ด้วยการให้ความสำคัญในการออกแบบของ C-HR ด้วยน้ำหนักของระบบ Hybrid และการออกแบบจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำทำให้ได้เสถียรภาพของการขับขี่และความรู้สึกที่ดีในการขับขี่ (มีความคล่องตัวเมื่อเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ) การตอบสนองต่อพวงมาลัยที่นุ่มนวล ถึงจะเป็นล้อขนาดขอบ 17 นิ้ว แต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่หนักแต่อย่างใด รอบๆในส่วนของตำแหน่งผู้ขับขี่ก็รายล้อมไปสวิตซ์ต่างๆที่ง่ายต่อการใช้งาน

การออกแบบรูปลักษณ์ถือว่าทำออกมาได้ดี มาลองดูในส่วนของประโยชน์ใช้สอยกันบ้างว่าจะดีไม่แพ้กันหรือไม่ เปรียบกับรองเท้าส้นสูงที่แน่นอนดูสวยงามแต่การสวมใส่นั้นค่อนข้างจะยากลำบาก

207

เริ่มต้นจากตำแหน่งผู้ขับขี่มองออกไปด้านหน้าถือได้ว่ามีทัศนวิสัยที่ดี มองเห็นชัดเจน ส่วนบริเวณเสา A pillar ดูไม่ติดขัด แต่เมื่อต้องการจอดรถแล้วต้องมองไปบริเวณด้านหลังเยื้องไปทางซ้าย ดูจะค่อนข้างลำบากต้องบิดคอค่อนข้างมาก เนื่องด้วยขนาดของเสา C Pillar ที่มีขนาดอ้วน และการมองออกไปข้างนอกตรงกระจกประตูหลังแลดูจะติดขัดอยู่พอสมควร มือเปิดประตูหลังมือใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก มุมมองที่กว้างจากกล้องถอยหลังจึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญ ในจุดนี้ด้วยการที่มองไม่เห็นด้วยตา ส่วนของความรู้สึกนั้นอาจจะไม่ค่อยสบายใจนักเท่าไหร่

205

ส่วนของมือเปิดของประตูด้านหลังที่ออกแบบมาให้อยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างสูง จึงน่าเป็นห่วงสำหรับเด็กที่ตัวไม่สูงนัก หรืออาจถูกดึงเล่นได้ ดังนั้นในจุดนี้การใช้งานเปิด-ปิด ของเด็กก็จะทำได้ยาก

200_1

เมื่อนั่งในส่วนของเบาะผู้โดยสารด้านหลัง เห็นได้ชัดถึงการให้ความสำคัญกับระยะศีรษะถึงเพดานด้วยความสูงของเบาะหลังที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งก็ทำให้การมองเห็นข้างหน้านั้นทำได้ไม่ดีนัก โดยถ้าเปรียบเทียบกับรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาในลักษณะของจุด Hip Point ของเบาะผู้โดยสารด้านหลังที่สูงกว่า เพื่อการมองเห็นทัศนวิสัยด้านหน้าที่ง่ายกว่านั้น ถือว่ามีความรู้สึกที่ต่ำลงไปมากพอสมควร

206

ยิ่งไปกว่านั้นส่วนตัวมีความรู้สึกเป็นห่วงในส่วนของการเปิด-ปิด ประตูด้านท้าย โดยถ้าเป็นสุภาพสตรีน่าจะต้องใช้แรงในการเปิดและปิดมากเป็นพิเศษ หรืออาจะต้องมีการปิดซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากน้ำหนักที่มากของฝาปิดด้านท้าย แต่ก็ยอมรับในการออกแบบที่ดูสวยงาม ถ้าเป็นไปได้ก็น่าจะทำเหมือนอย่าง PRIUS ที่ได้มีการประยุกต์ใช้วัสดุน้ำหนักเบามาทดแทนในส่วนของฝาปิดด้านท้าย

202

เรื่องของรูปลักษณ์ที่สวยงามกับความสะดวกต่อการใช้งานนั่นที่จริงแล้วก็ขึ้นอยู่กับค่านิยมของแต่ละคนที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าถ้าได้ทดลองขับและทดลองสัมผัส ก็จะสามารถตอบกับตัวเองได้ว่าเหมาะสมหรือถูกใจตรงความต้องการของตัวเองหรือไม่

ผลการประเมินคะแนนเต็ม 5 ดาว

รูปลักษณ์ภายนอก : ★★★
ภายในห้องโดยสาร : ★★★
เครื่องยนต์ : ★★★★
ช่วงล่าง : ★★★★★
ระดับการแนะนำ : ★★★

ผู้เขียน

อิวาซาดะ รุมิโกะ (Motor Journalist/นักเขียน)

เคยอาศัยอยู่ในประเทศอิตาลี แสดงความคิดเห็นต่อรัฐบาลเรื่องการเมืองในมุมมองสากล นอกจากงานทำข่าวเกี่ยวกับ Compact car โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัจจุบันยังเป็นนักเขียนแนว Non-fiction โดยทำกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กๆ ได้รู้คุณค่าของชีวิต สำหรับ Response นั้นจะเขียนบทความในมุมมองของ End user หญิงอายุเกือบๆ 50 ปี

บทความจาก Response
แปลโดย TUM GARAGE

อัลบั้มภาพ ทดสอบขับ Toyota C-HR รูปทรงสวยงาม ประโยชน์ใช้สอยจะดีเหมือนกันมั้ย ภาพที่ 6 / 9

ทดสอบขับ Toyota C-HR รูปทรงสวยงาม ประโยชน์ใช้สอยจะดีเหมือนกันมั้ย

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

รวม 8 ไฮไลท์เด็ดห้ามพลาดที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017

พรีวิว Toyota C-HR 2018 ใหม่ สัมผัสครอสโอเวอร์ดีไซน์เฉียบก่อนใครถึงญี่ปุ่น

Toyota C-HR LED Edition 2018 ใหม่ เริ่มวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่น ราคา 740,000 บาท

ยลโฉม Toyota C-HR 2018 สีแดง Red Pearl ก่อนเปิดตัวในไทยปลายเดือนนี้