"ยางระเบิด" ห้ามทำสิ่งนี้เด็ดขาด!

"ยางระเบิด" ห้ามทำสิ่งนี้เด็ดขาด!

"ยางระเบิด" ห้ามทำสิ่งนี้เด็ดขาด!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ปัญหายางระเบิดอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะรถที่ขาดการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี แล้วทราบหรือไม่ว่าหากคุณประสบปัญหายางระเบิดขณะขับรถขึ้นมาจริงๆ จะมีข้อห้ามอย่างไรบ้างเพื่อให้สามารถหยุดรถได้อย่างปลอดภัย Sanook Auto จะพาไปหาคำตอบกัน

ยางระเบิดเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ปัญหายางระเบิดมีสาเหตุหลักมาจากการขาดการบำรุงรักษาของเจ้าของรถ โดยสามารถแบ่งเป็น 3 สาเหตุหลัก ดังนี้

  1. ยางหมดอายุการใช้งาน - สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่ายางรถยนต์หมดอายุการใช้งานมีหลากหลาย เช่น มีรอยแตกลายงา, ยางปูดบวม, ยางฉีกขาด ฯลฯ หากพบว่ายางมีปัญหาเหล่านี้ควรรีบเปลี่ยนเส้นใหม่โดยเร็วที่สุด แม้ว่ายางเส้นนั้นจะยังคงมีดอกยางเหลืออยู่ก็ตาม
  2. บรรทุกน้ำหนักมากเกินไป - ยางแต่ละเส้นล้วนแต่มีน้ำหนักบรรทุกกำหนดไว้เรียกว่า "Load Index" หากยางต้องรับน้ำหนักมากจนเกินไป อาจส่งผลให้ยางระเบิดได้
  3. ใช้ความเร็วสูงเกินไป - ยางแต่ละเส้นจะมีความเร็วสูงสุดกำหนดไว้ การใช้ความเร็วสูงเกินขีดจำกัดก็ส่งผลให้เกิดยางระเบิดได้เช่นกัน

>> ยางรถคุณวิ่งได้เร็วสุดแค่ไหนดูได้จากตรงนี้

หากยางระเบิดต้องรับมืออย่างไร?

     เหตุการณ์ยางระเบิดมักเกิดขึ้นขณะขับรถด้วยความเร็วสูง ซึ่งมักจะตามมาด้วยอุบัติเหตุรุนแรงอยู่บ่อยครั้ง แต่ถึงอย่างไรผู้ขับขี่ควรยึดหลักปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุให้น้อยที่สุด ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกรุนแรง - หากรถยนต์เกิดยางระเบิดขณะเคลื่อนที่ ห้ามเหยียบเบรกอย่างรุนแรงโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้รถเกิดการเสียหลักได้ ควรปล่อยให้รถค่อยๆ ชะลอความเร็วลงเอง แต่หากมีความเสี่ยงที่รถจะพุ่งไปชนคันหน้า ควรแตะเบรกแต่เพียงแผ่วเบาเท่านั้น หากรถมีอาการแฉลบไปด้านข้างควรรีบปล่อยเท้าออกจากเบรกทันที
  2. จับพวงมาลัยให้มั่นคง - ควรปล่อยให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเป็นทางตรง หลีกเลี่ยงการหักพวงมาลัยอย่างรุนแรงเพื่อไม่ให้รถเสียหลัก
  3. เปิดไฟฉุกเฉิน - ควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเพื่อเตือนรถคันอื่นให้ทราบว่ารถของคุณกำลังมีปัญหา แต่อย่าลืมว่าไฟเลี้ยวจะไม่สามารถใช้งานได้ในระหว่างที่ไฟฉุกเฉินกำลังทำงานอยู่
  4. ประคองรถข้างทางอย่างปลอดภัย - เมื่อความเร็วค่อยๆ ลดลงจนอยู่ในระดับที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทิศทางได้ ให้นำรถเข้าชิดขอบทางด้านซ้ายและหยุดรถในจุดที่ไม่เป็นการกีดขวางการจราจร

001

หลังหยุดรถแล้วควรทำอย่างไรต่อ?

     กรณีรถมียางอะไหล่ และสามารถลงมือเปลี่ยนล้อเองได้ ควรเลือกตำแหน่งจอดรถที่เหมาะสม อยู่ห่างจากช่องทางเดินรถให้มากที่สุด มีพื้นที่ว่างเพียงพอที่จะลงมือเปลี่ยนยางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ส่วนกรณีเปลี่ยนล้อเองไม่เป็น สามารถใช้บริการรถลากหรือรถสไลด์เพื่อนำรถไปยังร้านยางใกล้เคียงได้

     ทางที่ดีเจ้าของรถควรหมั่นดูแลรักษายางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี ไม่ละเลยสัญญาณอันตรายเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยางเส้นใหม่ รวมถึงใช้น้ำหนักบรรทุกและความเร็วอย่างเหมาะสมเสมอ ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายางระเบิดได้แล้วครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook