Toyota Yaris 2023 ไมเนอร์เชนจ์เพิ่มขุมพลังไฮบริด 130 แรงม้าที่ยุโรป

Toyota Yaris 2023 ไมเนอร์เชนจ์เพิ่มขุมพลังไฮบริด 130 แรงม้าที่ยุโรป

Toyota Yaris 2023 ไมเนอร์เชนจ์เพิ่มขุมพลังไฮบริด 130 แรงม้าที่ยุโรป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     Toyota Yaris 2023 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ยุโรป เพิ่มทางเลือกด้วยขุมพลังไฮบริด "Hybrid 130" ที่ปรับจูนเพิ่มกำลังสูงสุดเป็น 130 แรงม้า พร้อมเพิ่มฟังก์ชันอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA (Over-the-air) เป็นครั้งแรก

yaris2023_16

     Toyota Yaris Hybrid รุ่นปรับโฉมที่เพิ่งเปิดตัวในยุโรปดังกล่าว ถูกเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ที่ชื่นชอบความแรงด้วยขุมพลังไฮบริด Hybrid 130 ใหม่ล่าสุด วางจำหน่ายควบคู่ไปกับขุมพลังไฮบริด Hybrid 115 เดิม โดยยังคงใช้พื้นฐานของเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แต่ได้มีการปรับจูนซอฟต์แวร์ของกล่อง PCU (Power Control Unit) ควบคู่ไปกับเพิ่มพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 130 แรงม้า (เดิม 116 แรงม้า) แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 185 นิวตัน-เมตร (เดิม 141 นิวตัน-เมตร)

     Toyota Yaris Hybrid 130 สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ได้ในเวลา 9.2 วินาที ลดลงจากรุ่นเดิมประมาณครึ่งวินาที และยังมีอัตราเร่งแซงจาก 80 - 120 กม./ชม. ลดเหลือ 7.5 วินาที ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกได้ถึงพละกำลังที่เพิ่มขึ้นในทุกย่านความเร็ว แลกกับอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ถึงกระนั้นโตโยต้าระบุว่า Yaris Hybrid ใหม่ มีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 96 - 116 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน

yaris2023_08

     นอกจากนี้ Toyota Yaris ใหม่ ยังมีการปรับปรุงระบบความปลอดภัยขั้นสูง Toyota T-Mate (Toyota Safety Sense เป็นส่วนหนึ่งของ Toyota T-Mate) พร้อมทั้งเพิ่มฟีเจอร์อัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA (Over-the-air) ช่วยให้เจ้าของรถสามารถอัปเดตระบบมัลติมีเดียและระบบ Toyota Safety Sense โดยไม่จำเป็นต้องนำรถเข้าศูนย์บริการเสมอไป

     ขณะที่ระบบ Toyota Safety Sense มีการติดตั้งกล้องและเรดาร์ที่สามารถตรวจจับได้ไกลและกว้างยิ่งขึ้น ส่งผลให้ระบบป้องกันชนด้านหน้า Pre-Collision System (PCS) สามารถตรวจจับรถคันที่วิ่งสวนมาได้ เสริมด้วยฟังก์ชัน Proactive Driving Assist (PDA) ใหม่ล่าสุด ที่ช่วยลดความเร็วโดยอัตโนมัติเมื่อรถเคลื่อนที่เข้าใกล้รถคันหน้าในช่วงจังหวะที่ผู้ขับขี่ปล่อยเท้าออกจากคันเร่ง และระบบ Steering Assist ช่วยบังคับพวงมาลัยเพื่อให้สามารถเข้าโค้งได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น

     นอกจากนี้ ระบบ Emergency Driving Stop System (EDSS) ใหม่ ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยกรณีผู้ขับขี่หมดสติ โดยหากระบบตรวจจับว่าผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนองทั้งคันเร่งและพวงมาลัยเป็นระยะเวลานาน ระบบจะส่งเสียงสัญญาณแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ได้รับทราบ และหากยังไม่ได้รับการตอบสนองอีก รถจะค่อยๆ ชะลอความเร็วและหยุดโดยอัตโนมัติ ควบคู่ไปกับการเปิดไฟฉุกเฉินและปลดล็อกประตูเพื่อรับความช่วยเหลือต่อไป

yaris2023_07

     ภายในห้องโดยสารของ Toyota Yaris เวอร์ชันยุโรปถูกติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถปรับโหมดการแสดงผลได้ 4 รูปแบบตามความต้องการ พร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนท์ที่มีให้เลือกทั้งขนาด 9 นิ้ว และ 10.5 นิ้วขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ทั้งยังมีฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงเพียงพูดคำว่า "Hey Toyota" แล้วตามด้วยคำสั่งที่ต้องการ รวมถึงฟังก์ชัน Smart Digital Key ที่ใช้สมาร์ทโฟนแทนกุญแจรถได้

     ดีไซน์ภายนอกของ Toyota Yaris เวอร์ชันยุโรปมีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย ด้วยการติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วดีไซน์ใหม่ตั้งแต่รุ่น Mid ขึ้นมา เพิ่มเติมด้วยรุ่นพิเศษที่เรียกว่า Premiere Edition วางเป็นรุ่นท็อปสุด สามารถเลือกตัวถังสีน้ำเงิน Neptune Blue ใหม่ล่าสุดตัดกับหลังคาสีดำ พร้อมด้วยห้องโดยสารที่ถูกตกแต่งเป็นพิเศษเฉพาะรุ่น

     สำหรับการวางจำหน่าย Toyota Yaris 2023 โฉมไมเนอร์เชนจ์ที่ยุโรปจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้

อัลบั้มภาพ 20 ภาพ

อัลบั้มภาพ 20 ภาพ ของ Toyota Yaris 2023 ไมเนอร์เชนจ์เพิ่มขุมพลังไฮบริด 130 แรงม้าที่ยุโรป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook