถึง 2 เลน แถมบ้านเรายังเต็มไปด้วยตรอกซอกซอยเต็มไปหมด ด้วยประการละเช่นนี้ H1 เลยไม่ค่อยมาให้เห็นโฉมหน้าในเมืองไทยมากเท่าใดนัก 

 

 

 

    สำหรับเจ้า H2 ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อลดปัญหาของ H1 ด้วยการปรับลดไซด์ให้มีขนาดที่เล็กลงแต่ยังคงรูปลักษณ์ของ Hummer ไว้ทุกกระเบียด โดยมีความยาว 4.821 เมตร ยาวใกล้เคียงพอๆ กันกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 7 ที่ยาว 5.169 เมตร กว้าง 2.62 เมตร ลองจินตนาการนึกภาพของนายแบบ นางแบบหรือนักบาสเก็ตบอลที่ว่าสูงๆ เกือบ 2 เมตร มานอนขวางยังเหยียดแข้งเหยียดขาได้อย่างสบายๆ และมันสูง 1.976 เมตร เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นสามเหตุที่ว่าเพราะเหตุอันใดที่ว่าทำไมเวลาเราเดินเข้าโรงแรมหรู บางทีถึงเห็น H2 คันนี้ต้องจอดอยู่ข้างหน้า เพราะมันไม่สามารถปีนขึ้นไปจอดบนอาคารจอดรถหลายๆ แห่งได้ เพราะส่วนใหญ่อาคารจอดรถจำกัดความสูงไว้แค่ 1.9 เมตร

    เรื่องสมรรถนะ H2 คันนี้หายห่วงจริงๆ เพราะว่าใช้เครื่องยนต์ Vortec V8 6000 ซีซี. เรียกว่าซดน้ำมันกันเป็นแกลอนๆ กันเลยหละแรงม้าไม่มากมาย 316 แรงม้า ที่ 5200 รอบต่อนาที แรงบิดก็เรียกว่ามหาศาลเลยหละ 490 นิวตันเมตร ที่ 4000 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full Time กับ 2 สปีดแบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมระบบถ่ายทอดกำลังแบบอัตโนมัติ ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระทอชั่นส์บาร์ ซ๊อกอัพแก๊ส พร้อมเหล็กกันโครง ระบบ Air Suspension ที่สามารถปรับระบบตามสภาพพื้นผิว ดิสก์เบรก 4 ล้อ แน่นอนต้องมาพร้อมกับ ABS ควบคุมด้วย Traction Control System  และครีบระบายความร้อนดิสก์เบรกหน้า คาลิเปอร์เบรกลูกสูบแปรผันตามความเร็วน้ำหนักของมันคือ 2.909 กิโลกรัม ระบบช่วงล่างที่ว่านี้มันจะทำงานประสานกันมีการปรับระดับความสูง-ต่ำของช่วงล่างได้อัตโนมัติทำงานควบคู่กับปั๊มลมที่ทำให้มันสามารถปีนป่ายได้ระดับ 41.8 องศา และสามารถวิ่งผ่านน้ำได้ถึง 50 ชั่วโมง ต้องเรียกว่ามันเป็นรถสำหรับตะลุย บุกป่า ฝ่าดง จริงๆ

 

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ H2 สุดยอดออฟโรดพลเรือน จากสายพันธุ์แกร่งของกองทัพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook