ถ้า Tesla เข้าไทย ใครสะเทือน?

     หากนึกถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกคนย่อมต้องนึกถึง Tesla เป็นลำดับแรก และแน่นอนว่าหากนึกถึง Tesla ทุกคนย่อมนึกถึงรถ EV เช่นกัน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าค่ายรถน้องใหม่ของอีลอน มัสก์ คือผู้นำกระแสรถพลังงานไฟฟ้าทั่วโลก

     ที่ผ่านมาบนท้องถนนเมืองไทย เราได้เห็นเทสล่าออกมาวิ่งกันมากขึ้น และหากสำรวจในตลาดออนไลน์ก็เริ่มมีเทสล่ามือสองขายกันแล้ว แต่ทั้งหมดเป็นรถที่ขายผ่านบริษัทนำเข้ารถยนต์อิสระหรือทื่เราเรียกกันว่า “เกรย์มาร์เก็ต” จวบจนมีกระแสข่าวว่าเทสล่ากำลังจะเข้ามาทำตลาดบ้านเราอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้

     กระแสข่าวที่ว่านี้ มาจากภาพหลุดเอกสารจดทะเบียนการค้าภายใต้ชื่อ บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด มีทุนจนทะเบียน 3 ล้านบาท อาจดูน้อยไปมากกับธุรกิจระดับนี้ แต่อย่างว่าครับ เรายังไม่ชัดเจนว่าการมาครั้งนี้ อีลอน มัสก์ มีแผนอย่างไรกันแน่ จะมาขายรถ หรือแค่ทำธุรกิจสถานีชาร์จไฟฟ้าในบ้านเรา

     ขณะเดียวกันไม่กี่วันก่อนหน้าที่จะมีกระแสข่าวเทสลามาไทย เพิ่งจะมีข่าวว่าค่ายรถไฟฟ้าอเมริกันกำลังเตรียมสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ และโรงงานผลิตรถไฟฟ้า ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งหากเป็นไปตามข่าว การเตรียมเข้ามาทำตลาดในบ้านเราของเทสลาก็ยิ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้นไปอีก

     คำถามคือจะเกิดอะไรขึ้นหากเทสลาเข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการในบ้านเราในนาม Tesla Thailand ซึ่งคำตอบในมุมมองส่วนตัวของผมคือ ถ้าเข้ามาจริงจะส่งผลกระทบถึงขั้นสะเทือนวงการรถยนต์บ้านเราแน่นอน เพราะขึ้นชื่อว่า บริษัทแม่ การเข้ามาอย่างเป็นทางการย่อมได้รับความน่าเชื่อถือมากกว่าอยู่แล้ว

     จุดเด่นของรถนำเข้าที่ซื้อจากเกรย์มาร์เก็ต อาจจะราคาถูกกว่ารถที่ซื้อผ่านดีลเลอร์อย่างเป็นทางการ แต่จุดด้อยคือ เรื่องของการรับประกัน ศูนย์บริการ และอะไหล่ ที่เป็นรองศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถ EV ที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในยุคเริ่มต้นเช่นนี้ครับ

     ประเด็นต่อมาคือ “ราคา” ปัจจุบัน เทสลา ยกตัวอย่างรุ่น Model 3 ที่จะมีรุ่นย่อยตามระยะมากน้อยต่อการชาร์จ ในปัจจุบันในบ้านเราผู้นำเข้าอิสระก็จะขายอยู่ในราคาตั้งแต่ 3 ล้าน ไปจนถึง 4 ล้านบาท น่าสนใจว่าถ้าบริษัทแม่เข้ามาทำตลาดเอง ราคาจะลดลงมาได้แค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ ราคาจะถูกลงแน่นอน

     ซึ่งเรื่องของราคานี้ก็จะส่งผลกระทบไปถึงค่ายรถจีนที่เข้ามาบุกตลาดเมืองไทยก่อนหน้านี้ เพราะหากรถระดับเทสลาทำราคาลงมาได้ ค่ายรถจีนก็คงต้องปรับกลยุทธ์ตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดจะส่งผลดีกับผู้ซื้อ เพราะจะมี EV เป็นตัวเลือกเพิ่มขึ้นในราคาที่เร้าใจกว่าเดิม

     รวมถึงค่ายรถทั้งญี่ปุ่นและยุโรป โดยเฉพาะยุโรป ที่ตอนนี้ มีวอลโว่, บีเอ็มฯ, มินิ รวมถึงเบนซ์ เปิดตัว EV ในบ้านเรากันไปแล้ว เพราะถือเป็นคู่ต่อกรโดยตรงกับเทสลา เพราะอย่างเมอร์เซเดสไฟฟ้า EQ ที่เพิ่งเปิดราคาในบ้านเรา ก็บอกเลยว่าแพงเหลือเกินครับ เคาะราคาออกมาเกือบจะไปแตะหลัก 10 ล้านบาทเลยทีเดียว

     สุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของบ้านเรา ที่ก่อนหน้าประกาศลงนามกับค่ายผู้ผลิตรถ EV หลายเจ้า เพื่อเตรียมทำรถไฟฟ้าออกมาขายในบ้านเรา ผมเชื่อว่าถ้า เทสลา มาไทยจริง เคสสุดท้ายนี่แหละครับที่จะสะเทือนมากที่สุด! คุณคิดเหมือนผมไหมครับ