แนะวิธีขับรถเกียร์ออโต้ที่ถูกต้อง

แนะวิธีขับรถเกียร์ออโต้ที่ถูกต้อง

แนะวิธีขับรถเกียร์ออโต้ที่ถูกต้อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ปัจจุบันรถยนต์เกียร์อัตโนมัติได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะผู้ขับขี่มือใหม่ที่เพิ่งหัดขับรถ เพราะสามารถขับได้ง่ายกว่าเกียร์ธรรมดา เพียงแค่ใช้ตำแหน่งเกียร์อย่างถูกต้อง ก็สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล Sanook Auto จึงขอพาคุณผู้อ่านไปรู้จักความหมายของเกียร์ออโต้แต่ละตำแหน่ง มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

     P ย่อมาจาก Park หมายถึง เกียร์จอด ควรใช้ตำแหน่งเกียร์ P ต่อเมื่อได้ทำการจอดรถเสร็จสิ้นเรียบร้อย อยู่ในช่องจอดอย่างปลอดภัย และไม่กีดขวางรถคันอื่น เพราะรถที่อยู่ในตำแหน่งเกียร์ P จะไม่สามารถเข็นเดินหน้าหรือถอยหลังได้เลย

     R ย่อมาจาก Reverse หมายถึง เกียร์ถอยหลัง โดยทุกครั้งที่เข้าเกียร์ถอยหลังจะต้องเหยียบเบรกก่อนเสมอเพื่อความปลอดภัย และเมื่อรถเคลื่อนตัวถอยหลังจนได้ที่แล้ว ควรเปลี่ยนเกียร์ไปยังตำแหน่งอื่นที่ต้องการทันที เพื่อป้องกันรถไหลถอยหลังโดยไม่ตั้งใจ

     N ย่อมาจาก Neutral หมายถึง เกียร์ว่าง ใช้ในกรณีรถหยุดติดไฟแดง หรือกรณีใดๆ ที่รถไม่สามารถเคลื่อนตัวได้เป็นระยะเวลานาน โดยตำแหน่งเกียร์ N จะแตกต่างจากตำแหน่ง P เนื่องจากรถยังสามารถไหลเคลื่อนที่ได้หากพื้นถนนไม่ระนาบ จึงควรดึงเบรกมือเพื่อป้องกันรถไหลควบคู่กันไปด้วย

     D ย่อมาจาก Drive หมายถึง เกียร์เดินหน้า ใช้เมื่อต้องการให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า โดยตำแหน่งเกียร์ D จะมีการเปลี่ยนอัตราทดครบทุกเกียร์โดยอัตโนมัติ (ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นเกียร์ 5 สปีด ก็จะมีการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ตั้งแต่เกียร์ 1 ไปจนถึงเกียร์ 5 ขึ้นอยู่กับความเร็วในขณะนั้น)

     D3, D2 และ D1 หมายถึง เกียร์เดินหน้าที่มีการจำกัดอัตราทดสูงสุดไว้ (ยกตัวอย่างเช่น เกียร์ D3 จะมีการเปลี่ยนอัตราทดตั้งแต่เกียร์ 1 ไปสูงสุดที่เกียร์ 3) เหมาะสำหรับการเร่งแซงหรือขึ้นเขา จะช่วยเรียกพละกำลังเครื่องยนต์ได้มากกว่าปกติ โดยการเลือกใช้ตำแหน่งเกียร์ D3, D2 หรือ D1 จะขึ้นอยู่กับความเร็วตัวรถในขณะนั้น

     L ย่อมาจาก Low หมายถึง ตำแหน่งเกียร์ต่ำ ซึ่งโดยมากแล้วจะหมายถึงตำแหน่งเกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 (ซึ่งมีการทำงานแบบเดียวกับเกียร์ D1 หรือเกียร์ D2) โดยจะใช้เพื่อเรียกกำลังเครื่องยนต์ในการเร่งแซงหรือขึ้นเขา รวมถึงใช้ในการประคองความเร็วขณะลงเขาได้ด้วย

     S ย่อมาจาก Sport โดยตำแหน่งเกียร์ S อาจมีลักษณะเป็นปุ่ม Sport ติดตั้งอยู่บริเวณใกล้กับคันเกียร์ก็ได้ โดยตำแหน่งเกียร์ S จะช่วยเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ในรอบเครื่องยนต์สูงกว่าปกติ ช่วยเพิ่มอัตราเร่งตลอดช่วงการเดินทาง ผู้ขับขี่จึงสามารถเร่งแซงได้อย่างรวดเร็วทันใจ แต่ก็แลกมาด้วยการกินน้ำมันมากกว่าปกติเช่นกัน

     M ย่อมาจาก Manual จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกตำแหน่งเกียร์เองได้แบบเกียร์ธรรมดา โดยผลักคันเกียร์ไปยังตำแหน่ง + หรือ - เพื่อเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่มีทักษะในการขับรถพอประมาณ จะช่วยให้การทำงานของเกียร์สอดคล้องกับความต้องการของผู้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น

gearshift

     กรณีมีความจำเป็นต้องจอดรถขวางคันอื่น ต้องทำอย่างไรเพื่อให้รถเข็นได้?

     หากมีความจำเป็นต้องจอดรถกีดขวางรถที่อยู่ในช่องจอด เช่น ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้า, ลานจอดรถของสนามบิน ฯลฯ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปลดล็อกเกียร์ให้รถสามารถเข็นได้ เนื่องจากถ้ารถอยู่ในตำแหน่งเกียร์ N หรือเกียร์ว่าง ผู้ขับขี่จะไม่สามารถดึงกุญแจออกได้ กรณีเช่นนี้ให้ทำการเข้าเกียร์ P ตามปกติ จากนั้นดึงกุญแจรถออก กดปุ่ม “SHIFT LOCK” ที่อยู่ใกล้กับคันเกียร์ (รถบางรุ่นจำเป็นต้องใช้ดอกกุญแจเสียบ) จากนั้นดึงคันเกียร์มายังตำแหน่ง N รถก็จะสามารถเข็นได้แล้ว

     เพียงเท่านี้ก็จะสามารถขับรถเกียร์ออโต้ได้อย่างปลอดภัยและถูกวิธีแล้วครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook